กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 — มกราคม 2556) ว่ารัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 674,528 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 131,975 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.3 ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงเศรษฐกิจภายในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่องและผลจากโครงการรถยนต์ใหม่คันแรก ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 994,027 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 353,749 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.2 ซึ่งเป็นผลจากการที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณก่อนมีผลบังคับใช้ล่าช้า ประกอบกับรัฐบาลได้เร่งดำเนินนโยบายทางการคลังของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 319,499 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 134,579 ล้านบาท (สาเหตุหลักจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 102,135 ล้านบาท) ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุล เงินสดรวม 454,078 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 117,823 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 336,255 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 224,082 ล้านบาท
นายสมชัยฯ สรุปว่า “จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่สูงกว่าเป้าหมายในช่วงที่ ผ่านมา ประกอบกับการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศจากการดำเนินนโยบายรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องภายใต้ฐานะการคลังที่เข้มแข็งตลอดปีงบประมาณ 2556”
ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556
หน่วย: ล้านบาท
4 เดือนแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2556 ปีงบประมาณ2555 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 674,528 542,553 131,975 24.3
2. รายจ่าย 994,027 640,278 353,749 55.2
3. ดุลเงินงบประมาณ (319,499) (97,725) (221,774) 226.9
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ (134,579) (182,553) 47,974 (26.3)
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) (454,078) (280,278) (173,800) 62.0
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 117,823 - 117,823 -
๗. ดุลเงินสดหลังกู้ (๕+๖) (336,255) (280,278) (55,977) 20.0
8. เงินคงคลังปลายงวด 224,082 241,012 (16,930) (7.0)
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จาก www.fpo.go.th สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9020 ต่อ 3568
ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดประจำเดือนมกราคม 2556
และในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 — มกราคม 2556)
ในเดือนมกราคม 2556 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 49,941 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 36,440 ล้านบาท และดุลเงินนอกงบประมาณขาดดุล 13,501 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 454,078 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 117,823 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2556 มีจำนวนเท่ากับ 224,082 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่มีความมั่นคงต่อฐานะการคลังของรัฐบาล โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ฐานะการคลังเดือนมกราคม 2556
1.1 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 171,674 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 34,135 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 24.8)
1.2 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 208,114 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 57,651 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 38.3) ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 173,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว และรายจ่ายลงทุน 7,383 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 27,022 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 81.9 (ตารางที่ 1)
การเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ รายจ่ายของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 33,340 ล้านบาท รายจ่ายเงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ 13,471 ล้านบาท งบชำระหนี้ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ 13,389 ล้านบาท และรายจ่ายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 6,614 ล้านบาท
ตารางที่ 1 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเดือนมกราคม 2556
หน่วย: ล้านบาท
มกราคม เปรียบเทียบ
2556 2555 จำนวน ร้อยละ
1. รายจ่ายปีปัจจุบัน 181,092 135,611 45,481 33.5
1.1 รายจ่ายประจำ 173,709 131,401 42,308 32.2
1.2 รายจ่ายลงทุน 7,383 4,210 3,173 75.4
2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 27,022 14,852 12,170 81.9
3. รายจ่ายรวม (1+2) 208,114 150,463 57,651 38.3
ที่มา: กรมบัญชีกลาง
1.3 จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนมกราคม 2556 ขาดดุล 36,440 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 13,501 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ งวดที่ 11 และ 12 ที่เหลื่อมจ่ายจากปีงบประมาณ 2555 จำนวน 12,924 ล้านบาท และการถอนเงินฝากคลังของเงินกู้ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 616 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 49,941 ล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 14,887 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) ขาดดุลเท่ากับ 35,054 ล้านบาท (ตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดเดือนมกราคม 2556
หน่วย: ล้านบาท
มกราคม เปรียบเทียบ
2556 2555 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 171,674 137,539 34,135 24.8
2. รายจ่าย 208,114 150,463 57,651 38.3
3. ดุลเงินงบประมาณ (36,440) (12,924) (23,516) 182.0
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ (13,501) (10,741) (2,760) 25.7
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) (49,941) (23,665) (26,276) 111.0
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 14,887 - 14,887 -
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) (35,054) (23,665) (11,389) 48.1
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
2. ฐานะการคลังในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 — มกราคม 2556)
2.1 รายได้นำส่งคลัง[1] รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 674,528 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 131,975 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 24.3) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และสรรพสามิตรถยนต์ ได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
2.2 รายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 994,027 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 353,749 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 55.2) ประกอบด้วยรายจ่ายปีปัจจุบัน 880,871 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 36.7 ของวงเงินงบประมาณ (2,400,000 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 53.2 และรายจ่ายปีก่อน 113,156 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 73.3 (ตารางที่ 3)
รายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 880,871 ล้านบาท ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 815,074 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 53.0 และรายจ่ายลงทุน 65,797 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 55.4
ตารางที่ 3 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556
(ตุลาคม 2555 — มกราคม 2556)
หน่วย: ล้านบาท
4 เดือนแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2556 ปีงบประมาณ 2555 จำนวน ร้อยละ
1. รายจ่ายปีปัจจุบัน 880,871 574,970 305,901 53.2
1.1 รายจ่ายประจำ 815,074 532,632 282,442 53.0
1.2 รายจ่ายลงทุน 65,797 42,338 23,459 55.4
2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 113,156 65,308 47,848 73.3
3. รายจ่ายรวม (1+2) 994,027 640,278 353,749 55.2
[1] ทั้งนี้ กระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมายว่ารายได้จากการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 3จี จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) (20,843 ล้านบาท) สามารถนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินอย่างสมบูรณ์ได้หรือไม่ เนื่องจากการออกใบอนุญาตดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
ที่มา: กรมบัญชีกลาง
2.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุล 454,078 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 319,499 ล้านบาท และการขาดดุลเงินนอกงบประมาณจำนวน 134,579 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 102,135 ล้านบาท และการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ ที่เหลื่อมจ่ายจากปีงบประมาณ 2555 จำนวน 30,846 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงิน โดยชดเชยการขาดดุลด้วยการกู้จำนวน 117,823 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล) ขาดดุลเท่ากับ 336,255 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 224,082 ล้านบาท (ตารางที่ 4)
ตารางที่ 4 ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 4 เดือนแรก
ปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 — มกราคม 2556)
หน่วย: ล้านบาท
4 เดือนแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2556 ปีงบประมาณ 2555 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 674,528 542,553 131,975 24.3
2. รายจ่าย 994,027 640,278 353,749 55.2
3. ดุลเงินงบประมาณ (319,499) (97,725) (221,774) 226.9
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ (134,579) (182,553) 47,974 (26.3)
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) (454,078) (280,278) (173,800) 62.0
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 117,823 - 117,823 -
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) (336,255) (280,278) (55,977) 20.0
8. เงินคงคลังปลายงวด 224,082 241,012 (16,930) (7.0)
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 0-2273-9020 ต่อ 3568