กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,582 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,581 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.75 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 22,250 บาท กับ 22,350 บาท และกลับมาปิดที่ 22,050 บาท กับ 22,150 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 5,760 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่13,231 คู่สัญญา และ Silver Futures 8 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 6.9% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 9.9% และ Silver Futures เพิ่มขึ้น 3.2% GFJ13 ปิด 22,530บาท และ GFM13 ปิด 22,640 บาท GF10J13 ปิดที่ 22,530 บาท GF10M13 ปิดที่ 22,630บาท SVJ12 830 บาท
สัญญา Comex ปิดร่วงลง 5.8ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,572.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 5.8 เซนต์ ที่ระดับ 28.49 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,253.88 ตัน (ขายออก 0.61 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 90.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์บวก 90.68 จุด ปิดที่ 14,089.66 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ต่อกัน เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำที่ลดลง พร้อมกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์จาก Reuters ระบุว่า การตัดลดงบประมาณสหรัฐไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับทองคำมากนัก
ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งเพื่อเริ่มบังคับใช้มาตรการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล วงเงินรวม 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากความล้มเหลวที่ทั้งสองพรรคไม่สามารถตกลงกันได้
ฟิทช์ เรทติ้งส์เปิดเผยว่า การลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค. จะไม่กระตุ้นให้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ และฟิทช์ยัวระบุว่า การขยายเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 19 พ.ค.2556 ได้ลดแรงกดดันระยะใกล้ต่ออันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของสหรัฐ
นักวิเคราะห์จาก DailyFX วิเคราะห์ราคาทองคำว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำแกว่งตัวอย่างผันผวนจากข่าวความกังวลในเรื่อง Sequestration ของสหรัฐ โดยทองคำยังคงอยู่ในสถานะที่ไม่ปลอดภัยในตอนนี้ แม้ส่วนใหญ่จะมองทองคำในทิศทางขาลง แต่อาจมีการฟื้นตัวในระยะสั้นไปที่แนวต้านสำคัญบริเวณ $1626 หรือหากหลุดระดับแนวรับสำคัญบริเวณ $1550 อาจไปทดสอบเป้าหมายจุดต่ำสุดเดือนพฤษภาคม ปี 2012 ที่ $1527 และ $1483 ตามลำดับ
นายเบน เบอร์นันเก้ กล่าวเตือนสภาคองเกรสว่า Sequester อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการเติบโตเศรษฐกิจ ซึ่งเฟดจะมีการแถลงมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐจากสมาชิกทั้ง 12 เขตในรายงาน Beige Book คืนวันพุธ
นอกจากนี้ การรายงาน Non-farm payroll และอัตราการว่างงานสหรัฐในคืนวันศุกร์ ก็เป็นอีกความสนใจในการสะท้อนว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจาก Sequester อย่างไรบ้าง
ประเด็นหลักต่อไปที่นักลงทุนจะจับตาอย่างใกล้ชิดก็คือ การที่สภาคองเกรสจะทำการหาข้อตกลงเรื่องระดับเพดานหนี้ที่เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 19 พฤษภาคม
จีนประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า มีความพร้อมรับมือกับสงครามค่าเงิน เร่งประเมินผลกระทบ QE ซึ่งจีนคาดว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวได้
อัตราการว่างงานของยูโรโซนเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
กลุ่มผู้นำยุโรปมีความต้องการให้สมาชิกในยูโรโซนทำการตัดลดงบประมาณเพื่อยุติวิกฤตหนี้ ในขณะที่การเลือกตั้งครั้งใหม่ของอิตาลีใกล้เข้ามา โดยรัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะหารือกันในกรุงบรัสเซลส์วันนี้เกี่ยวกับการช่วยเหลือทางการเงินแก่ไซปรัส
มาร์ค อาร์เบเตอร์ ประธานนักกลยุทธ์เชิงเทคนิคอล ประจำสถาบัน S&P Capital IQ กล่าวว่า ทองคำอยู่ในช่วงเวลาวิกฤตครั้งสำคัญ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ราคาทองคำจะทำการ “double bottom” หลังจากที่ซีรี่ย์ต่างๆปรับตัวลดลงจากที่เคยอยู่ระดับสูงในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
อาร์เบเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากราคาทองคำทะลุเส้นเทรนไลน์แนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,650 เหรียญ จะเป็นจุดเปลี่ยนให้ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงเป็นวันที่เก้าติดต่อกัน โดยเมื่อวันศุกร์ SPDR ขายทองคำออกมาอีก 0.61 ตัน คงทองที่ระดับ 1,253.88 ตัน ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา SPDR มีการขายทองคำออกทั้งสิ้น 73.6 ตัน
บาร์เคลย์ กล่าวว่า การขายทองคำออกของกองทุน ETPs ทำให้ปริมาณการถือครองทองคำลดลงทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในวันที่ 20-25 ก.พ. ขายออกไป 10 ตัน ซึ่งสาเหตุการลดลงส่วนใหญ่มาจาก SPDR
รายงานเมื่อวันศุกร์ระบุว่า EPFR Global กล่าวว่านักลงทุนดึงเงินออกจากกองทุน ETPs 4.23 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ โดย 95% ที่ออกไปเป็นกองทุนทองคำและกลุ่มกองทุนโลหะมีค่า
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.2%
- ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 53.1 ตัวเลขจริงปรับตัว สู่ระดับ 54.2
- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 76.3 ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 77.6
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Eurogroup Meetings
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในแนวโน้มขาลง โดยในวันศุกร์ยังปรับตัวลดลงจากระดับ 1,585 เหรียญลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,565 เหรียญ ก่อนที่จะกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,576 เหรียญ สำหรับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาตัวเลขในวันศุกร์ดูจะปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อย ในขณะที่ภาวะ Sequester ในการปรับลดงบประมาณปอัตโนมัติได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 56 โดยไม่มีการเลื่อนอีก ตลาดทั่วไปมองว่าไม่มีผลกระทบใดต่อภาวะเศรษฐกิจในช่วงสั้นๆ นี้
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค —ในเชิงเทคนิคภาพของราคาทองคำในระยะสั้น กลาง และยาวยังเป็นแนวโน้มขาลง ซึ่งคงยังพบการแกว่งของราคาในการปรับขึ้นและลงได้ โดยในเช้าวันนี้เปิดดีดขึ้นมาในตลาดฮ่องกงเหนือระดับ 1,580 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง โดยทองคำจะมีแนวต้านแบบระยะสั้นรายชั่วโมงที่ระดับ 1,590 เหรียญ และแนวรับที่ระดับ 1,565 เหรียญ เชื่อว่าการลงทุนน่าจะเป็นการเข้าและออกตามการแกว่งตัวในกรอบดังกล่าว
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ทยอยซื้อปิด Short Position บ้าง และทำกำไรในกรอบแคบ ทิศทาง 1,570 — 1,585 เหรียญ ย้ำว่าเป็นกรอบแคบๆ แบบราย 1 ชั่วโมงเท่านั้น
- นักลงทุนถือ Long Position
ยังคงแนะนำให้เก็งกำไรในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,560 — 1,585 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ซื้อปิดเพื่อทำกำไร
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,430 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,600 บาท
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,540 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,700 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง