กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--โทเทิ่ล ควอลิตี้ พีอาร์
A Single Production Company ที่มีสำนักงานทั้งในกรุงเทพฯ และซานฟรานซิสโก มีความยินดีที่จะประกาศว่า The Cheer Ambassadors ภาพยนตร์สารคดีที่ได้รับรางวัลต่างๆ มากมายกำลังจะเข้าฉายที่ San Francisco CAAMFEST ซึ่งการฉายรอบนี้เป็นรอบปฐมทัศน์แห่งทวีปอเมริกาเหนือ (หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ San Francisco International Asian American Film Festival) ในวันที่ 15 และ 18 มีนาคม 2013 โดยจะเข้าฉายในกลุ่มของ CinemAsia ร่วมกับภาพยนตร์ใหม่ล่าสุดของ Ann Hui (ฮ่องกง), อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล (ไทย) และ Sion Sono (ญี่ปุ่น) เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 30 CAAMFEST คือเทศกาลภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการยอมรับมากที่สุดในกลุ่มเอเชียนและอเมริกันเ อเชียนยุคใหม่ ในสื่อสาขาภาพยนตร์ ดนตรี และสื่อดิจิตัล
“The Cheers Ambassadors” คือภาพยนตร์สารคดีที่นำเสนอเรื่องราวของผู้ฝึกสอนนักกีฬาเชียร์ทีมชาติไทยที่มีหัวใจเต็มเปี่ยมด้วยความฝันและกระตือรือร้น เขาทำให้กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ไม่มีใครรู้จักกลายเป็นนักกีฬาระดับโลกที่สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนด้วยการคว้าเหรียญรางวัลมากมายจากการแข่งขัน World Cheerleading Championships ของ ICU (International Cheer Union) ในปี 2009 และ 2011 ที่เมืองออร์ลันโด้ มลรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ของนักกีฬาชาวไทยและชาวอเมริกันที่ทั้งสองทีมต่างให้การยอมรับและยึดถือกันและกันเป็นแบบอย่าง นี่คือเรื่องราวที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจที่จะทำให้คุณหลงรักและเชียร์ทีมนักกีฬาผู้เป็นไก่รองบ่อนอย่างหมดหัวใจ
นับตั้งแต่ฉายรอบปฐมทัศน์ในเดือนมกราคม 2012 “The Cheer Ambassadors” ได้เข้าฉายแล้วเก้าประเทศด้วยกัน รวมทั้งได้รับรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์ 60?N Os ที่ประเทศนอร์เวย์ และได้รับรางวัล Audience Award จากเทศกาลภาพยนตร์ ChopShots Documentary Edge ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย
เมื่อถามถึงเหตุผลในการคัดเลือก “The Cheer Ambassadors” เข้าฉายในเทศกาลครั้งนี้ Masashi Niwano ผู้อำนวยการของ CAAMFEST (Festival and Exhibitions Director) กล่าวว่า “นี่คือภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยหัวใจและจิตวิญญาณที่สื่อสารกับผู้คนทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับทีมเชียร์จากประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ก็ตาม ผมเห็นความเป็นไปได้มากมายที่สารคดีเรื่องนี้จะทำได้ ผมหวังอย่างยิ่งว่าแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยมที่สอดแทรกอยู่ในเรื่องจะขยายขอบเขตออกไปและสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนทั่วโลก การที่หนังเรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องแรกของกลุ่มคนที่เรียนรู้เรื่องการทำหนังด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก และเราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับพวกเขาในอนาคต”
Luke Cassady-Dorion ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่ทราบว่าภาพยนตร์ได้รับเชิญให้เข้าฉายในเทศกาล CAAMFEST ว่า “ผมตื่นเต้นมากที่หนังของเราจะได้เข้าฉายเป็นครั้งแรกในทวีปอเมริกาเหนือ ณเมืองที่เคยเป็นบ้านของผมมาเป็นเวลาถึง 8 ปี ในเทศกาลภาพยนตร์ระดับแถวหน้าร่วมกับผลงานของผู้กำกับชื่อดังที่ผมชื่นชมและติดตามผลงานมาตลอด นอกจากนี้ ผมยังหวังว่าจะได้ทำความรู้จักกับทีมสร้างหนังจากทั่วโลก เพื่อที่จะทำงานร่วมกันในหนังเรื่องใหม่ของเราอีกสองเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทย ซึ่งประเทศที่รับผมเป็นลูกบุญธรรม”
Jason Best เอ็กเซ็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ และผู้ร่วมก่อตั้ง CrowdFund Capital Advisors กล่าวเพิ่มเติมว่า “นักกีฬาเหล่านี้อยู่กับกีฬาเชียร์มานานจนไม่คิดว่าเส้นทางที่ตัวเองฟันฝ่าพิเศษมากแค่ไหน ในฐานะโปรดิวเซอร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับสารคดีมานาน ผมรู้ตั้งแต่แรกว่าเรื่องราวของพวกเขาพิเศษและไม่ใช่สิ่งที่พบเจอได้ทั่วไป แต่เป็นเรื่องราวที่สื่อ “สาร” ที่มีความเป็นสากลและสามารถสร้างพลังด้านบวกให้แก่ผู้คนทั่วโลกได้ เราก่อตั้งบริษัทขึ้นที่กรุงเทพฯ เพื่ออุทิศให้กับการสร้างหนังเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่คงจะไม่เป็นที่รู้จักหากพวกเราไม่ลงมือทำ และก่อตั้งสำนักงานอีกแห่งที่ซานฟรานซิสโก เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องราวเหล่านี้จะได้รับการบอกกล่าวไปทั่วโลก ตอนแรกพวกเขาก็ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไรเมื่อเราบอกว่าเราอยากจะทำหนัง แต่หลังจากฉายรอบปฐมทัศน์ที่กรุงเทพฯ มีนักกีฬาหลายคนเดินน้ำตาคลอเข้ามาขอบคุณผมสำหรับทุกอย่างที่พวกเราทำ ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรให้คุณรู้ว่าการที่ผู้คนทั่วโลกได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของพวกเขา มีความหมายต่อนักกีฬาเชียร์กลุ่มนี้มากแค่ไหน”
นอกจากจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับนานาชาติ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้คนในประเทศไทย และจะได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ปลายปีนี้ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับและนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ที่ได้ชมผลงานคุณภาพที่เกิดจากการร่วมมือของคนไทยและคนอเมริกัน และเป็นตัวแทนของภาพยนตร์สารคดียุคใหม่ นี่ไม่ใช่แค่หนังที่นำเสนอเรื่องราวความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของนักกีฬาไทยเท่านั้น แต่ยังทำให้ได้รู้จักกับวัฒนธรรมไทยที่พิเศษและไม่เหมือนใคร พวกเขาสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกได้ดีมาก และมีอนาคตที่สดใสรออยู่”
ในขณะที่ภาพยนตร์กำลังเดินทางไปยังซานฟรานซิสโก เหล่านักกีฬาซึ่งเป็นตัวดำเนินเรื่อง ยังคงฝึกซ้อมกันอย่างทรหดในเมืองไทย ในสนามฝึกซ้อมใหม่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพเพิ่งสร้างขึ้นมาให้ การที่ได้รับรู้ว่าภาพยนตร์มีอิทธิพลอย่างมากต่อชาวอเมริกัน ได้สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาและทำให้พวกเขาต้องการที่จะเป็นทูตวัฒนธรรมของประเทศไทย “เหรียญทองที่ทีมของพวกเรานำกลับมาเมืองไทยในปี 2010 คือเกียรติยศสูงสุดที่ทีมนักกีฬาไทยเคยได้รับจากการแข่งขันระดับนานาชาติ มันเป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่ภาพยนตร์สารคดีที่นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มนักกีฬาเชียร์ได้รับรางวัลมากมายจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติจากหลายประเทศ เราให้การสนับสนุนนักกีฬาของเราตลอดมา และเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เรื่องราวของพวกเขาจะได้รับการถ่ายทอดสู่สากลในเทศกาลภาพยนตร์เอเชียที่ใหญ่ที่สุดในโลก” เพชร โอสถานุเคราะห์ Chief Creative Officer มหาวิทยาลัยกรุงเทพกล่าว
About “The Cheer Ambassadors”
ภาพยนตร์สารคดีที่นำเสนอเรื่องราวของผู้ฝึกสอนนักกีฬาเชียร์ทีมชาติไทยที่มีหัวใจเต็มเปี่ยมด้วยความฝันและกระตือรือร้น เขาทำให้กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ไม่มีใครรู้จักกลายเป็นนักกีฬาระดับโลกที่สร้างความประหลาดให้ให้ทุกคนด้วยการคว้าเหรียญรางวัลมากมายจากการแข่งขัน World Cheerleading Championships ของ ICU (International Cheer Union) ในปี 2009 และ 2011 ที่เมืองออร์ลันโด้ มลรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์ 60?N Os ที่ประเทศนอร์เวย์ และได้รับรางวัล Audience Award จากเทศกาลภาพยนตร์ ChopShots Documentary Edge ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย
About The CAMMFEST (Formerly San Francisco International Asian American Film Festival - SFIAAFF)
โชว์เคสที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการยอมรับมากที่สุดในกลุ่มเอเชียนและอเมริกันเอเชียนยุคใหม่ ในสื่อสาขาภาพยนตร์ ดนตรี สื่อดิจิตัล และอาหาร ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 และดำเนินงานมากว่า 30 ปี ในซานฟรานซิสโก