กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงและหน่วยงานในสังกัด ให้การต้อนรับคณะอนุกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อสาธารณะ ในคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภา ซึ่งเดินทางมาศึกษาดูงาน ณ กระทรวงไอซีที โดยนายไชยยันต์ฯ ได้กล่าวบรรยายสรุปนโยบายและผลงานกระทรวงฯ ว่า กรอบนโยบายที่สำคัญของกระทรวงฯ คือการขับเคลื่อนนำพาประเทศไทยไปสู่สังคมอุดมปัญญา หรือ Smart Thailand ที่ต้องดำเนินการควบคู่กันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินงานแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ส่วนแรก Smart Network เป็นการเร่งรัดพัฒนาโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศในราคาที่เหมาะสม และเป็นธรรมกับผู้บริโภค อาทิ โครงการ Wi-Fi ฟรี ในที่สาธารณะ ซึ่งกระทรวงได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจนสามารถเพิ่มจุดให้บริการ Free WiFi ได้ถึง 121,838 จุด ส่วนที่สอง Smart Business คือการสนับสนุนให้ประชาชนสามารถนำเทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสาร ICT ไปประกอบธุรกิจ รวมทั้งการทำธุรกรรมประเภทต่างๆ ได้ อาทิ โครงการป้องกันภัยคุกคามด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภายใต้ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย หรือ ศูนย์ไทยเซิร์ต ส่วนที่สาม Smart Government เป็นการเร่งรัดดำเนินการให้รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์สัมฤทธิ์ผล ด้วยการบูรณาการและการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ อาทิ โครงการพัฒนาเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ หรือ GIN และส่วนสุดท้าย Smart People เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ให้สามารถสร้างสรรค์ และใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสารจำนวนมากที่มีอยู่ ตลอดจนพัฒนาบุคลากร ICT ที่มีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญระดับมาตรฐานสากล อาทิ โครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน โครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน และโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cyber Security Operation Center (CSOC)
นอกจากนี้ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ฯ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่คณะอนุกรรมาธิการฯ ว่า “ในปีงบประมาณ 2557 รัฐบาลมุ่งเน้นการบริหารงบลงทุนในแต่ละกระทรวง กรม หากการลงทุนใดที่ซ้ำซ้อนก็ให้บูรณาการโดยมีเจ้าภาพเดียวกัน เช่น การลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานจะแยกกันจัดซื้อ ต่อไปกระทรวงไอซีทีจะช่วยพิจารณาความจำเป็นในการใช้งาน เพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ และสามารถนำงบประมาณในส่วนที่เหลือในแต่ละกระทรวง กรม ไปใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังได้จัดหาระบบ เซ็นเซอร์ในการตรวจจับคนร้ายเพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องกล้อง CCTV ซึ่งเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงจะแจ้งเตือนได้ทันท่วงที
สำหรับปัญหาเรื่องสัมปทานคลื่นความถี่ของทั้งบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่คณะอนุกรรมาธิการฯ ให้ความสนใจ จะยึดตามหลักกฎหมาย ได้แก่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ที่ระบุว่า คลื่นความถี่ต่างๆ เป็นของประชาชนชาวไทย ไม่ใช่ของหน่วยงานใดๆ ดังนั้น เมื่อถึงวันหมดอายุสัมปทานในวันที่ 16 กันยายน 2556 คลื่นความถี่ดังกล่าวจะต้องกลับมาอยู่ในมือภาครัฐ และเข้าสู่กระบวนการออกใบอนุญาตใหม่ต่อไป ซึ่งช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านก็จะมีความคุ้มครองผู้บริโภคให้สามารถใช้งานได้อย่างไม่ติดขัด
อีกทั้งเรื่อง Cyber Security ซึ่งกระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับปัญหาอาชญากรรมบนโลกออนไลน์ โดยมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. จัดตั้ง Computer Response Team เพื่อเป็นเครือข่ายที่สามารถติดต่อได้ทั่วโลก สำหรับป้องกันการเกิดอาชญากรรมในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
สุดท้ายกระทรวงฯ ยังได้ฝากให้คณะอนุกรรมาธิการฯ สนับสนุนและเร่งรัดเรื่องการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งกระทรวงไอซีทีร่วมกับ สพธอ. ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติฯ ฉบับแก้ไขแล้ว เพื่อให้เกิดความรัดกุม ชัดเจนและครอบคลุมมากขึ้น ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อลดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งเพลงและภาพยนตร์ผ่านทางออนไลน์ โดยกระทรวงฯ ได้จัดประชุมเสวนากลุ่มย่อยระหว่างนักวิชาการที่เกี่ยวข้องและกลุ่ม NGO ซึ่งในวงเสวนาได้เห็นชอบกับร่างที่จัดทำขึ้น และจะจัดให้มีการทำประชาพิจารณ์ประมาณปลายเดือนมีนาคม 2556 ทั้งนี้ในปัจจุบันหากมีการแจ้งเรื่องเข้ามาและมีหลักฐานครบถ้วน กระทรวงไอซีทีจะสามารถปิดเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ภายในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง เร็วกว่าเดิมที่ใช้เวลาถึง 72 ชั่วโมง
ติดต่อ:
PR.MICT 02-141-6747