กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,615 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,612 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.90 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 22,850 บาท กับ 22,950 บาท และกลับมาปิดที่ 22,800 บาท กับ 22,900 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,870 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,188 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 2 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2 % แบบ 10 บาท ลดลง 0.8% และ Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.5% GFG13 ปิด 22,830 บาท และ GFJ13 ปิด 22,950 บาท GF10G13 ปิดที่ 22,830 บาท GF10J13 ปิดที่ 22,960 บาท SVG12 ไม่มีปริมาณการซื้อขาย
สัญญา Comex ปิดลดลง 5.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,604.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 42.7 เซ็นต์ ที่ระดับ 29.42 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,319.96 ตัน (ขายออก 3.01 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 80 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 96.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 53.91 จุด ปิดที่ 14,035.67 จุด
ข่าวที่สำคัญ
Bullion Desk, Reuters, Kitco News, Bloomberg, Daily Fx, Efx News, Market Watch
- ราคาทองคำช่วงเช้ายังไม่เปลี่ยนแปลงไม่มาก และยังคงยืนเหนือระดับ 1,600 เหรียญได้
ในช่วงที่มีการสะสมพลังระยะยาว นักลงทุนทองคำแท่งในแถบตะวันออกยังคงเป็นกลุ่มที่สนับสนุนตลาดทองคำ ในขณะที่มีการเข้าซื้อในระดับราคาปัจจุบันพอประมาณ การเทขายทองคำในรูปของตลาดออนไลน์เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ราคาลงไปทำจุดต่ำสุดเมื่อวันศุกร์
- การฟอร์มตัวของกราฟเทคนิคแบบ ultra-bearish ชี้ให้เห็นว่า ราคาอาจมีการดีดกลับได้ โดยเมื่อวานนี้ราคา Spot gold มีการฟอร์มจุด "death cross" เมื่อเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันได้เบรกลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
- กองทุน SPDR ขายทองคำออก 3.01 ตันเมื่อวานนี้มาอยู่ที่ระดับ 1,319.96 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือน
- ราคาทองคำได้อ่อนค่าลงในช่วงกลางคืน ตามโลหะมีค่าอื่นๆ จากดัชนี S&P ได้ปรับตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี เมื่อตลาดสหรัฐเปิดทำการ
- มีความกังวลเกี่ยวกับสงครามค่าเงินที่ลดลง ทำให้นักลงทุนหันจากทองคำไปลงทุนอย่างอื่น
- แม้ว่าประเด็นในการประชุม G7 และ G20 ที่ผ่านมาเกี่ยวกับสงครามสกุลเงินยังคงหลงเหลืออยู่ แต่การอ่อนค่าของสกุลเงินเยนและเงินปอนด์กำลังผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ
- ตลาดจับตาการแถลงผลการประชุมเฟดเกี่ยวกับมุมมองของนโยบาย QE ที่จะมีขึ้นวันนี้ช่วงกลางคืนเวลา 2:00 น. รวมถึงยอดการสร้างบ้านสหรัฐในคืนนี้
- นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ได้กล่าวว่า แผนกระตุ้นการเงินล่าสุดของเฟดยังอยู่ในระดับที่เหมาะสมไปจนถึงสิ้นปีต่อตลาดการจ้างงาน แม้ว่ามุมมองเศรษฐกิจสหรัฐจะดูเริ่มสดใสขึ้นก็ตาม
- เวปไซด์ www.smra.com (เอสเอ็มอาร์เอ) เผยว่า การปราศรัยนโยบายการเงินของนายเบอร์นันเก้ดูเหมือนจะจะไม่เน้นที่ประเด็นปัญหาการตัดลดงบประมาณ จะย้ำถึงแค่ความสำคัญ แต่จะเน้นที่การตัดสินใจล่าสุดในการประชุมในเรื่องของความจำเป็นในการสนับสนุนการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม
- หัวหน้ากรรมาธิการด้านงบประมาณขาดดุลของรัฐบาลนายโอบามาในปี 2010 ได้เสนอแผนตัดลดงบประมาณ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ ในส่วนประกันและสวัสดิการด้านสุขภาพ การลดหย่อนภาษีและงบประมาณอื่นๆ สำหรับงบประมาณ 10 ปี เนื่องจากกำหนดการ 1 มี.ค. ใกล้เข้ามา
- นายโอบามาได้กล่าวกดดันรัฐสภาให้เร่งแก้ปัญหา โดยกล่าวว่าหากการตัดลดงบประมาณอัตโนมัติเกิดขึ้น จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและภาคบริการที่สำคัญ นอกจากนี้เขายังย้ำความต้องการที่จะทำการปฏิรูปภาษีด้วย
- JP Morgan กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้มีแรงงานกลับเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ในระยะสั้นตลาดแรงงานจะได้รับผลเสีย และอัตราการว่างงานจะลดลงในอัตราที่ชะลอลง แต่ในระยะยาวจากภาคแรงงานที่เพิ่มขึ้นเป็นผลดี เพราะเป็นการเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจในการเติบโต
- อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีที่ยังต่ำกว่าคาดการณ์ในอีก 2 ปีข้างหน้าอีก 3% เป็นสิ่งสะท้อนถึงนายโอบามาว่าการคาดการณ์เศรษฐกิจว่าจะเติบโตในอีก 4 ปีข้างหน้าเป็นมุมมองแง่บวกเกินไป
- มีความคิดเชิงบวกที่วิกฤตหนี้ยูโรโซนอาจสิ้นสุดลงได้ช่วยสนับสนุนความเชื่อ มั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ของเยอรมนีในเดือนนี้ให้พุ่งสูงขึ้นทำจุดสูง สุดในรอบเกือบ 3 ปี
- สหภาพแรงงานกรีซกำลังประท้วงเป็นครั้งแรกของปีนี้ เนื่องจากนายซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซจะทำมาตรการรัดเข็มขัดอีกรอบ ท่ามกลางอัตราการว่างงานระดับสูง 27%
- หน่วยทหารของจีนอาจอยู่เบื้องหลังการลักลอบแฮ็กข้อมูลของสหรัฐอย่างน้อย 141 บริษัทตั้งแต่ปี 2006 ตามรายงานของหน่วยความมั่นคงของสหรัฐ
- เมื่อคืนค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังจากรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น นายอาโสะปฏิเสธที่จะพิจารณาการเข้าซื้อพันธบัตรต่างชาติที่จะสามารถทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าต่อไปได้ ในขณะที่เช้านี้ ญี่ปุ่นประกาศงบการค้าขาดดุลจำนวน 1.63 ล้านล้านเยนในเดือน ม.ค. ซึ่งเป็นระดับขาดดุลมากที่สุดของญี่ปุ่น ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงในช่วงเช้าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และจากความสงสัยที่ว่าบีโอเจจะมีการดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่ค่าเงินปอนด์ยังคงอ่อนค่าลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยการอ่อนค่าของค่าเงินเยนและเงินปอนด์เป็นส่วนช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นตัวกดดันราคาทองคำ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันอังคาร
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Building Permits คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.92M จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 0.91M
- PPI m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.3% จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว -0.2%
- Core PPI m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.2% จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 0.1%
- Housing Starts คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.93M จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 0.95M
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำมีการแกว่งตัวในช่วงตลาด COMEX อีกครั้งหนึ่ง โดยในช่วงเอเชียเคลื่อนตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,608 — 1,613 เหรียญ ราคาทองคำค่อยๆ ปรับตัวลดลงในช่วงตลาด COMEX ลงมาทำจุดต่ำสุดประมาณ 1,601 เหรียญโดยประมาณ ก่อนที่จะดีดขึ้นมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,605 เหรียญ ภาพรวมข่าวเศรษฐกิจไม่มีอะไรสำคัญนัก การเคลื่อนตัวยังเป็นลักษณะเล่นตามลักษณะทางเทคนิค วิเคราะห์ว่าตลาดทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในทิศทางแนวโน้มขาลง โดยที่มีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,625 เหรียญ แนวรับ 1,600 เหรียญ จุดสำคัญที่นักลงทุนให้ระวังคือ ถ้าหลุดระดับ 1,600 เหรียญควรจะต้องทำ Short Position เพราะมีโอกาสตกได้ลึก ถ้าหลุด 1,600 เหรียญจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,585 เหรียญและ 1,550 เหรียญตามลำดับ MTS Gold ยังเน้นย้ำให้นักลงทุนไม่ช้อนซื้อเพิ่ม และพยายามปรับสถานะการลงทุนในทิศทางแนวโน้มขาลงมากกว่า โดยภาพรวมวิเคราะห์ได้ว่า แนวโน้มหลักโดยทั่วไปทั้งในระยะสั้น กลาง และยาวเป็นแนวโน้มขาลง นักลงทุนจึงควรมี Stop Loss ให้เหมาะสมกับสภาพตลาดอยู่เสมอ นักลงทุนที่ใช้ Margin สูงๆ บริหารพอร์ทต้องระมัดระวังและควบคุมความเสี่ยงให้ดี
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,780 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,950 บาท
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,080 บาท
Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 960 บาท
กลยุทธ์การลงทุนในทองคำ
นักลงทุนที่จะเปิดสถานะ หาจังหวะในการเปิด Short Position หรือ Short Position เพิ่มบริเวณ 1,615 - 1,620 เหรียญ และซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัวลงบริเวณ 1,603 เหรียญ เพื่อทำกำไรระยะสั้น
กรณี นักลงทุนถือ Long Position ใช้ Leverage มากกว่า 5 เท่า แนะนำให้ปรับลดสถานะ Long Position ลง 30% - 50% เป็นการทำกำไรแบบ Short against Port
กรณี นักลงทุนถือ Long Position ใช้ Leverage ไม่ถึง 1 เท่า อาจจะซื้อเฉลี่ยได้บ้างแต่จะไม่ควรเกิน 2 เท่าของ ขายหนีถ้าราคาทองคำหลุด 1,600 เหรียญ
กรณี นักลงทุน ทำการ Short Position เพิ่มบริเวณ 1,615 เหรียญขึ้นไป และซื้อปิดบริเวณ 1,603 เหรียญ เพื่อทำกำไรในทิศทางขาลง
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง