กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--เอสซีฯ
เอสซีฯ เติบโตยั่งยืน ส่งผลการดำเนินงานปี 55 ยอดขาย 12,250 ล้าน โตกว่า 50% รายได้รวม 8,427 ล้าน โต 14% กำไร 1,108 ล้าน เตรียมเสนอจ่ายปันผล 0.787 บาท/หุ้น เป็นหุ้นปันผล 8 ต่อ 1 และ เงินสด 0.162 บาท/หุ้น พร้อมแตกพาร์เป็น 1 บาท มั่นใจ 37 โครงการ / 37,000 ล้านบาทที่ขายจะรองรับเป้ายอดขาย 15,000 ล้านปี 56 นำรายได้ก้าวสู่ทำเนียบหมื่นล้าน
นางบุษบา ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2555 ว่า การดำเนินงานของบริษัทประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งในด้านยอดขายและรายได้ โดยทำยอดขายได้ถึง 12,250 ล้านบาท เติบโต 51% จากปี 2554 มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ หรือ Backlog 7,700 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2556-2558 บริษัทฯมีรายได้รวม 8,427 ล้านบาท เติบโต 14% ซึ่งเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 8,358 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,108 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น เท่ากับ 1.68 บาท
โครงสร้างรายได้ทั้งหมดมาจาก 2 ส่วนธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 โครงการพัฒนาที่พักอาศัย จำนวน 7,555 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 16% จากปี 2554 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของรายได้จากการดำเนินงาน และ ส่วนที่ 2 ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า จำนวน 803 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม เท่ากับ 22,751 ล้านบาท และ 12,680 ล้านบาทตามลำดับ มูลค่าตามบัญชี เท่ากับ 15.30 บาทต่อหุ้น
จากการพิจารณาผลประกอบการปี 2555 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2555 ในอัตราหุ้นละ 0.787 บาท โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลบางส่วนในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และ จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดบางส่วนในอัตรา 0.162 บาทต่อหุ้น และ มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นของบริษัทที่ตราไว้ จากเดิม 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท โดยจะนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติในเดือนเมษายนนี้
ทั้งนี้ จากการประกาศแผนธุรกิจปี 2556 ที่มีเป้าหมายยอดขาย 15,000 ล้านบาท และ เป้ารายได้ที่ 10,000 ล้านบาทนั้น บริษัทฯจะมุ่งพัฒนาโครงการใหม่ระดับพรีเมี่ยมในทุกเซ็กเมนต์ โดยมีโครงการเปิดใหม่ในปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการที่เปิดในเมืองชายทะเลท่องเที่ยว 2 แห่ง ได้แก่ โครงการหัวหิน ซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการแนวราบบนที่ดินติดชายทะเล เนื้อที่กว่า 50 ไร่ และ โครงการคอนโดมิเนียมที่พัทยา ภายใต้แบรนด์ “เซ็นทริค” ในทำเลที่มีศักยภาพ เสมือนบ้านหลังที่ 2 ไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจในทำเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯนัก อีกทั้งยังเหมาะแก่การลงทุน ภายในโครงการพร้อมพรั่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันและมีเอกลักษณ์โดดเด่น ภายใต้ความสร้างสรรค์และใส่ใจ อันเป็นดีเอ็นเอสำคัญขององค์กร คือ Caring Creativity ซึ่งใน 13 โครงการใหม่ แบ่งได้เป็นโครงการแนวราบ 9 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท มีทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม ส่วนแนวสูง 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ 3 โครงการ คือ โครงการเซ็นทริค กับ คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์แบรนด์ใหม่ 1 โครงการ คือ “แชมเบอร์ส รามอินทรา” คอนโดมิเนียมอารมณ์บ้าน ที่พร้อมเปิดพรีวิวให้ชมห้องตัวอย่าง ขนาด 1-3 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้น 45-96 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาทขึ้นไป ได้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป
นางบุษบา กล่าวสรุปว่า “จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างใส่ใจและต่อเนื่องของ เอสซี แอสเสท ประกอบกับ จำนวนโครงการที่จะเปิดขายในปีนี้ทั้งโครงการต่อเนื่องและโครงการใหม่รวม 37 โครงการ มูลค่า 37,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่า ปี 2556 เอสซี แอสเสท มีความพร้อมที่จะเติบโตและสามารถก้าวสู่ยอดขายและรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”