กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--ปูนซีเมนต์นครหลวง
นายฟิลิป อาร์โต้ กรรมการผู้จัดการ, บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของปี 2555 ของบริษัทมีรายได้จากการขายสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 จาก 23,150 ล้านบาทเป็น 26,427 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 เป็น 3,636 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 15.81 บาทเทียบกับ 14.32 บาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน คณะกรรมการบริษัทฯจะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลรวม 13 บาทต่อหุ้น ในที่ประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 20
การเจริญเติบโตของตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศในปี 2555 คาดการณ์ว่าเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 11 (ข้อมูล: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม) เนื่องจากปัจจัยหลักจากโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การขยายตัวทางการค้า และการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยอดขายปูนซีเมนต์ของบริษัทฯได้มีการเจริญเติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาดเช่นกัน ยอดขายในส่วนตลาดการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 20 รวมถึงการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงของยอดขายผลิตภัณฑ์อื่นๆของบริษัทฯได้แก่ ปูนสำเร็จรูป ธุรกิจหินทราย คอนกรีตผสมเสร็จ และผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้คอนวูด
ค่าใช้จ่ายในการผลิตยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของ อัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย ต้นทุนการจัดจำหน่ายและการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่มีผลกระทบกับผู้รับเหมา แต่บริษัทฯ ก็ได้รับผลประโยชน์จากโครงการประหยัดพลังงานต่าง ๆ เช่นการผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนทิ้ง และการใช้พลังงานทดแทน อย่างไรก็ตามราคาปูนซีเมนต์ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้เนื่องจากสภาพการแข่งขันในตลาด ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ลดลงเหลือร้อยละ 16.7 จากร้อยละ 19.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับแนวโน้มของปี 2556 บริษัทฯได้เล็งเห็นความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศและตลาดการค้าชายแดนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 7 ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ตัดสินใจเปิดเตาเผาที่หยุดดำเนินงานไว้ ภายในปี 2556 รวมถึงการตอบสนองต่อการขยายตัวทางธุรกิจ อีกทั้งบริษัทฯได้จัดตั้งบริษัท อินทรี ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด สำหรับผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบาโดยคาดการณ์ว่าจะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2556
ในด้านกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคม โครงการ Green School ของบริษัทได้บรรลุเป้าหมาย 3 ปีที่ตั้งไว้โดยได้ก่อสร้างอาคารที่จำเป็นต้องใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียนที่อยู่ในชนบทห่างไกลและทุรกันดารรวม 24 แห่งตลอดช่วงปี 2553-2555 และในปีที่ผ่านมา พนักงานปูนซีเมนต์นครหลวง ได้เข้าร่วมกิจกรรมสาสมัครในโครงการ Together for Communities โดยรวบรวมชั่วโมงการทำกิจกรรมได้ถึงเกือบ 35,000 ชั่วโมง
โครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกโครงการหนึ่ง คือ “หมู่บ้านสีเขียว” ที่ปูนซีเมนต์นครหลวงได้ทำการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้มีบุคคลทั่วไปให้ความสนใจกับแบบบ้านที่ใช้ในโครงการเป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้น “สวนมิ่งมงคล เฉลิมพระชนพรรษา 84 พรรษา” ซึ่งตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ ต. ทับกวาง จ. สระบุรี ก็ได้เปิดให้ประชาชนเข้าใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก และได้เห็นภาพของความมุ่งมั่นของปูนอินทรี ที่จะเสริมสร้างการพัฒนาชุมชนและรับผิดชอบสังคมอย่างยั่งยืน