ทิสโก้ปรับแผนบริหารเงินทุนรับธุรกิจโตก้าวกระโดด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 19, 2013 15:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ทิสโก้แจ้งตลาด เสนอผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลและออกใบแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน รองรับธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด มั่นใจรักษาผลตอบแทนในอัตราสูง ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 ได้มีมติเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติการจัดสรรกำไรจากผลประกอบการเป็นเงินปันผล และอนุมัติการออกใบแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Transferable Subscription Right : TSR) TSR คือ ใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ เป็นสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระยะสั้น ซึ่งจัดเป็นเครื่องมือทางการเงินหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อช่วยในขั้นตอนการเพิ่มทุน โดย 1 หน่วยใบแสดงสิทธิสามารถจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ 1 หุ้น ตามการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดยประโยชน์ของใบแสดงสิทธิดังกล่าว คือ ผู้ถือหุ้นสามารถจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน สามารถขายใบแสดงสิทธิผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mrs. Oranuch Apisaksirikul, Group Chief Executive) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ในช่วงที่ผ่านมา มีการเติบโตในอัตราที่สูงมาก โดยตั้งแต่ปี 2553 - 2555 สินเชื่อมีการเติบโตอยู่ที่ 32.2% 23.6 % และปีล่าสุด 34.2%ตามลำดับ พร้อมทั้งสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นได้สูงกว่า 20% เป็นระยะเวลาหลายปีติดต่อกัน “เรายังเห็นโอกาสที่จะโตได้อีกมาก ในแผนธุรกิจอีก 3 ปีข้างหน้า คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 15-20% ซึ่งแนวทางบริหารเงินกองทุนเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว เราสามารถเลือกจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ลดลงก็ได้ แต่เราตระหนักว่าอาจส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัทจึงได้เลือกแนวทางที่จะมอบสิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเป็นผู้เลือก ที่จะรับเงินปันผลหรือคงเงินลงทุนไว้กับบริษัท โดยหากผู้ถือหุ้นเลือกที่จะคงเงินลงทุนไว้ ก็สามารถนำเงินปันผลที่ได้รับมาลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากัน โดยผู้ถือหุ้นยังมีโอกาสที่นำสิทธิ TSR มาขายในตลาดฯ หากไม่ต้องการเพิ่มทุน แผนการบริหารเงินทุนในครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวในระดับที่สูง และรักษาระดับอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ในระดับสูงได้เป็นอย่างดีเช่นที่ผ่านมา” นางอรนุช กล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัททิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป มีมติเสนอต่อผู้ถือหุ้นในการอนุมัติการจัดสรรกำไรจากผลประกอบการเป็นเงินปันผล ในอัตรา 2.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 47% ของกำไรสุทธิ ตามงบการเงินรวมในปี 2555 และ อนุมัติการออกใบแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (TSR) เพื่อให้ทางเลือกแก่ผู้ถือหุ้นในการนำเงินปันผลกลับมาลงทุนในหุ้นเพิ่มทุน ในอัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 TSR ที่ราคา 24 บาท โดยบริษัทกำหนดให้ราคาใช้สิทธิเพิ่มทุน มีจำนวนเท่ากับเงินปันผลที่ที่ได้รับ เพื่อเป็นการลดภาระของผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล 729 ล้านหุ้น จำนวนหุ้นเพิ่มทุนจากการใช้สิทธิตามใบแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 72.9 ล้านหุ้น เงินปันผลจ่าย 2.4 บาทต่อหุ้น ราคาใช้สิทธิ 24 บาท จำนวนเงินปันผลรวม 1,747 ล้านบาท จำนวนเงินเพิ่มทุนรวม 1,747 ล้านบาท “การบริหารเงินทุนครั้งนี้จะสามารถทำให้ทิสโก้เติบโตต่อไปได้อย่างโดดเด่นอย่างที่เราได้ทำมาแล้วในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับจากการนำเงินปันผลกลับมาลงทุนเพิ่มทุนให้กับบริษัท คือการแสวงหากำไรต่อในอัตราที่สูงจากโอกาสในการขยายกิจการของบริษัท เนื่องจากทิสโก้ยังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากที่จะขยายตัวโดยยังคงรักษาอัตราผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน ” นางอรนุชกล่าว สำหรับวิธีการออกใบแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ผู้ถือหุ้นสามารถซื้อขายใบแสดงสิทธิดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนถึงกำหนดการเรียกเงินเพิ่มทุน โดยจะมีการกำหนดช่วงเวลาที่ผู้ถือใบแสดงสิทธิสามารถแสดงความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ถือหุ้นที่มีความต้องการในการลงทุนและข้อจำกัดหลากหลายได้เป็นอย่างดี “ในอดีต มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มทุนด้วยวิธีเดียวกันนี้ ซึ่งเราพบว่า TSR เป็นเครื่องมือที่ลดความผันผวนของราคาหุ้นที่มาจากการประกาศเพิ่มทุน และลดผลกระทบด้าน Dilution Effect เป็นอย่างดี เพราะผู้ถือหุ้นเดิมหากไม่ต้องการเพิ่มทุน ก็สามารถได้รับการชดเชย Dilution จากผลตอบแทนที่จะได้รับจากการขายสิทธิ TSR ในตลาดฯ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่มเติมจากสิทธิเดิมที่มีสามารถเข้ามาลงทุนได้“ อนึ่ง แผนการบริหารเงินทุนข้างต้นจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนเมษายนนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ