กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--อาร์เอส
“อาร์สยาม” บุกหนักตลาดเพลงลูกทุ่งปี 56 เสริมทัพทุกช่องทาง ปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงใหม่ ดึงศิลปิน-นักแต่งเพลงเข้าสังกัด ย้ำภาพผู้นำวงการเพลงลูกทุ่งเมืองไทย พร้อมขยายฐานลูกค้าครบวงจรทั้งสื่อโทรทัศน์ดาวเทียม วิทยุ โชว์บิซ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 40%
นายศุภชัย นิลวรรณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานเพลงลูกทุ่ง/ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการค่ายเพลงอาร์สยาม กล่าวว่า ตลาดเพลงลูกทุ่งในปี 2556 เชื่อว่ายังเติบโตได้ แม้ยอดขายในส่วนของวีซีดีและดีวีดีจะลดลง ซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยหันไปฟังเพลงผ่านช่องทางอื่นๆมากขึ้น ทั้งอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่เติบโตสูงมาก
“ปัจจุบัน ค่ายเพลงรายเล็กๆทยอยปิดตัว เพราะพึ่งพารายได้จากวีซีดีและดีวีดีเป็นหลัก เมื่อยอดขายแผ่นลดลง ตามสภาพตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในยุคเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงอยู่ลำบาก แต่สำหรับอาร์สยาม เป็นค่ายเพลงลูกทุ่งที่มีบริการครบวงจร ประกอบกับมีสื่อในมือหลากหลายทั้งทีวีดาวเทียม วิทยุ และช่องทางดาวน์โหลดผ่านสื่อสมัยใหม่ ทำให้การดำเนินธุรกิจยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” นายศุภชัยกล่าว
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของอาร์สยามในปีนี้จะให้ความสำคัญกับทุกช่องทาง เริ่มตั้งแต่ในส่วนของธุรกิจเพลง จะปรับโครงสร้างการให้ผลตอบแทนแก่ศิลปินและนักแต่งเพลงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้จากการแสดง หรือ โชว์บิซ เพื่อดึงให้ศิลปินทั้งใหม่-เก่าเข้ามาอยู่ในสังกัดอาร์สยาม เสริมศักยภาพของค่ายเพลงให้แข็งแกร่งและมีความหลากหลาย หลากสไตล์ยิ่งขึ้น ตอบรับกับความต้องการของผู้ฟังทั้งครอบครัว ย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำในวงการเพลงลูกทุ่งอย่างแท้จริง
ในส่วนของกลุ่มสื่อ ทั้งช่องสบายดีทีวีและสบายดี เรดิโอ FM 88.5 มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะสบายดีทีวี ช่องโทรทัศน์ดาวเทียมอันดับ 1 ซึ่งปัจจุบันฐานผู้ชมช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียมเพิ่มขึ้นเป็น 36 ล้านครัวเรือน จาก 28 ล้านครัวเรือนในปีที่ผ่านมา ทำให้เจ้าของสินค้าหันมาซื้อสื่อโฆษณากับช่องสบายดีทีวีมากขึ้น โดยปีนี้บริษัทจะปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นอีก 50%
รวมทั้งจะเพิ่มรายการใหม่ อีก 2-3 รายการอาทิ รายการที่จัดโดยใบเตย อาร์สยาม และลาล่า-ลูลู่ เป็นต้น เพื่อเรียกกระแสความสนใจจากผู้ชมมากขึ้น
สำหรับคลื่นวิทยุสบายดี เรดิโอ FM 88.5 ขณะนี้จำนวนผู้ฟังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากดำเนินการมา 6 เดือน ปัจจุบัน เป็นช่องเพลงลูกทุ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 ซึ่งทั้งช่องสบายดีทีวีและสบายดี เรดิโอปีนี้ จะเน้นสร้างกระแสความสนใจจากผู้ชม ผู้ฟัง ผ่านตัวศิลปิน นักร้องเป็นหลัก และทำให้ผู้ฟังทั่วประเทศจดจำแบรนด์ของอาร์สยาม ในฐานผู้นำของวงการเพลงลูกทุ่งเมืองไทย นอกจากนี้ยังมองการขยายคลื่นวิทยุแบบเน็ตเวิร์ค เพื่อขยายฐานผู้ฟังให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทยังได้พัฒนาช่องทางใหม่ๆ เพื่อขยายฐานผู้ฟังคนรุ่นใหม่ ทั้งการพัฒนาแอพพลิเคชั่นผ่านมือถือระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส รวมทั้งเวบไซต์สบายดีเรดิโอ ที่ผู้ฟังสามารถฟังรายการวิทยุผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ปัจจุบัน ช่องสบายดีทีวีรับชมได้ 22 ประเทศผ่านระบบโทรทัศน์ดาวเทียม และรับชมได้ทั่วโลก ทางแอพพลิเคชั่นผ่านมือถือ ซึ่งจะทำให้เพลงของอาร์สยามเข้าถึงคนฟังได้ทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยในต่างแดน
ขณะที่ธุรกิจโชว์บิซ ขยายตัวดีมาก เนื่องจากมีการจ้างแสดงต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาวและมาเลเซีย ประเทศเหล่านี้รู้จักเพลงของอาร์สยามผ่านช่องสบายดีทีวี ที่รับชมได้ในหลายประเทศ ทำให้มีลูกค้าจากหลายประเทศติดต่อเข้ามาจ้างให้ไปแสดงคอนเสิร์ตทั้งประเทศเพื่อนบ้านและอเมริกา อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโชว์บิซจะเน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก เพราะมีฐานผู้ฟังจำนวนมาก
“สำหรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 40% คือ 1,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักจะมาจากช่องสบายดีทีวี คิดเป็น 55 % ที่แข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มิวสิค 36 % และสบายดีเรดิโอ 9% ยังขยายตัวต่อเนื่อง เชื่อว่าจากกลยุทธ์ต่างๆของปี 2556 จะทำให้อาร์สยาม ชิงส่วนแบ่งจากตลาดเพลงลูกทุ่งได้เพิ่มขึ้น และยังคงครองแชมป์ผู้นำอันดับ 1 ของวงการเพลงลูกทุ่งเมืองไทยต่อไป” นายศุภชัยกล่าว