ผู้หญิงติดเอดส์เพิ่มจำนวนขึ้นทุกภูมิภาคทั่วโลก

ข่าวทั่วไป Thursday November 25, 2004 10:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--UNISBKK
ผู้หญิงติดเอดส์เพิ่มจำนวนขึ้นทุกภูมิภาคทั่วโลกรายงาน UNAIDS/ WHO ล่าสุดเผยเกือบครึ่งของผู้ติดเชื้อเอดส์ทั่วโลก 37.2 ล้านคน เป็นเพศหญิง
ข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่ในวันนี้ระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์เพศหญิงเพิ่มจำนวนขึ้นต่อเนื่องในทุกภูมิภาคในสองปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่เอเชียตะวันออกมีอัตราเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 56% ตามด้วยยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางที่ 48% เท่ากัน
ข้อมูลระบุว่าผู้ติดเชื้อเอดส์เพศหญิงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์ทั่วโลก (อายุ 15-49 ปี) ที่มีอยู่ 37.2 ล้านคน ในทวีปอัฟริกาแถบทะเลทรายซาฮาร่า ซึ่งเป็น อาณาเขตที่อัตราแพร่เชื้อสูงสุดนั้น พบว่า 60% ของผู้ติดเชื้อเอดส์เป็นเพศหญิง หรือมีจำนวนเท่ากับ 13.3 ล้านคน ข้อมูลดังกล่าวมาจากรายงาน AIDS Epidemic Update 2004 จัดทำขึ้นทุกปีโดยโครงการ-โรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) และองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อเผยแพร่ก่อนวันเอดส์โลกซึ่งตรงกับวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวชี้ชัดว่าแนวทางการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ไม่ได้มีรูปแบบเดียวกันทั่วโลก แต่แตกต่างไปในหลายพื้นที่ แม้ในพื้นที่ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดก็มีทิศทางระบาดในรูปแบบที่ต่างออกไป ดร. ปีเตอร์ ไพออท ผู้อำนวยการบริหาร UNAIDS กล่าวว่า “ทิศทางการแพร่ระบาดที่ไม่เหมือนกันนี้ส่งผลให้โรคเอดส์มีพัฒนาการที่ท้าทายและมีรูปแบบเฉพาะ ขณะนี้ เลยเวลาสำหรับการรับมือและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ถึงเวลาที่เราจำเป็นต้องคานอำนาจของวิกฤติการณ์นี้ด้วยด้วยวิธีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน”
รายงานยังระบุว่า ปัจจุบันสถิติผู้ติดเชื้อเอดส์มีจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวนประมาณ 39.4 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่คาดไว้เมื่อปี 2545 ที่ 36.6 ล้านคน ในระยะสองปีที่ผ่านมา อัตราการติดเชื้อสูงสุดพบในพื้นที่เอเชียตะวันออก ยุโรปตะวันออก และเอเชียกลาง
ในปี 2545 — 2547 อัตราการแพร่ระบาดของโรคเอดส์โดยรวมทั้งเพศชายและหญิงในเอเชียตะวันออกเพิ่มขึ้น 50% เนื่องมาจากสถิติการแพร่ระบาดในประเทศจีน อินโดนีเซีย และเวียดนามเป็นส่วนใหญ่ ส่วนยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางมีอัตราเพิ่มขึ้น 40% โดยมียูเครนและรัสเซียเป็นผู้นำสถิติ
ณ ปลายปี 2546 รัสเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์ 860,000 คน ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์สูงสุดในทวีปยุโรป
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อใหม่มีจำนวนมากขึ้นเช่นเดียวกับผู้ที่ต้องการการดูแลรักษาเพื่อยับยั้งป้องกันโรคเอดส์และโรคฉวยโอกาส ในการนี้ ดร. ลี จง-วุค ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวว่า “เรายังไม่มีวัคซีนรักษาโรคเอดส์ แต่เรารู้ว่าการป้องกันและดูแลรักษานั้นได้ผลและเราก็มีวิธีเพื่อเผยแผ่ออกไป เนื่องจากปัญหาโรคเอดส์ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ชุมชน และหน่วยงานเอกชน ดังนั้น เราต้องดำเนินการร่วมกันเพื่อรักษาชีวิตผู้คนไว้”
ผู้หญิงกับโรคเอดส์ — ความท้าทายที่เข้มข้นยิ่งขึ้นทุกขณะ
โดยธรรมชาติ สรีระทางร่างกายของเพศหญิงทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์มากกว่าเพศชาย การแพร่เชื้อของโรคเอดส์ทางเพศสัมพันธ์จากชายสู่หญิงนั้นมากกว่าจากหญิงสู่ชายประมาณสองเท่า นโยบายป้องกันโรคเอดส์ที่เรียกว่า “ABC” กล่าวคือการควบคุมตนเอง (Abstinence) ความซื่อสัตย์ ต่อคู่ครองและไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง (Being faithful and reducing number of sexual partners) และการใช้ถุงยางอนามัย (Condom use) นั้นยังไม่สัมฤทธิ์ผลในประเทศกำลังพัฒนา “ยุทธศาสตร์ในการรับมือกับความเหลื่อมล้ำทางเพศนั้นสำคัญอย่างเร่งด่วน หากเราหวังถึงโอกาสที่จะกลับลำการแพร่ระบาดของโรคเอดส์โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่อง การป้องกันการกระทำรุนแรงต่อผู้หญิง อีกทั้งมอบโอกาสให้ผู้หญิงและเด็กสาวมีที่อยู่อาศัย มีสิทธิ์รับมรดก ได้รับการศึกษาพื้นฐานและมีงานทำ” ดร. ไพออท กล่าว
รายงานให้ข้อมูลว่า ในวันหนึ่งๆ มีหนุ่มสาวจำนวนหลายล้านคนมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ในทวีปอัฟริกาแถบซาฮาร่า 75% ของผู้ติดเชื้อเอดส์อายุ 15-24 ปีเป็นเพศหญิง เนื่องจากผู้หญิงมีโครงสร้างทางกายภาพที่ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์มากกว่าชายถึงสามเท่า นอกจากเหตุผลทางกายภาพแล้ว ผู้หญิงและเด็กสาวโดยเฉพาะในอัฟริกาตอนใต้ มักให้บริการทางเพศเพื่อแลกกับสินค้า บริการ เงิน หรือสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ ซึ่งบ่อยครั้งก็ให้บริการแก่ชายสูงอายุกว่า หรือที่เรียกว่า “การค้าประเวณี” (Transactional sex) โดยมีสาเหตุหลักมาจากความยากจนและความปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น
ทิศทางการระบาดของโรคเอดส์ล่าสุด
รายงานจาก UNAIDS/ WHO ระบุชัดเจนว่าไม่มีทิศทางการแพร่ระบาดของโรคเอดส์เพียงรูปแบบเดียวแม้ในทวีปใดทวีปหนึ่ง เช่น ในอัฟริกา ทิศทางการแพร่ระบาดทั่วทั้งทวีปมีความแตกต่างเป็นอันมาก อย่างไรก็ตาม แถบอัฟริกาใต้ ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีอัตราแพร่ระบาดร้ายแรงที่สุด โดยมีอัตราอยู่ที่ 25% ในประเทศบอตสวานา ลีโซโธ และสวาซิแลนด์ การแพร่ระบาดในหมู่หญิงมีครรภ์ยังคงมีอัตรามากกว่า 30% ยิ่งไปกว่านั้น อายุขัยโดยเฉลี่ยของประชากรใน 9 ประเทศในแถบนี้ลดลงไม่ถึง 40 ปี
ในแถบอัฟริกาตะวันออก แม้อัตราการแพร่เชื้อของโรคเอดส์จะลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะในประเทศ ยูกานดาและบางพื้นที่ในเอธิโอเปียและเคนยา แต่การระบาดยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ในประเทศแอดดิส อะบาบา อัตราการระบาดของโรคเอดส์อยู่ที่ 11% ในปี 2546 ซึ่งลดลงจาก 24% ในช่วงปี 2538 โดยประมาณ (กลางทศวรรษ 1990) ส่วนในเคนยา การระบาดลดลงจาก 13.6% ในปี 2540 เหลือ 9.4% ใน 2545
ด้านกลุ่มประเทศแถบแคริเบียน พบว่ายังคงเป็นพื้นที่ที่สถานการณ์ย่ำแย่เป็นอันดับสองของโลก โรคเอดส์ระบาดทางเพศสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกัน เพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับการยอมรับในสังคม ก็กลับเป็นสาเหตุการแพร่ระบาดส่วนหนึ่งด้วยในพื้นที่ดังกล่าว โรคเอดส์เป็นสาเหตุการเสียชีวิตหลักในกลุ่มประชาชนอายุระหว่าง 15-44 ปี
สำหรับทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป ผู้ที่ติดเชื้อเอดส์จากเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกันมีจำนวนเพิ่มขึ้น ในสหรัฐอเมริกา ผู้ติดเชื้อเอดส์จำนวนมากเป็นหญิงผิวดำหรือฮิสแพนิค และโรคเอดส์ก็เป็นหนึ่งในสามสาเหตุการเสียชีวิตหลักในหมู่หญิงผิวดำอายุระหว่าง 35-44 ปี ทั้งนี้ รายงาน AIDS Epidemic 2004 ระบุว่า มีข้อบ่งชี้ชัดเจนหลายประการระบุว่าผู้หญิงจำนวนมากติดเอดส์เนื่องจากคู่นอนของตนมีพฤติกรรมทางเพศเสี่ยงแต่ไม่เปิดเผย
เอดส์กับปัญหายาเสพติด
ในยุโรปตะวันออก การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ช่วงปี 2540 — 2545 เพิ่มขึ้น กว่าเท่าตัว และน่าวิตกว่าผู้ติดเชื้อเอดส์จำนวนมากยังไม่ทราบว่าตนเป็นโรคเอดส์ ส่วนในสหราชอาณาจักร โรคเอดส์กลายเป็นโรคร้ายแรงที่เผยแพร่รวดเร็วที่สุดในปัจจุบัน
การใช้ยาเสพติดชนิดฉีดนั้นแพร่หลายมากขึ้นในหลายภูมิภาค ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหม่ๆ โดยเฉพาะในประเทศที่เพิ่งพบการระบาดในอาณาเขตยุโรปตะวันออก เอเชียกลาง และบางพื้นที่ในเอเชีย
“ในหลายประเทศ ความจำเป็นระหว่างการกำหนดงบประมาณใช้จ่ายเพื่อป้องกันโรคเอดส์กับการวิวัฒนาการของการระบาดยังไม่เหมาะสม” ดร. ไพออท กล่าว “ผู้ชายรักร่วมเพศและผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดนั้นยังถูกละเลย ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อระบุตัวผู้มีความเสี่ยง ตลอดจนเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เข้าถึงโครงการป้องกันโรคเอดส์สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อ”
เมื่อทุนสนับสนุนการป้องกัน AIDS เพิ่มขึ้น การเผชิญหน้ามีความท้าทายมากขึ้น
ตั้งแต่ปี 2544 ค่าใช้จ่ายเพื่อรับมือกับโรคเอดส์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นสามเท่าตัว กล่าวคือ จาก 2.1 พันล้าน ดอลล่าร์สหรัฐในปี 2544 เป็น 6.1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2547 นอกจากนี้ การเข้าถึงการป้องกันโรคเอดส์และบริการดูแลรักษาได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม โรคเอดส์ยังแพร่ระบาดอย่าง ไม่หยุดยั้ง ซึ่ง ดร. ไพออท กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าในอนาคต ทรัพยากรต่างๆ จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น แต่ ณ ปัจจุบัน ความท้าทายที่สำคัญคือการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ คือต้องรับประกันว่าการใช้เงินทุนสนับสนุนที่มีอยู่นั้น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด”
เอดส์กับการรับรู้และเข้าถึงการบริการยาต้านไวรัสเอดส์
ข้อมูลจากการสำรวจประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง 73 ประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ (ซึ่งคิดเป็น 90% ของกลุ่มประเทศที่มีปัญหาโรคเอดส์ทั่วโลก) พบว่าจำนวนนักเรียนชั้นประถมปลายที่ได้รับการศึกษาเรื่องโรคเอดส์เพิ่มขึ้นเกือบถึงสามเท่า อาสาสมัครบริการให้คำปรึกษาและตรวจโรคเอดส์เพิ่มขึ้นเท่าตัว ผู้หญิงที่อาสาให้บริการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเอดส์จากแม่สู่ลูกเพิ่มขึ้น 70% และผู้ป่วยโรคเอดส์ ที่ได้รับการบำบัดรักษาเพื่อต้านโรคเอดส์เพิ่มขึ้น 56% ระหว่างปี 2544 — 2546
อย่างไรก็ดี แม้จะมีพัฒนาการในด้านต่างๆ ดังกล่าว แต่การป้องกันและการดูแลรักษาโรคเอดส์ยังไม่แพร่หลายอย่างเท่าเทียมทั่วถึงกันในทุกภูมิภาค ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง พบว่าน้อยกว่าหนึ่งในห้าของผู้ป่วยโรคเอดส์สามารถเข้าถึงการป้องกันโรคเอดส์ นอกจากนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2547 ที่ผ่านมา พบว่าผู้ป่วยโรคเอดส์ประมาณ 440,000 คนในประเทศกำลังพัฒนาได้รับการบำบัดรักษา ด้วยยาต้านโรคเอดส์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 200,000 คนเมื่อสองปีก่อน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจำนวน ผู้ป่วยโรคเอดส์ที่เข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า แต่จำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ที่จำเป็นต้องได้รับ การบำบัดรักษามีไม่ถึง 10% โดยเฉพาะในอัฟริกาแถบซาฮาร่า
“การรักษาโรคเอดส์นั้นจะเป็นไปได้ต่อเมื่อมีการป้องกันโรคเอดส์ที่จริงจังมากขึ้น และก็เป็นเช่นนั้นในทางกลับกัน การหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ทำได้ด้วยการเชื่อมโยงการป้องกันกับการรักษาเท่านั้น เรารู้ว่าการป้องกันได้ผลดีกว่าต่อเมื่อเชื่อมโยงเข้ากับความหวังในการรักษาโรค เรายังรู้อีกว่า ถ้าไม่ป้องกันการระบาดต่อไป คนอีกนับล้านจะต้องถูกนับอยู่ในรายชื่อผู้ที่ต้องการการรักษาเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้การรักษาไม่ได้ผลเรื่อยไป” ดร. ลี จง-วุค กล่าว
รายงาน AIDS Epidemic Update ระบุถึงพัฒนาการล่าสุดรูปแบบต่างๆของการระบาดของโรคเอดส์ ทั่วโลก โดยรายงานประจำปี 2547 นี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับประมาณการของขอบเขตการแพร่ระบาดและจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์ ทิศทางและวิวัฒนาการแพร่ระบาดรูปแบบใหม่ๆ รายงานพิเศษเกี่ยวกับผู้หญิงและโรคเอดส์ และสมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยแผนที่และประมาณการของแต่ละพื้นที่
ในการนี้ ในเดือนมกราคม ปี 2548 WHO จะเผยแพร่รายงานความคืบหน้าเรื่องการดำเนินการของประเทศต่างๆ ในโครงการ “3 by 5” หรือโครงการที่มุ่งหวังให้ผู้ติดเชื้อเอดส์ 3 ล้านคนได้รับการบำบัดรักษาภายในปี 2548 อย่างเป็นทางการ โดยวัตถุประสงค์ของโครงการคือการให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ ทั่วโลกได้รับการบำบัดรักษาอย่างทั่วถึงนั่นเอง
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
ดร. เพ็ญศรี ทรรศนะวิเทศ UNAIDS SEAPICT Media Consultant
โทร. 01.810.3151 หรือ
Email: pensri@webershandwick.com or pensri_t@inet.co.th
รายงานฉบับสมบูรณ์สามารถเข้าชมได้ทางเว็บไซต์ UNAIDS — www.unaids.org--จบ--

แท็ก เอเชีย   ข้อมูล   WHO  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ