กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--เอไอเอส
คุณวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า “เอไอเอส ให้ความสำคัญกับการเตรียมแผนสำรองด้านพลังงานเป็นปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีการใช้พลังงานสูงสุดของแต่ละปีอย่างฤดูร้อน หรือ ในช่วงที่เกิดภัยธรรมชาติ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้โดยมีผลกระทบน้อยที่สุด แม้จะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดังนั้น กรณีที่ประเทศไทยอาจต้องมีการเตรียมการรองรับการงดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากประเทศเมียนมาร์ในช่วง 4 — 12 เม.ย. ตามที่เป็นข่าว เอไอเอส ซึ่งดูแลระบบสื่อสารจึงเตรียมแผนงานอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
1. ดำเนินการ Preventive Maintenance อุปกรณ์ต่างๆ ในระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำรอง ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งจะดำเนินการในรอบนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม
2. ปรับอุปกรณ์ให้สามารถรองรับการใช้งานท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงขึ้นของฤดูร้อน อาทิ ผนังห้อง, แอร์ประหยัดพลังงาน, ฯลฯ เพื่อให้สามารถลดปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าลง รวมถึงทำการ Preventive Maintenance อุปกรณ์ทำความเย็นซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าสูงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. สำรองเชื้อเพลิง เพื่อใช้กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประจำชุมสาย
4. พิจารณาจัดแบ่งพื้นที่ที่เป็น Strategic Area ของการใช้ระบบสื่อสาร เพื่อเตรียมแผนสำรองรองรับกรณีเกิดเหตุขัดข้อง โดยใช้รถสถานีฐานเคลื่อนที่ (Satellite Mobile Car) นำไปให้บริการ รวมถึงการจัดเตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ จ่ายไฟให้กับสถานีฐานใน Strategic Area ด้วย
5. เปลี่ยน Battery ที่เริ่มเสื่อมสภาพที่สถานีฐานเพื่อให้สามารถสำรองไฟฟ้าไว้ใช้เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้
6. ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐ อาทิ การไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อประสานการบริหารการใช้กระแสไฟฟ้าอย่างสอดคล้องกับแผนงานของรัฐบาล
7. Stand by ทีมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำการ monitor และเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ทันที”