“ดีเดย์ 1 ธันวาคม สรรพสามิตเริ่มใช้แสตมป์เครื่องปรับอากาศ”

ข่าวทั่วไป Monday November 29, 2004 14:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--กรมสรรพสามิต
สรรพสามิตเดินเครื่องประกาศใช้แสตมป์เครื่องปรับอากาศ เริ่มใช้ 1 ธันวาคม 2547 ยืนยันไม่สร้างภาระให้แก่ผู้ประกอบการ สร้างความเป็นธรรม และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี
นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2545 ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงที่ให้ใช้แสตมป์สรรพสามิตสำหรับเครื่องปรับอากาศแทนการเสียภาษีวิธีเดิมที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมจะต้องยื่นแบบรายการภาษีพร้อมกับชำระภาษีสรรพสามิตภายในวันที่ 15 ของเดือน
อธิบดีกรมสรรพสามิตเปิดเผยต่อว่าในขณะนี้กรมสรรพสามิตมีความพร้อมที่จะใช้แสตมป์สรรพสามิตสำหรับเครื่องปรับอากาศ โดยได้จัดพิมพ์แสตมป์สรรพสามิตและชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้นำเข้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้ออกระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยการ ควบคุมการใช้และการปิดแสตมป์สรรพสามิตสำหรับเครื่องปรับอากาศ พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 โดยกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับ กฎกระทรวง ฉบับที่ 35 (พ.ศ. 2547) ว่าด้วยชนิดและลักษณะแสตมป์สรรพสามิต และกฎกระทรวงฉบับที่ 36 (พ.ศ. 2547) ว่าด้วยวิธีการในการใช้แสตมป์สรรพสามิตและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีเพื่อให้ปรากฏว่าได้เสียภาษีแล้ว
สำหรับแสตมป์สรรพสามิตเครื่องปรับอากาศมี 5 ชนิด คือ ชนิด FC FC นำเข้า CD
CD นำเข้า และ AUTO โดยแต่ละชนิดกรมสรรพสามิตกำหนดให้ปิดบนเครื่องปรับอากาศที่แตกต่างกันไป
อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวต่ออีกว่า การใช้แสตมป์สรรพสามิตเพื่อควบคุมการจัดเก็บภาษี จะไม่เป็นการเพิ่มภาระต่อผู้ประกอบอุตสาหกรรมแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ประกอบอุตสาหกรรมสามารถเบิกแสตมป์ไปปิดที่โรงงานอุตสาหกรรมหรือที่ต่างประเทศได้ล่วงหน้าโดยยังไม่ต้องเสียภาษี แต่จะเสียภาษีก็ต่อเมื่อนำออกจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือนำเข้าจากต่างประเทศ
“การใช้แสตมป์สรรพสามิตเป็นการสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษี เพราะสามารถป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีได้อย่างดี และทำให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ผู้ประกอบ อุตสาหกรรมและผู้นำเข้ามีความพร้อมที่จะเสียภาษีโดยการใช้แสตมป์สรรพสามิตแล้ว เพราะมีโอกาสเตรียมตัวมาล่วงหน้าถึง 2 ปีกว่า นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ คือ วันที่ 3 กันยายน 2545 จนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2547 และได้เข้ารับฟังการชี้แจงจากกรมสรรพสามิตเรียบร้อยแล้ว” อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าว
สำนักงานเลขานุการกรม
กรมสรรพสามิต
โทร. 0 2668 6619
โทรสาร 0 2241 4778
e-mail: exd.press@excise.go.th--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ