กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--พีอาร์ พลัส ทู
แนวโน้มตลาดโน้ตบุ๊คมาแรง ซินเน็ค (ประเทศไทย) ลั่นฆ้องพร้อมลุยเต็มที่ ปี’48 ตั้งเป้ายอดขายโน้ตบุ๊คประกอบ BTO (Build To Order) เดือนละกว่า 800 เครื่อง สอดรับกับการเข้าสู่โครงการคอมพิวเตอร์พกพาเพื่อนักศึกษาร่วมกับทางสกอ. เดินเครื่องจัดโรดโชว์เพื่อให้ความรู้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจด้านไอทีรายใหญ่ของเมืองไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มของตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คในเมืองไทยว่า ขนาดของตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คจะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ขณะที่ราคาเครื่องจะถูกปรับลดลงมาแต่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น จากข้อมูลของทางสมาคมอุตสาหกกรมคอมพิวเตอร์ไทย (ATCI) ระบุว่า ยอดจำหน่ายของเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คโดยรวมในปีนี้อยู่ที่ 210,000 เครื่อง และคาดว่าในปี 2548 จะเพิ่มเป็น 273,000 เครื่อง โดยจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีนี้ ซึ่งจากตัวเลขยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั้งหมด 1,295,700 เครื่องในปีนี้ แบ่งเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 16 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะหรือเดสก์ท้อปมีส่วนแบ่ง 84 เปอร์เซ็นต์
ประธานกรรมการบริหารบริษัทซินเน็คฯ กล่าวว่า “จากแนวโน้มและทิศทางของตลาดดังกล่าว บริษัทจึงคาดการณ์ว่าคอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือโน้ตบุ๊คจะมาทดแทนคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะในไม่ช้านี้ เนื่องจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คสามารถตอบสนองวิถีการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ทั้งยังมีขนาดเล็กที่สะดวกต่อการพกพา นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเชื่อมต่อระบบแลนแบบไร้สาย เพื่อเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ทได้ทุกที่ ทุกเวลา”
จากยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คโดยรวมในปีนี้แบ่งเป็นโน้ตบุ๊คกลุ่มพรีเมียม ภายใต้สินค้าแบรนด์เนมชื่อดังประมาณ 42,000 เครื่อง หรือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของยอดรวมทั้งหมด ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีกำลังซื้อสูง หรือเป็นผู้ที่มีความภักดีต่อตราสินค้า ส่วนโน้ตบุ๊คประเภทเมนสตีมสามารถครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดจำหน่าย 136,500 เครื่อง เนื่องจากเป็นโน้ตบุ๊คระดับทั่วๆ ไปที่ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์เนมชื่อดัง แต่สามารถพกพาสะดวก ใช้งานได้ตามมาตรฐาน และมีความสา-มารถในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ส่วนอีกกลุ่มคือ รีเพลซซี่ง พีซี หรือกลุ่มผู้ที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊คที่มีราคาถูกเพื่อมาใช้งานแทนพีซีแบบตั้งโต๊ะ โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 31,500 เครื่อง
นายสุพันธุ์คาดการณ์ว่าตลาดหลักของธุรกิจโน้ตบุ๊คโดยรวมจะยังคงเป็นเครื่องอินเตอร์แบรนด์ อย่างไรก็ดี โน้ตบุ๊คประเภทโลคอล แบรนด์จะเริ่มเข้ามาแบ่งสัดส่วนตลาดมากขึ้น สำหรับซินเน็คได้ตั้งเป้ายอดจำหน่าย บีทีโอ โน้ตบุ๊ก ในปี 2548 ประมาณ 9,500 เครื่อง หรือประมาณ 800 เครื่องต่อเดือน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3.5 เปอร์เซ็นต์ ของตลาดโน้ตบุ๊กโดยรวม โดยบริษัทจะเน้นให้ความรู้ตลาดและกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้มีความรู้ความใจมากขึ้น
จุดเริ่มต้นของ BTO โน๊ตบุ๊คประกอบ
นายสุพันธุ์ให้ความเห็นว่าโน้ตบุ๊คโดยทั่วไปในปัจจุบันมักถูกกำหนดให้เป็นรุ่นมาตรฐานที่ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนประกอบได้ และถึงแม้จะมีหลายรุ่นถูกผลิตออกมาให้เลือก แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองผู้บริโภคได้โดยสมบูรณ์
ทั้งนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คประกอบสามารถเลือกชิ้นส่วน 5 ชิ้นส่วน ได้แก่ ซีพียู, ฮาร์ดดิสก์, หน่วยความจำ, ระบบแลนไร้สายมาตรฐาน และ ไวท์บอกซ์ (สำหรับเครื่องพีซีจะเรียกว่าแบร์โบน) และในอนาคตชิ้นส่วนต่างๆที่อยู่ในไวท์บอกซ์ (แอลซีดี, คีย์บอร์ด, ออพติคอลไดรฟ์, เมนบอร์ด) จะถูกทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หรือเรียกว่าระบบ Standardize Components ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกคุณสมบัติตามการใช้งานได้มากขึ้น
จากแนวโน้มดังกล่าว จึงเป็นที่มาของแนวคิดในการประกอบเครื่องคอมพิเตอร์โน้ตบุ๊คตามสั่ง หรือ บีทีโอ เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค และในด้านการใช้งานและงบประมาณ ทั้งนี้เมื่อเทียบฺบีทีโอ โน้ตบุ๊ค กับโน้ตบุ๊คประเภทอินเตอร์ แบรนด์ ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ การออกแบบ และลักษณะการใช้งาน รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ กล่าวได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างกันเลย และชิ้นส่วนที่ซินเน็คเลือกมาประกอบในบีทีโอ โน้ตบุ๊ค ได้แก่ ซีพียูและโมดูลเครือข่ายไร้สายของอินเทล, หน่วยความจำของคิงส์ตัน และฮาร์ดดิสก์ของ ซีเกท ล้วนเป็นสินค้าคุณภาพดีที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของโลก
สำหรับจุดเด่นของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คแบบประกอบตามสั่งของซินเน็ค ผู้ซื้อสามารถเลือกโมบายซีพียูแบบต่างๆ เช่น เพนเทียม เอ็ม หรือ เซเลอรอน เอ็ม และยังสามารถเลือกติดตั้งหน่วยความจำตั้งแต่ 256 เมกะไบต์ไปจนถึง 1 กิกะไบต์ ส่วนความจุของฮาร์ดดิสก์มีตั้งแต่ 20, 40, 60 และ 80 กิกะไบต์ ขณะเดียวกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกติดตั้งระบบแลนไร้สายมาตรฐาน 802.11b หรือ 802.11g เพื่อใช้อินเตอร์เน็ทแบบไร้สาย โดยขนาดของจอภาพมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 12.1 นิ้ว, 14.1 นิ้ว และ 15 นิ้วกล่าวคือ ผู้ซื้อสามารถกำหนดคุณสมบัติเครื่องได้เองภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานในอนาคต และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่จำเป็น
“ผมมองว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมีความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ และมันจะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในอนาคตอันใกล้ บีทีโอ โน้ตบุ๊ค เป็นทางเลืกใหม่ที่คุ้มค่าตามการใช้งาน ในปีหน้าทางซินเน็คจะทำการตลาดแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะชัดเจนมากขึ้นในปีถัดๆ ไปโดยเฉพาะเมื่อมีการเติบโตของระบบ Standardize Components เข้าสู่ตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ผู้บริโภคสามารถก็จะสามารถเลือกชิ้นส่วนและอัพเกรดสเปก ได้มากขึ้นด้วย อย่างเช่น เมนบอร์ด, ออฟติคอล ไดร์ฟ หรือแม้กระทั่งจอแอลซีดี และคีย์บอร์ด” นายสุพันธุ์กล่าวเสริม
สู่โครงการคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเพื่อนักศึกษาไทย
ประธานกรรมการบริหารบริษัทซินเน็คเปิดเผยว่า เพื่อพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่ระบบการศึกษาของประเทศไทย และเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษา รวมทั้งบุคลากรภายในสถาบันการศึกษาต่างๆ มีโอกาสได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คกันมากขึ้น จึงเป็นที่มาของโครงการคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเพื่อนักศึกษา ภายใต้ความร่วมมือระหว่างซินเน็คและสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยการนำเสนอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ประกอบตามสั่งตรา “สกอ.” ให้แก่นิสิตนักศึกษา รวมทั้งบุคลากรภายในสถาบันการศึกษาต่างๆ
รศ. ดร. วันชัย ริ้วไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อพัฒนาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ว่า โครงการจัดหาคอมพิวเตอร์พกพา (โน้ตบุ๊ค) สำหรับนิสิตนักศึกษาและบุคลากรในสถาบันการศึกษา เป็นโครงการที่จะช่วยพัฒนา และส่งเสริมคุณภาพการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ซึ่งขณะนี้มีสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล เอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยราชมงคลจำนวนหลายแห่งได้เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว โดยทางธนาคารออมสินจะให้ความร่วมมือด้านการให้สินเชื่อ
ทางด้านนายพุฒิพันธ์ เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เดิมทีตัวเลขการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในเมืองไทย มีสัดส่วนของอินเตอร์แบรนด์ประมาณ 20% และเป็นแบรนด์ท้องถิ่นมากถึง 80% แต่ปัจุบันตลาดคอมพิวเตอร์เมืองไทยได้ก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนผัน โดยเริ่มเปลี่ยนจากการใช้งานเครื่องตั้งโต๊ะมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกในการพกพา ด้วยราคา และผู้ซื้อสามารถกำหนดสเปกต่างๆ ให้ตรงตามความต้องการได้
สำหรับนโยบายด้านการให้บริการของโน้ตบุ๊คประกอบตามสั่งของซินเน็ค นายพุฒิพันธ์กล่าวว่า “ปัจจุบันเรามีศูนย์บริการมากถึง 15 แห่งทั่วประเทศ สามารถรองรับการบริการได้อย่างเต็มที่ โดยเครื่องโน้ตบุ๊ค ประกอบของซินเน็คทุกรุ่นรับประกัน 2 ปีเต็ม (เฉพาะจอกับแบตเตอรรี่ 1 ปี) ซึ่งถือว่าได้มากกว่าเครื่องในระดับราคาเดียวกัน และชิ้นส่วนประกอบอื่นๆ ก็ให้การรับการประกันแบบแยกชิ้น ได้แก่ ซีพียูอินเทล รับประกัน 3 ปี ฮาร์ดดิสก์ของซีเกท รับประกันนานถึง 5 ปี ส่วนหน่วยความจำของคิงส์ตัน (Kingston) บริษัทรับประกันตลอดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ การให้บริการเปลี่ยนซ่อม หลังจากที่ศูนย์บริการได้รับเครื่องแล้วทางศูนย์บริการจะแจ้งรายงานผลของเครื่องภายใน 1 วันทำการ และบริการเปลี่ยนซ่อมภายใน 3 วันทำการ หากเกินกว่านั้นยังมีเครื่องสำรองให้ใช้งานระหว่างรอซ่อมภายใน 7-14 วันทำการด้วย”
นายพุฒิพันธ์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากประสบการณ์ในฐานะผู้ดำเนินกิจการนำเข้า และกระจายสินค้าไอทีมากว่า 15 ปี และยังเป็นที่ยอมรับในวงการไอทีชั้นนำ ด้วยการให้บริการแบบครบวงจรและเป็นมาตรฐานสากล สามารถตอบสนองความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าด้วยดีมาโดยตลอด รวมทั้งความพร้อมด้านสายการผลิตที่ได้รับมาตรฐาน ISO9001:2000 ทำให้บริษัทมั่นใจต่อผลิตภันฑ์โน้ตบุ๊คประกอบตามสั่งที่จะ
นำเสนอสู่ตลาด นอกจาก นี้ การให้บริการแก่ลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขายยังมีความพร้อมและฉับไว โดยการประสานงานของศูนย์ให้บริการของซินเน็คที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
เดินเครื่องโรดโชว์ตามสถาบันการศึกษา
เพื่อให้โครงการคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเพื่อนักศึกษาสัมฤทธิ์ผล และสามารถกระจายสู่กลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น บริษัทซินเน็คจะร่วมมือกับทางสกอ.เพื่อจัดทำโรดโชว์ไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยจะมีทั้งการจัดสัมมนา และการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติ เช่น การจัดอบรมสอนประกอบโน้ตบุ้คเชิงปฏิบัติ และการอบรมการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์เบื้องต้นด้วยตนเองเชิงปฏิบัติ เป็นต้น
“ในเร็วๆ นี้ทางซินเน็คจะร่วมมือกับ สกอ.เพื่อเดินสายให้ความรู้แก่นักศึกษาทั่วประเทศ เพื่อสอนการประกอบเครื่องโน้ตบุ๊ครวมทั้งเทคนิคในการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ด้วย” นายพุฒิพันธ์กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย:
คุณ สุภาณี ลักษณะ
บริษัท พีอาร์ พลัส ทู จำกัด
Mass Communication Manager
โทร : 02-972 7415
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด
: 09-799-9964
โทร: 02-533-8888 ต่อ 7511
Email: prplus2@yahoo.com
Email: suphanee_l@synnex.co.th--จบ--