กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2555 รายได้จากการให้บริการโดยรวมเติบโตเพิ่มขึ้นมาก จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของทั้งสามธุรกิจหลัก โดยบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช และการขยายบริการอัลตร้า ไฮ-สปีด อินเทอร์เน็ต ไปสู่ต่างจังหวัด ได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าโฆษณา และธุรกิจ มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นปัจจัยที่สร้างความเติบโตให้แก่ทรูวิชั่นส์
ในปี 2555 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็น 61.9 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของทรูมูฟ เอช จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริการที่ไม่ใช่เสียง และความสำเร็จในการเปิดจำหน่าย iPhone 5 และสมาร์ทโฟนอื่นๆ พร้อมแพ็คเกจในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้จากการขายของกลุ่มทรูโมบายล์เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 197.7 จากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้ของกลุ่มทรูออนไลน์เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของบริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป รวมทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นของทรูวิชั่นส์จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของค่าการขายโฆษณา และการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ในปี 2555
ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ลดลงเล็กน้อย (ร้อยละ 2.1) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็น 16.7 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จากค่าใช้จ่ายในการขยายบริการ 3G+ และค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ทรูมูฟ เอช ที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2555 กลุ่มทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมภาษีเงินได้รอตัดบัญชี เป็น 5.4 พันล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิจำนวนทั้งสิ้น 7.4 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการบันทึกการด้อยค่าของสินทรัพย์ โดยเฉพาะการด้อยค่าของสินทรัพย์โครงข่าย 2G ของทรูมูฟ
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “ในปี 2555 ธุรกิจของกลุ่มทรูมีความคืบหน้าในหลายๆ ด้าน ทั้งการสร้างแบรนด์ทรูมูฟ เอช ให้เป็นผู้นำในการให้บริการ 3จี ด้วยคุณภาพโครงข่ายที่ครอบคลุมทั่วถึง และการให้บริการที่ดีเยี่ยม รวมทั้งการชนะประมูลใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz ที่จะเสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการ 3จี ของทรูมูฟ เอช ซึ่งจะทำให้ลูกค้าทรูมูฟ เอช ได้ใช้บริการ 3จี ที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นทั้งเรื่องความเร็วและความครอบคลุมในการใช้งาน นอกจากนี้ความสำเร็จของทรูออนไลน์ในการขยายบริการบรอดแบนด์ไปสู่ต่างจังหวัดส่งผลให้มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิถึงกว่า 2.3 แสนรายในปีที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยเน้นขยายบริการบนเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 ออกสู่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ นอกจากจะได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องแล้วยังสามารถให้บริการแบบ Triple-play เต็มรูปแบบซึ่งเป็นการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริการเคเบิลทีวีและบริการด้านเสียง ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อบนโครงข่ายเดียวกันเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้า และสร้างความแตกต่างให้กับบริการของกลุ่มทรู รวมทั้งเพิ่มโอกาสให้ได้ใช้บริการของกลุ่มทรูมากกว่า 1 บริการอีกด้วย
ในส่วนของทรูวิชั่นส์ ได้มีการเปลี่ยนระบบออกอากาศใหม่ที่มีความปลอดภัยสูงซึ่งสามารถขจัดการลักลอบใช้สัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้นำเสนอประสบการณ์การรับชมที่ดียิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มจำนวนช่องรายการในระบบ HD ส่งผลให้ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา รายได้ค่าสมาชิกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มต่างๆ ในธุรกิจทีวี ยังช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มการเข้าถึงรายการคุณภาพของทรูวิชั่นส์ได้อีกด้วย ซึ่งความสำเร็จจากพัฒนาการต่างๆ เหล่านี้นอกจากจะส่งผลให้รายได้จากการให้บริการเติบโตอย่างแข็งแกร่งแล้ว ผู้ใช้บริการของกลุ่มทรูตั้งแต่ 2 บริการขึ้นไปยังเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2.7 ล้านรายอีกด้วย ซึ่งในไตรมาส 4 ปี 2555 กลุ่มทรูได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์หรือการผสมผสานสินค้าและบริการในกลุ่มทรูเข้าด้วยกัน โดยการนำเสนอสิทธิพิเศษด้วยการเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้าตามจำนวนการใช้งานสินค้าและบริการของกลุ่มทรู เพื่อให้ง่ายและตรงตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น”
“สำหรับปี 2556 ทรูยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ โดยมุ่งรักษาความเป็นผู้นำในการให้บริการ 3จี และเตรียมเปิดให้บริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ภายใต้แบรนด์ทรูมูฟ เอช ซึ่งทำให้บริษัทสามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทยได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวและการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดของทั้งคลื่นความถี่ 2.1 GHz และ 850 MHz ของ CAT Telecom อีกทั้งบริษัทมีแผนเตรียมขยายโครงข่ายทรูออนไลน์ให้ครอบคลุม 61 จังหวัดทั่วไทยภายในสิ้นปี 2556 ในขณะที่ทรูวิชั่นส์ยังคงมุ่งสร้างพันธมิตรท้องถิ่นทั่วไทย และคงความเป็นผู้นำคอนเทนต์คุณภาพระดับโลก”
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีที่ผลประกอบการของกลุ่มทรูปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2555 เนื่องจากรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการลงทุนในธุรกิจหลักที่มีการเติบโตสูง ถึงแม้ว่าในปี 2555 ระดับหนี้สินและค่าใช้จ่ายของกลุ่มทรูจะเพิ่มขึ้นทั้งจากการลงทุนขยายโครงข่ายและการทำตลาดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า แต่สิ่งเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างความเติบโตอย่างมั่นคงให้กับองค์กร โดยในปี 2556 กลุ่มทรูจะมุ่งเน้นการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดเพื่อเพิ่มผลกำไรให้แก่บริษัทในระยะยาว”