กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “AEC and MICT Smart Thailand” ภายใต้โครงการสัมมนาเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นและเผยแพร่ความรู้ต่อข้อผูกพันการเปิดตลาดการค้าบริการสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทยในกรอบอาเซียน ว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2538 รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้มีการลงนามกรอบความตกลงการค้าบริการของอาเซียน โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าบริการระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันการค้าบริการ และขจัดอุปสรรคต่อการค้าบริการ รวมถึงการขยายขอบเขตและการเปิดเสรีให้มากขึ้นนอกเหนือจากที่ผูกพันไว้ภายใต้ความตกลงการค้าบริการขององค์การการค้าโลก หรือ WTO ซึ่งในกรอบการเจรจาด้านบริการของอาเซียน ได้กำหนดสาขาบริการสำคัญที่จะต้องเร่งรัดให้มีการเปิดตลาดไว้ 4 สาขา คือ สุขภาพ ท่องเที่ยว การบิน และ e-ASEAN ซึ่งหมายถึงบริการด้านคอมพิวเตอร์ และบริการด้านโทรคมนาคม โดยมอบหมายให้กระทรวงไอซีทีเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบสาขานี้
ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้จัดทำโครงการ “สัมมนาเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นและเผยแพร่ความรู้ต่อข้อผูกพันการเปิดตลาดการค้าบริการสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทยในกรอบอาเซียน” ขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตลาดบริการในกรอบอาเซียนโดยเฉพาะบริการด้านคอมพิวเตอร์ และบริการด้านโทรคมนาคม ให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สำหรับกิจกรรมในโครงการจะประกอบไปด้วย การจัดประชุมกลุ่มย่อย เพื่อระดมความคิดเห็นต่อข้อผูกพันการเปิดตลาดการค้าบริการ จากผู้ประกอบการ ผู้แทนสมาคมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้แทนภาครัฐ และนักวิชาการ ซึ่งได้จัดประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 และวันที่ 22 มกราคม 2556
นอกจากการประชุมกลุ่มย่อยแล้วได้มีการจัดสัมมนา “AEC and MICT Smart Thailand” ทั่วประเทศทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 1 จัดที่จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดชลบุรี ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องการเปิดตลาดการค้าบริการสาขาคอมพิวเตอร์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง และบริการโทรคมนาคมของไทยในกรอบอาเซียนให้แก่ทุกภาคส่วน ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน NGO นักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป และเป็นเวทีในการรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสร้างความพร้อมและโอกาสสำหรับรองรับกระแสการเปิดเสรี และสามารถดำเนินการเตรียมความพร้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงได้ทั้งในประเทศและกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมทั้ง กลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้สามารถเสนอความคิดเห็นและแนวทางการขอรับความช่วยเหลือ ในการปรับตัว การเยียวยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีผู้เข้าร่วมเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยผู้เข้าร่วมกว่าร้อยละ 80 มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นหลังจากเข้าร่วมการประชุมและการสัมมนา สามารถเปรียบเทียบข้อผูกพัน รวมถึงเข้าใจสถานะความพร้อมของประเทศไทยโดยเปรียบเทียบกับประเทศอาเซียนอื่น ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งที่ 4 นี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดโครงการโดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนากว่า 250 คน
“การจัดสัมมนาทั้ง 4 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งสุดท้ายนี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ICT ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อจะนำความรู้ ความเข้าใจ หรือแนวคิดที่ได้รับมาพัฒนาต่อยอดและหาช่องทางหรือโอกาสจากการเปิดเสรีบริการในกรอบอาเซียน เป็นการผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมั่นใจและมั่นคง และขณะเดียวกันช่วยให้อาเซียนมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสามารถแข่งขันกับประเทศคู่ค้าสำคัญในเวทีโลกได้” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์กล่าว
ติดต่อ:
PR.MICT 02-141-6747