บีโอไอจับมือสหภาพยุโรป จัดงาน EU-Thailand Partenariat 2005 มุ่งสร้างการเชื่อมโยงทางธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างไทย - อียู

ข่าวทั่วไป Wednesday December 1, 2004 16:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--บีโอไอ
บีโอไอร่วมกับสหภาพยุโรป จัดงานประชุมและพบปะทางธุรกิจครั้งสำคัญ หวังสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างเอสเอ็มอีไทยและบริษัทชั้นนำจากสหภาพยุโรป โดยในงานจะมุ่งเน้นอุตสาหกรรม 6 กลุ่ม เครื่องจักร เกษตร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แฟชั่น บริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงซึ่งมีอุตสาหกรรมพลังงานและพลังงานทดแทนด้วย ตั้งเป้ามีการเจรจาทางธุรกิจอย่างน้อย 3,000 คู่
นายสาธิต ศิริรังคมานนท์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังพิธีการเปิดตัวงาน The European Union -Thailand Partenariat 2005 ว่า ระหว่างวันที่ 17 — 18 พฤศจิกายน 2548 บีโอไอจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมพบปะทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ประเทศไทยเคยจัดมา โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของสหภาพยุโรป (European Union)
งาน The European Union-Thailand Partenariat 2005 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร จะเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ที่จะได้พบปะและเจรจาทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำและเอสเอ็มอีจาก 25 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ที่จะเดินทางมาเพื่อหาผู้ร่วมทุนทางธุรกิจ หาผู้รับช่วงการผลิต และหาช่องทางการตลาดในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นประตูสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีจำนวนประชากรมากถึง 500 ล้านคน และในทางกลับกันเอสเอ็มอีไทยก็มีโอกาสที่จะขยายตลาดไปยังสหภาพยุโรปที่มีสมาชิกมากถึง 25 ประเทศด้วย
ภายในงานจะมีบริษัทและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมประมาณ 500 ราย แบ่งเป็น เอสเอ็มอีไทยประมาณ 300 ราย และเอสเอ็มอีจากสหภาพยุโรปประมาณ 200 ราย โดยจะครอบคลุมอุตสาหกรรม 6 กลุ่ม คือ อุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์ อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ICT และซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมแฟชั่นและการออกแบบ และอุตสาหกรรมบริการมูลค่าเพิ่มสูง เช่น การท่องเที่ยว ศูนย์สุขภาพและสปา การพิมพ์ การวิจัยและพัฒนา พลังงานและพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้คาดว่าจะเกิดการเจรจาทางธุรกิจอย่างน้อย 3,000 — 4,000 คู่
ด้าน พณฯ ท่านเอกอัครราชทูตเคลาส์ปีเตอร์ ชมาเลนบาค (Ambassador Klauspeter Schmallenbach) หัวหน้าคณะผู้แทน คณะกรรมาธิการยุโรป ประจำประเทศไทย (Head of the Delegation of the European Commission in Thailand) กล่าวว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในสหภาพยุโรปมีจำนวนถึง 19 ล้านราย หรือร้อยละ 98 ของผู้ประกอบการทั้งหมดในสหภาพยุโรป และเอสเอ็มอีก็ถือเป็นแกนสำคัญทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ดังนั้นการจัดประชุมพบปะทางธุรกิจอย่างใกล้ชิดในครั้งนี้จะก่อให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนระหว่างไทย และสหภาพยุโรปมากยิ่งขึ้น
พณ ฯ ท่านเอกอัครราชทูตเคลาส์ปีเตอร์ ชามาเลนบาค กล่าวด้วยว่า สหภาพยุโรปจะเป็นตลาดที่รวมประเทศต่างๆ ที่มีขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งของโลก เพราะตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 15 ประเทศ รวมทั้งสิ้นเป็น 25 ประเทศ ซึ่งนับเป็นการเปิดตลาดที่มีผู้บริโภคมากถึง 450 ล้านคน มีรายได้ต่อหัวสูงถึง 20,800 ยูโร และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เปรียบดุลการค้าสหภาพยุโรปเป็นมูลค่าถึง 4,000 ล้านยูโร
ก่อนหน้านี้ งาน Partenariat ได้จัดขึ้นที่ประเทศอินเดียในปี 2542 ประเทศมาเลเซียและสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2545 และศรีลังกา ในปี 2547 โดยในการจัดงานแต่ละครั้ง มีบริษัทจากสหภาพยุโรปและประเทศเจ้าภาพเข้าร่วมงานประมาณ 500 - 700 ราย และมีการพบปะทางธุรกิจประมาณ 4,000 คู่
เมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้นำเข้าสินค้าจากประเทศต่างๆ เป็นมูลค่าทั้งหมด 987,000 ล้านยูโร ซึ่งคิดเป็น 19% ของมูลค่าการค้าของโลก และในแต่ละปี ประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรปประมาณร้อยละ 15 ของการส่งออกทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 10,000 ล้านยูโร
นายสาธิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บีโอไอกำลังอยู่ระหว่างการรับสมัครผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในกลุ่ม อุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะเข้าร่วมประชุมและพบปะกับบริษัทเอสเอ็มอีจากสหภาพยุโรป โดยจะปิดรับสมัครภายในเดือนเมษายน 2548 เอสเอ็มอีไทยที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่ หน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม หรือ BUILD (BOI Unit for Industrial Linkage Development) โทร 0 2537 8111 ต่อ 1128, 3004, 3005
สามารถเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์:
Asia-Invest Programme
http://europa.eu.int/comm/europeaid/projects/asia-invest
Delegation of the European Commission to Thailand
http://www.deltha.cec.eu.int--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ