กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--ซีพีเอฟ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2555 ด้วยยอดขาย 357,175 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 73% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 18,790 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.59 บาท พร้อมประกาศจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังอีกจำนวน 0.50 บาทต่อหุ้น
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาว่า นอกเหนือจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ในภาพรวมที่ยังมีความผันผวนในหลายประเทศแล้วนั้น ยังมีปัจจัยภายนอกที่เป็นความท้าทายต่อธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารในปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก อาทิเช่น ภาวะสินค้าเนื้อสัตว์ล้นตลาดที่ทำให้ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวลดลงอย่างมากตั้งแต่ต้นปี 2555 และภาวะต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากวิกฤตภัยแล้งในสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ซึ่งทำให้ผู้ผลิตเนื้อสัตว์ขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจ นอกจากนั้นได้มีโรคกุ้งประเภทใหม่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่ปัจจุบันทางภาครัฐและบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนามาตรการในการป้องกัน ทำให้ในไตรมาสที่ 4 บริษัทมีกำไรจำนวน 238 ล้านบาทลดลงค่อนข้างมากจากปีก่อน แต่เชื่อว่าสถานการณ์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
อย่างไรก็ดี ผลจากการที่บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นของ CPP หรือ C.P.Pokphand Co.Ltd. บริษัทหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในช่วงต้นปี 2555 ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์ในประเทศจีนและธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม ได้ทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ก้าวกระโดด และยังคงมีผลกำไรต่อเนื่อง
บริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในอีก 5 ปีข้างหน้าไว้ที่ 700,000 ล้านบาท เติบโต 1 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10-15% ต่อปี ด้วยการเติบโตของกิจการในประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Market) และธุรกิจอาหารเป็นหลัก
คณะกรรมการบริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจำนวน 0.50 บาทต่อหุ้น (เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก จำนวน 0.60 บาทต่อหุ้น ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซีพีเอฟจะมีการจ่ายเงินปันผลรวมทั้งปีจำนวน 1.10 บาทต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานปี 2555) ซึ่งได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 (XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2556)