กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--พม.
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เทศกาลวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักที่กำลังจะมาถึง นับเป็นวันที่คนไทยจำนวนมากให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กและเยาวชน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ปัจจุบันพบว่า เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมชิงสุกก่อนห่ามมากขึ้น และไม่ได้มีการป้องกันตนเอง โดยถือเอาวันวาเลนไทน์ เป็นวันเริ่มต้นที่ทำให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และอาจนำมาซึ่งการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ที่สังคมไทยกำลังประสบปัญหาอย่างมาก กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยศูนย์การเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม ได้ทำการสำรวจข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน พร้อมเตรียมการเฝ้าระวัง ป้องกันและหามาตรการ รวมทั้งแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวาเลนไทน์ขึ้นทุกปี โดยในวันวาเลนไทน์ปี ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา พบว่า มีคู่รักวางแผนที่จะมีเพศสันมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ โดยเป็นกลุ่มนักศึกษามากที่สุด ร้อยละ ๕๔.๙ รองลงมาเป็นกลุ่มนักเรียน ร้อยละ ๒๗.๘ และวัยทำงาน ร้อยละ ๑๗.๓ ตามลำดับ ซึ่งการที่เด็กและเยาวชนมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ ทำให้ประเทศไทยมีจำนวนแม่วัยรุ่น มีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี ที่คลอดบุตร ปี ๒๕๕๒ — ๒๕๕๔ มีจำนวนเกินกว่าร้อยละ ๑๓ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
นายสันติ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงวันวาเลนไทน์นี้ จึงอยากรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน สอดส่องดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด เช่น สถาบันครอบครัว ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่บุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการประพฤติตน ไม่เหมาะสมในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ให้รู้จักการมีความรักอย่างถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย สถาบันการศึกษา มีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความรู้แก่เด็กและเยาวชน เช่น คุณธรรมจริยธรรม การฉลองวาเลนไทน์ ให้ปลอดภัย ความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย โรคติดต่อทางเพศ โรคเอดส์ การคุมกำเนิด เป็นต้น รวมทั้งความร่วมมือจากเครือข่ายต่างๆ ที่ต้องทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานหลักด้านการรายงานสถานการณ์ การแจ้งข้อมูลและการป้องกันในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการเสนอข่าวสารเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ในเชิงสร้างสรรค์
เพื่อกระตุ้นเตือนและสร้างจิตสำนึก สร้างทัศนคติเชิงบวก เช่น ค่านิยมทางเพศที่ผิดๆ ความฟุ่มเฟือย การให้ความสำคัญกับครอบครัว ที่สำคัญคือเยาวชนซึ่งยังอยู่ในวัยเรียน ควรคำนึงถึงประเพณีไทย รักนวลสงวนตัว ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว หากไปเที่ยวที่ใด ก็ควรมีเพื่อนที่ไว้วางใจได้ไปด้วย ในส่วนของสถานบริการก็ควรดูแล ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่ากำหนดเข้าไปใช้บริการ
“สำหรับเทศกาลวันวาเลนไทน์ โดยทั่วไปทราบว่าเป็นวันแห่งความรักของหนุ่มสาว จึงอยากให้ทุกภาคส่วน ของสังคม ช่วยกันประชาสัมพันธ์รณรณรงค์ให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่า วันวาเลนไทน์สำหรับคนไทยควรเป็นวันแห่งความรักของครอบครัวด้วย เด็กและเยาวชนควรแสดงความรักต่อบุคคลในครอบครัว ตามขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมไทย เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความอบอุ่นในครอบครัว” นายสันติ กล่าว.