กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
แก้ไขย่อหน้าที่ 2 จาก "อนุมัติรับหุ้นสามัญจำนวน 92 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท รวม 460 ล้านบาท" เป็น "อนุมัติรับหุ้นสามัญจำนวน 18.4 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท รวม 92 ล้านบาท"
และแก้ไขย่อหน้าที่ 3 จาก "TAPAC มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 460 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 72 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป จำนวน 4.5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 12.50 บาท" เป็น "TAPAC มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 92 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 14.4 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 4 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป จำนวน 4.5 ล้านหุ้น (รวมหุ้นสามัญเดิมของ บริษัท เจแปน เอเชีย อินเวสเมนต์ จำกัด ที่เสนอขายพร้อมกันจำนวน 0.5 ล้านหุ้น) ในราคาหุ้นละ 12.50 บาท"
บมจ. ทาพาโก้ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรม เตรียมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ 2 ธ.ค. นี้ เผยนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้ยืมและซื้อเครื่องจักร
นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เปิดเผยว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย อนุมัติรับหุ้นสามัญจำนวน 18.4 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท รวม 92 ล้านบาท ของบริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนใน mai โดยกำหนดให้เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2547 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TAPAC”
TAPAC มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 92 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 14.4 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 4 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป จำนวน 4.5 ล้านหุ้น (รวมหุ้นสามัญเดิมของ บริษัท เจแปน เอเชีย อินเวสเมนต์ จำกัด ที่เสนอขายพร้อมกันจำนวน 0.5 ล้านหุ้น) ในราคาหุ้นละ 12.50 บาท โดยมี P/E Ratio เท่ากับ 7.5 เท่า ระหว่างวันที่ 24—25 พ.ย. 2547 เพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากการสร้างโรงงานใหม่และซื้อเครื่องจักรจากสถาบันการเงินจำนวน 46.41 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
TAPAC ประกอบธุรกิจผลิต ประกอบ และจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรม เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบของชิ้นส่วนพลาสติกของเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องเสียงรถยนต์ โดยบริษัทได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำหรับกำไรสุทธิเป็นเวลา 7 ปี โดยจะหมดอายุในปี 2550 สำหรับโรงงานเก่าและ 2554 สำหรับโรงงานใหม่ และได้รับการสนับสนุนด้านการออกแบบ การผลิต และการพัฒนาตลาดซึ่งเป็นไปตามสัญญาให้ใช้ลิขสิทธิ์ ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคและที่ปรึกษาทางการตลาดจาก บริษัท พาร์ทเนอร์ อินดัสทรีส์ จำกัด (PNI) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยบริษัทต้องจ่ายผลตอบแทนการพึ่งพิงดังกล่าวตามสัญญามีระยะเวลาบังคับใช้ครั้งละ 5 ปี (เริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค. 2546 - ก.ค.2551) ทั้งนี้ TAPAC มีนโยบายจ่ายเงินปันผลร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TAPAC ภายหลังบริษัทเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปประกอบด้วย 1)กลุ่ม นักลงทุนสัญชาติญี่ปุ่นถือหุ้นรวมกันร้อยละ 42.58 และ 2) ผู้บริหารและพนักงาน PNI ถือหุ้นรวมกัน ร้อยละ 23.81
ผู้สนใจข้อมูลของบมจ.ทาพาโก้ สามารถค้นหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.tapaco.com และเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ที่ www.mai.or.th รวมทั้งเว็บไซต์ของบริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049--จบ--