กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--ไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ Power System รุ่นใหม่ รวมถึง PureSystems และสตอเรจรุ่นใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้คลาวด์ได้อย่างรวดเร็วและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล หรือ บิ๊กดาต้า ได้ง่ายขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเดิม โดยการขยายโอกาสสำหรับ ตลาดองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และตลาดใหม่ๆ โดยองค์กรต่างๆ จะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนทักษะความชำนาญบุคลากรไอที ต้นทุน และความซับซ้อนของไอที สำหรับการปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้
ในอดีตเอสเอ็มอี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของโลก ประสบปัญหาในการปรับใช้เทคโนโลยีบิ๊กดาต้าและคลาวด์คอมพิวติ้ง เนื่องจากระบบมีราคาแพง และขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะทางด้านนี้ ผลจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของไอบีเอ็มในวันนี้ จะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มบีทั่วโลกสามารถใช้เทคโนโลยีพื้นฐานแบบเดียวกับบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ รวมถึงบริษัทในตลาดที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่
ไอบีเอ็มประเมินว่า มีข้อมูล 2.5 เอ็กซาไบต์ถูกสร้างขึ้นในแต่ละวัน โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกทุกวันนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ องค์กรทุกขนาดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมจึงต้องมองหาหนทางที่สะดวกง่ายดายและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นในการวิเคราะห์ข้อมูลและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเหมาะสม
ผลิตภัณฑ์ใหม่ของไอบีเอ็มสำหรับจัดการบิ๊กดาต้า ในวันนี้จะช่วยขจัดอุปสรรคสำคัญ 2 ประการในการปรับใช้บิ๊กดาต้า นั่นคือ ค่าใช้จ่ายในการประมวลผลข้อมูล และความยุ่งยากซับซ้อนในการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจ
ไอบีเอ็มขยายเทคโนโลยีไมโครโปรเซสเซอร์ POWER7+ ไปสู่ระบบระดับเริ่มต้นและระดับกลาง ทั้งนี้ โปรเซสเซอร์ IBM POWER เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับบิ๊กดาต้าและคลาวด์ได้เหนือกว่าชิป x86 เพราะระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น (Virtualization) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการประมวลผลข้อมูลบิ๊กดาต้า ถูกรวมไว้ในโปรเซสเซอร์
นอกจากนี้ ยังมีระบบ PowerLinux Systems รุ่นใหม่อีก 2 รุ่น นั่นคือ รุ่น 7R1 และ 7R2 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ POWER7+ ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับเวิร์กโหลด Linux และระบบ Power Systems 750 และ 760 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถปรับขนาดและจัดสรรเวิร์กโหลดบิ๊กดาต้าและคลาวด์โดยอัตโนมัติ
และอีกนวัตกรรมล่าสุดของไอบีเอ็ม นั่นคือ PureData System for Analytics ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Netezza มีความจุข้อมูลต่อแร็คเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ และสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่า 3 เท่า ระบบดังกล่าวสามารถติดตั้งและเริ่มทำงานได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะต้องสามารถจัดการข้อมูลเพิ่มมากขึ้นได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วกว่า ควบคู่ไปกับการรักษาประสิทธิภาพในดาต้าเซ็นเตอร์
โจว ดับบลิวซี ชาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “การเปิดตัวระบบและเทคโนโลยีใหม่ของไอบีเอ็ม แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าบริษัทต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะทางด้านไอทีที่ก้าวล้ำเพื่อที่จะปรับใช้ความสามารถทางด้านบิ๊กดาต้าและคลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งนับเป็นสององค์ประกอบหลักที่จะกำหนดอนาคตของไอที ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดความยุ่งยากซับซ้อน และช่วยให้ลูกค้าองค์กรทุกขนาดในทุกตลาดสามารถปรับใช้ระบบประมวลผลแห่งอนาคตได้อย่างง่ายดาย”
จากผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของไอบีเอ็ม ผู้บริหารเกือบสามในสี่คนระบุว่า บริษัทได้ดำเนินโครงการนำร่อง ปรับใช้ หรือติดตั้งระบบคลาวด์ในองค์กรอย่างจริงจัง และ 90 เปอร์เซ็นต์มีแผนที่จะดำเนินการดังกล่าวในช่วงสามปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความต้องการที่สูง แต่หลายๆ องค์กร ไม่ว่าจะเป็นเอสเอ็มอีหรือบริษัทในตลาดที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ ยังขาดแคลนทักษะในการปรับใช้เทคโนโลยีนี้
เพื่อช่วยให้ลูกค้าเอาชนะปัญหาท้าทายเหล่านี้ ไอบีเอ็มจึงได้เปิดตัวระบบ PureSystems Application System รุ่นราคาประหยัด ด้วยดีไซน์แบบ Scale-In และความเชี่ยวชาญภายใน ระบบ PureSystems ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
ระบบ PureSystems ทุกรุ่นออกแบบมาสำหรับคลาวด์โดยเฉพาะ โดยไม่ต้องทำการปรับแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่นี้มีขนาดเล็กกว่า เหมาะสำหรับองค์กรที่ขาดแคลนบุคลากรทางด้านไอทีสำหรับการปรับใช้ระบบคลาวด์ ภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมอบโครงสร้างพื้นฐานและซอฟต์แวร์การจัดการที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาและติดตั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ในระบบคลาวด์หรือในองค์กรอย่างรวดเร็ว และช่วยเพิ่มความสะดวกในการให้บริการคลาวด์แบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญภายในองค์กร จึงลดการใช้พลังงานได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์
ผลิตภัณฑ์ PureFlex และ Flex System รุ่น Managed Service Provider (MSP) ช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจของไอบีเอ็ม ได้รับแพลตฟอร์มการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ที่รวดเร็วกว่า ง่ายแก่การบริหารจัดการ และประหยัดค่าใช้จ่ายในการสร้างแพลตฟอร์มด้วยตนเอง ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะช่วยให้ MSP ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
เนื่องจากองค์กรต่างๆ ต้องการที่จะปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์และเวอร์ช่วลไลเซชั่นอย่างง่ายดาย เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ลดค่าใช้จ่าย และเข้าถึงพื้นที่เก็บข้อมูลในกรณีที่จำเป็นเร่งด่วน ดังนั้นไอบีเอ็มจึงได้เปิดตัวระบบสตอเรจรุ่นใหม่ๆ IBM SmartCloud Storage Access คือแพ็คเกจซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถติดตั้งระบบสตอเรจคลาวด์ที่ปลอดภัย โดยซอฟต์แวร์นี้ประกอบด้วยพอร์ทัลบริการตนเองที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างบัญชี ติดตั้งสตอเรจได้มากเท่าที่ต้องการ แล้วอัพโหลดไฟล์ผ่านทางระบบคลาวด์ โดยทั้งหมดนี้เพียงแค่คลิกเมาส์ไม่กี่ครั้ง และไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบไอที
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Smarter Computing ของไอบีเอ็มได้ที่: www.ibm.com/smarter-computing
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : จินรี ตัณมณี ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด โทร 02 273 4676 chinnare@th.ibm.com