กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--MTS GOLD GROUP
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,653 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,646 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.78 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,300 บาท กับ 23,400 บาท และกลับมาปิดที่ 23,250 บาท กับ 23,350 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 3,579 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,015 คู่สัญญา และ Silver Futures ไม่มีปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2 % แบบ 10 บาท ลดลง 6 % และ Silver Futures ไม่เปลี่ยนแปลง GFG13 ปิด 23,370 บาท และ GFJ13 ปิด 23,500 บาท GF10G13 ปิดที่ 23,370 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,510 บาท SVG12 ไม่มีปริมาณการซื้อขาย
สัญญา Comex ปิดลดลง 4.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,645.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 15 เซ็นต์ ที่ระดับ 30.86 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,325.99 ตัน (ขายออก 0.90 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 50 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 97.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 35.79 จุด ปิดที่ 13,982.91 จุด
ข่าวที่สำคัญ
Bullion Desk, Reuters, Bloomberg, Kitco News, Market Watch
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1,650 เหรียญ เพื่อรอการประชุม G20 ที่จะมีในวันศุกร์และวันเสาร์นี้ ที่จะมีชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายทางค่าเงินของยูโรโซนที่ชัดเจน
ส่วนการปิดตลาดของจีน ในช่วงตรุษจีน ซึ่งจะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ทำให้ปริมาณการซื้อขายลดลง คาดว่าความต้องการทองคำแท่งในตลาดเซี่ยงไฮ้จะลดลง 10% ในเดือน ก.พ. จากเดือน ม.ค.
ส่วนความต้องการทองคำในอินเดียได้ลดลงในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนรอช้อนซื้อในราคาที่ต่ำกว่านี้ และตลาดเอเชียส่วนใหญ่ยังปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีน รวมถึงการที่รัฐบาลอินเดียเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำ 6% อีกด้วย
SPDR ลดการถือครองทองคำลง 0.07% หรือ 0.9 ตัน สู่ระดับ 1325.99 ตัน จากระดับ 1326.89 ตัน เมื่อวานนี้
UBS คาดว่า แนวรับของราคาทองคำจะอยู่ในช่วง 1,639 เหรียญ และแนวรับถัดไปคือ 1,625 เหรียญ
Reuters เผยว่านักวิเคราะห์ต่างๆ คาดว่า ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนการประชุม G20 จากการทำ Short-covering หรือ ปิดสถานะ Short แม้นักลงทุนจะไม่ได้คาดว่าจะมีการแถลงที่สร้างความประหลาดใจมากนักในการประชุม
การประชุม G20 ที่ประกอบด้วยรัฐมนตรีคลังและธนาคารกลางยุโรป จะมีการเจรจาเกี่ยวกับประเด็นการแข่งขันของนโยบายค่าเงิน ซึ่งการประชุม G7 ในวันจันทร์ได้ลดความกังวลเกี่ยวกับสงครามค่าเงินที่เกิดจากการทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าของญี่ปุ่น แต่ตลาดยังขาดความชัดเจน
นอกจากนี้ตลาดยังมองว่าผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่นคนใหม่ สุดท้ายไม่ว่าใครจะเป็นก็เชื่อว่าจะสามารถทำงานตอบสนองนโยบายของนายอาเบะได้เป็นอย่างดี พร้อมกับนำพาญี่ปุ่นผ่านพ้นภาวะเงินฝืดไปได้อย่างราบรื่นตามเป้าหมายของรัฐบาล
จีดีพีญี่ปุ่นประจำไตรมาสที่ 4 หดตัว 0.1% ซึ่งถือว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นถดถอยติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นกล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอ วันนี้จะมีประชุมนโยบายการเงินของญี่ปุ่นและจะแถลงการณ์ในช่วงบ่ายวันนี้
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซนขยายตัวขึ้น 0.7% ในเดือนธ.ค.2555 จากเดือนพ.ย.ที่ลดลง 0.7% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.
การแถลงของนายโอบามาเมื่อวานนี้ที่ได้เรียกร้องให้ปรับเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำให้สูงขึ้น ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานและกฎหมายควบคุมปืนที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงขอให้รัฐสภาเขียนร่างกฎหมายผู้อพยพอีกครั้ง แต่ทางพรรครีพับลิกันได้ต่อต้านหลายๆ ประเด็นที่นายโอบามาตั้งไว้ สะท้อนว่าการต่อสู้ทางการเมืองในอดีตยังไม่ได้ผ่านไป อีกทั้งนายโบห์นเนอร์ได้ปฏิเสธข้อเสนอที่จะขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ เพราะจะทำให้ส่งผลเสียต่อกลุ่มนายจ้างขนาดเล็ก
นายลิว ผู้ได้รับเลือกจากนายโอบามาให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการกระทรวงการคลังแทนนายไกธ์เนอร์ กล่าวว่า เขาได้เห็นโอกาสที่จะขยายฐานภาษี และลดอัตราภาษีนิติบุคคล รวมถึงอาจจะในภาษีบุคคลธรรมดาด้วย นอกจากนี้เขายังปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการขาดทุนในกองทุนเคย์แมน และการหลีกเลี่ยงภาษี ทั้งนี้ยังไม่มีพรรครีพลับลิกันคนใดที่ออกมากล่าวว่าจะลงคะแนนเสียงให้นายลิว แม้ว่าการลงมติจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าก็ตาม
ยอดค้าปลีกสหรัฐขยายตัว 0.1% แตะที่ระดับ 4.166 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนธ.ค. เนื่องจากมาตรการขึ้นภาษีและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง
นายบุลลาร์ด สมาชิกเฟดได้กล่าวว่าความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกได้ลดลง ซึ่งเป็นผลดีต่อมุมมองของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยยูโรโซนน่าจะมีเสถียรภาพ หรือมีการฟื้นตัวได้ในปีนี้ และวิกฤตหนี้ยุโรปเริ่มมีสัญญาณบรรเทาลง แต่การที่มาตรการซื้อพันธบัตรจะดำเนินไปอย่างไรในปี 2013 ยังเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดา
นอกจากนี้ นายเจมส์ บุลลาร์ด กล่าวเกี่ยวกับนโยบายเฟดว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินฝืด ซึ่งระบบ Threshold System (เทรโชว ซิสเต็ม) ทำให้นโยบายการเงินมีการผ่อนคลายมากขึ้น และจะทำให้อัตราการว่างงานลงสู่ระดับ 7.2% ในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ เขาคาดการณ์ถึงจีดีพีสหรัฐในปีนี้อยู่ที่ 3.2% และสำหรับสงครามสกุลเงินนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดี เขาเองรู้สึกสนใจในการใช้นโยบายการเงินเพื่อต่อต้านเศรษฐกิจภาวะฟองสบู่ และการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟดควรเปลี่ยนแปลงไปตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมา
นาย Rosen หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Briefing.com เผยว่าการตัดลดงบประมาณทำให้สหรัฐเผชิญความยากลำบาก เพราะจะทำให้ไม่มีงบประมาณเพียงพอ ทั้งนี้ยังคาดว่าสหรัฐอาจไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็น Sequester แต่ถ้าหากตกลงกันได้จริง จะส่งผลให้เศรษฐกิจจะโตได้ 2%-2.5% ในปีนี้
อียูต้องการให้การเจรจาเพื่อการค้ากับสหรัฐสำเร็จภายใน 2 ปี ซึ่งผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายให้คำมั่นว่าจะดำเนินการต่อไป โดยข้อตกลงเรื่องการค้าได้มีความคืบหน้า หลังจากนายโอบามาได้ให้คำมั่นเมื่อวานนี้ที่จะบรรลุข้อตกลงเพื่อขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่วนอียูจะพยายามใช้นโยบายลดภาษีศุลกากร ผ่อนปรนกฎหมายที่ขัดขวางการค้า และขยายการลงทุน การบริการและการจัดซื้อสาธารณะ โดยอียูมีแผนที่จะร่างแผนการเจรจาในเดือน มี.ค. ที่จะเริ่มการเจรจา
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Core Retail Sales m/m ออกมาที่ 0.2% จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 0.3%
- Retail Sales m/m ออกมาที่ 0.1% จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 0.5%
- Import Prices m/m ออกมาที่ 0.6% จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว -0.1%
- Crude Oil Inventories ออกมาที่ 0.6M จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 2.6M
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 361,000 ราย จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 366,000 ราย
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในกรอบแคบที่ระดับ 1,642 — 1,652 เหรียญ จะเห็นได้ว่าทองคำก็ยังเคลื่อนไหวตามข่าวตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเมื่อคืนนี้ตัวเลข Retail Sales ออกมาน้อยลงจากเดือนที่แล้ว ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาที่ตลาดทองคำ โดยดันราคาขึ้นไปถึงระดับ 1,652 เหรียญ และถูกเทขายกลับมาเคลื่อนไหวที่เดิม จะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวตามสภาพข่าวโดยส่วนใหญ่ วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบต่อไปที่ระดับ 1,640 — 1,650 เหรียญ ยังแนะนำให้นักลงทุนเปิด Short Position ที่บริเวณแนวต้านและซื้อกลับที่บริเวณแนวรับ โดยถ้าราคาหลุดระดับ 1,640 เหรียญ คาดว่าโอกาสที่ราคาจะลงลึกไปจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,625 เหรียญค่อนข้างสูง
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,430 บาท
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,380 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,550 บาท
Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 930 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,640 — 1,650 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ถือครอง Short Position ประมาณ 15% ของพอร์ท และซื้อกลับบริเวณแนวรับที่ระดับ 1,640 เหรียญ แต่ถ้าราคาหลุดระดับ 1,640 เหรียญลงไป แนะนำให้เปิดสถานะ Short ตาม
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ให้ถือ Short Position 10% - 15%
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง