กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--พม.
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในกลุ่มประเทศอาเซียและแปซิฟิก ณ ห้องประชุม ๔ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า การรณรงค์ให้ประเทศต่างๆ ในเอเซียและแปซิฟิก ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็น ในการเตรียมความพร้อมรองรับปัญหาอันเกิดจากการพัฒนาเมือง พร้อมทั้งเสนอแนวทางการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนและทุกประเทศ ควรให้ความสำคัญ และร่วมมืออย่างจริงจัง ไม่ใช่การดำเนินงานของภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว และไม่ใช่การมุ่งส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและโอกาสให้ภาคเอกชนเท่านั้น จะต้องเกิดความร่วมมือสามฝ่าย ได้แก่ ภาครัฐ เอกชนและประชาชน ซึ่งต่างจะต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับกำหนดนโยบายการพัฒนา โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งต้องรับฟังปัญหา และความต้องการของประชาชน และหาแนวทางที่เอื้อให้เกิดกลไก ที่นำไปสู่การพัฒนา รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสร้างความเข้มแข็ง ให้กับประชาชนผู้ด้อยโอกาส เช่น ผู้มีรายได้น้อย สตรี เด็ก เยาวชน คนพิการ คนชายขอบ เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถพี่งพาตนเอง และอยู่ในสังคมได้อย่างทัดเทียมกับผู้อื่น นอกจากนี้ รัฐบาลต้องผลักดันให้การพัฒนาเศรษฐกิจ และการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน เอื้อต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาชน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนจะต้องส่งผลต่อประชาชน ทุกภาคส่วนในสังคมอย่างสมดุลด้วยการประสานการพัฒนาของภาคส่วนต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านโครงการต่างๆของรัฐบาล เช่น โครงการกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย กองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการพัฒนาระบบประกันสุขภาพ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค กองทุนสวัสดิการชุมชน กองทุนผู้สูงอายุ เป็นต้น
นายสันติ กล่าวต่อว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ การแก้ไขปัญหาความยากจน โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ได้แก่ การทำให้ผู้มีรายได้น้อย มีปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำเนินชีวิต เช่น มีสาธารณูปโภคพื้นฐาน เครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค และ ความมั่นคงในที่อยูอาศัย เนื่องจากที่อยู่อาศัยเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด กับความมั่นคงของชีวิตและสังคม ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมาย ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ให้ครอบคลุมความต้องการที่อยู่อาศัย ของผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ประกอบด้วยบ้านเอื้ออาทร และบ้านประเภทต่างๆ ให้ผู้มีรายได้น้อยได้เช่าซื้อ โดยการเคหะ และบ้านมั่นคง ดำเนินการ ซึ่งมุ่งเน้นการแก้ปัญหาความไม่มั่นคง ในการอยู่อาศัยในชุมชนแออัด มีแนวทางให้ชุมชนเป็นแกนหลักในการดำเนินการ รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณการก่อสร้าง ระบบสาธารณูปโภคและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้ชาวชุมชนก่อสร้างที่อยู่อาศัยของตนเอง โดยทำงานร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และโครงการบ้านมั่นคงเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวทางใหม่ ที่เปิดโอกาสให้ชาวชุมชน เป็นผู้ออกแบบก่อสร้างที่อยู่อาศัย และชุมชนของตนเองใหม่ โดยการสนับสนุนด้านงบประมาณจากรัฐ และเทคนิควิชาการ จากหน่วยงานภาครัฐ และท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องซึ่งจะสอดคล้องกับปัญหา และความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง เมื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยแล้วเสร็จ และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ผลสัมฤทธิ์ของโครงการ คือความเข้มแข็ง ความรัก ความผูกพัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของ ของชาวชุมชน อันเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ต่อไป.