ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยบจ.ได้ส่วนลดภาษีนิติบุคคลชัดเจนตามเกณฑ์ใหม่ แยกตามทุนชำระแล้ว

ข่าวทั่วไป Tuesday November 30, 2004 10:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยเกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่ที่จะเริ่มใช้สำหรับบจ.ที่ยื่นคำขอตั้งแต่ 1 ม.ค.
2548 จะได้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามขนาดทุนชำระแล้ว ส่วนบจ.ที่ขอใช้เกณฑ์เก่าต้องแจ้งตลาดหลัก
ทรัพย์ฯ ภายใน 30 พ.ย.2547
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติหลักเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (mai) โดยเกณฑ์ใหม่จะมีการปรับตัวเลข
ทุนชำระแล้ว และส่วนของผู้ถือหุ้น รวมทั้งกำไรสุทธิที่ผ่านมาให้สอดคล้องกับสิ่งที่คณะกรรมการตลาดหลัก
ทรัพย์ฯ ต้องการแยกสภาพของ SET และ mai ให้ชัดเจน
“เกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่นี้ จะเริ่มใช้สำหรับบริษัทที่ยื่นคำขอตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548
เป็นต้นไป แต่ อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมามีบริษัทหลายแห่งได้เตรียมการเข้าจดทะเบียนใน SET โดยใช้
แนวทางตามเกณฑ์เดิมแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงอนุโลมให้บริษัทดังกล่าวสามารถขอใช้เกณฑ์การรับหลัก
ทรัพย์เฉพาะใน SET เดิมก่อนการแก้ไขได้และมีเงื่อนไขต้องเข้าซื้อขายภายใน 31 ธันวาคม 2548 และ
ใช้เกณฑ์ Silent Period เดิมด้วยเช่นกัน โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2547 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
แจ้งให้ที่ปรึกษาทางการเงินทุกบริษัททราบเรื่อง ดังกล่าว และกำหนดให้แจ้งความประสงค์มาที่ตลาดหลัก
ทรัพย์ฯ ภายใน 30 พฤศจิกายน 2547” นางสาว โสภาวดีกล่าว
สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของบริษัทที่เข้าตามเกณฑ์ใหม่และเข้าซื้อขายภายในวันที่ 31
ธันวาคม 2548 จะได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยจะแบ่งตามขนาดทุนชำระแล้วของบริษัท
กล่าวคือ บริษัทใน mai ปกติมีทุนชำระแล้วต่ำกว่า 300 ล้านบาท เสียภาษีในอัตราร้อยละ 20 และ
บริษัทใน SET หรือ mai ซึ่งมี ทุนชำระแล้วตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไปเสียภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทั้งนี้
เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของมาตรการลดหย่อนภาษีที่สนับสนุนให้บริษัทขนาดเล็กได้รับส่วนลดภาษี
ในอัตราที่มากกว่าบริษัทขนาดใหญ่
นางสาวโสภาวดีกล่าวต่อว่า “บริษัทที่จดทะเบียนใน mai และต้องการจะย้ายไปจดทะเบียน
ใน SET ให้เป็นไปตามความสมัครใจของบริษัท แต่บริษัทที่จะย้ายต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์รับหลัก
ทรัพย์ของ SET ทั้งทุนชำระแล้ว ส่วนของผู้ถือหุ้น ผลการดำเนินงาน และกำไรสุทธิ”
นอกจากนี้ ได้มีการปรับเกณฑ์ห้ามผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องขายหุ้นและหลักทรัพย์ภายในเวลา
ที่กำหนด (Silent Period) ใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงผู้เข้าข่าย Silent period เป็นผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วม
ในการบริหารงาน (Strategic Shareholders) และห้ามขายหุ้นและหลักทรัพย์จำนวนรวมกันไม่ต่ำกว่า
ร้อยละ 65 ของทุนชำระแล้ว หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นระยะ
เวลา 1 ปี 6 เดือน เมื่อครบกำหนด 6 เดือน สามารถทยอยขายหุ้นได้ร้อยละ 25 ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย
ทุกๆ 6 เดือน
เอกสารประกอบข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฉบับที่ 157 /2547 วันที่ 29 พฤศจิกายน
2547
ตารางเกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่
1. เกณฑ์รับหลักทรัพย์
เกณฑ์ SET mai
1. ทุนชำระแล้ว (ลบ.) > 300 > 20[1
]
2. Equity (ลบ.) > 300 > 20
3. การกระจายหุ้น
- นิยาม ผู้ถือหุ้นที่มิได้เป็น Strategic Shareholders
- จำนวนราย > 1,000 ราย > 300 ราย
- จำนวนหุ้น 25% ของทุน (อาจผ่อนผันระยะเวลาให้บริษัทที่มีทุน > 10,000 ลบ. ได้ไม่เกิน 1 ปี) 20% ของทุน
4. ผลการดำเนินงาน
- Track Record > 3 ปี ก่อนยื่น > 2 ปี ก่อนยื่น > 1 ปี ก่อนยื่น
- Same Mgt. 1 ปี 1 ปี 1 ปี
- Performance กำไรสุทธิ[2
]รวม 2 หรือ 3 ปีล่าสุด > 50 ลบ. + ปีล่าสุด > 30 ลบ. + งวดสะสมล่าสุด > 0 กำไรสุทธิ2 > 0 Market Cap. > 1,500
5. Provident Fund ? ? ?
2. เกณฑ์ Silent Period
SET และ mai
ผู้เข้าข่าย Strategic Shareholders
จำนวนหุ้น 65% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO
ระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน
เมื่อครบกำหนด 6 เดือนทยอยขายหุ้นได้ 25% ทุกๆ 6 เดือน
สำหรับบริษัทที่มีทุนชำระแล้ว > 300 ล้านบาท แต่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ SET
ตลาดหลักทรัพย์จะรับเป็นหลักทรัพย์
จดทะเบียนด้วยประกาศตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าด้วยการรับหลักทรัพย์ใน SET แต่ให้หลักทรัพย์
ดังกล่าวซื้อขายใน mai
ไม่นับรวมต้นทุนทางการเงิน--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ