กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) โดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ(วศ.) เร่งใช้ผลพิสูจน์สารไนไตรท์ในรังนก สร้างความเชื่อมั่นรังนกไทย แก้ปัญหาประเทศจีนและมาเลเซียห้ามนำเข้ารังนกที่มีปริมาณสารในไตรท์เกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เร่งรัดใช้ข้อมูลผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากกรมวิทยาศาสตร์บริการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการรังนกไทยที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากที่ประเทศจีนประกาศห้ามนำเข้ารังนกจากประเทศต่างๆ เนื่องจากตรวจพบสารปนเปื้อนไนไตรท์ที่เป็นสารพิษต่อร่างกายในรังนกสีแดง โดยประเทศจีนได้กำหนดมาตรฐานชั่วคราวของปริมาณไนไตรท์ที่พบในรังนกไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และประเทศมาเลเซีย กำหนดให้รังนกที่ไม่ผ่านการทำความสะอาดมีปริมาณไนไตรท์ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และกำหนดให้รังนกที่ผ่านการทำความสะอาดมีปริมาณไนไตรท์ไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สำหรับประเทศไทยยังไม่มีเกณฑ์กำหนด
ในเบื้องต้น กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ ได้สุ่มเก็บตัวอย่างรังนกและผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนก เพื่อตรวจสอบปริมาณไนไตรท์ ซึ่งให้ผลการตรวจสอบ ดังนี้
- รังนกบ้านจากจังหวัดทางภาคใต้ที่ไม่ได้ผ่านการทำความสะอาด จำนวน 3 ตัวอย่าง มีปริมาณไนไตรท์ในช่วง 7.20- 29.8 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
- รังนกสีแดงหรือรังนกเลือดที่ไม่ได้ผ่านการทำความสะอาด จำนวน 1 ตัวอย่าง มีปริมาณไนไตรท์ 42.3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
- ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนก จำนวน 3 ตัวอย่าง มีปริมาณไนไตรท์ในช่วง 1.14-4.85 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตามเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในรังนกไทยให้กับประเทศผู้นำเข้ารังนก กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ ได้ดำเนินการเชิงรุกโดยจะจัดประชุมพบปะผู้ประกอบการสินค้า OTOP ในภาคใต้ เพื่อระดมความคิดเห็นประเด็น“ความร่วมมือในการส่งเสริมคุณภาพสินค้าเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในจังหวัดภาคใต้” ในช่วงวันที่ 18-19 มีนาคม 2556 และจะใช้เวทีนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เป็นผลจากสุ่มตรวจสอบตัวอย่างรังนกเพื่อเป็นแนวทางในการดูแลควบคุมคุณภาพสินค้าให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและได้รับการรับรองมาตรฐานเพื่อการส่งออก ต่อไป