กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
เจ เอส แอล จับมือกับกสิกรไทย เปิดตัวรายการ “The Expert ปรากฏการณ์ปลุกฝัน” เอ็ดดูเทนเม้นต์เรียลลิตี้ สานฝันกับการออมด้วยประสบการณ์จริงของคนดัง และคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินรายการแรกของเมืองไทย หวังส่งเสริมให้คนออม ลดหนี้ครัวเรือน ออกอากาศช่อง 5 ทุกวันอาทิตย์ 22.40 น. พร้อมเพิ่ม K-Expert เป็น 2,500 คนรองรับในสาขาทั่วประเทศ
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จากการที่กสิกรไทยได้เปิดตัว K-Expert ภายใต้แนวคิดการเป็น Advisory Banking ให้คำแนะนำและส่งเสริมด้านการออมในรูปแบบต่างๆ แก่ลูกค้าประชาชนนั้น เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์กสิกรไทย ในฐานะผู้นำด้านที่ปรึกษาทางการเงิน ธนาคารฯ จึงได้ร่วมกับบริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด จัดทำรายการ The Expert ปรากฏการณ์ปลุกฝัน ซึ่งจะเป็นรายการเอ็ดดูเทนเม้นต์เรียลลิตี้เกี่ยวกับความรู้ทางการเงินรายการแรกของประเทศไทย
ทั้งนี้ รายการ The Expert ปรากฏการณ์ปลุกฝัน ใช้จุดแข็งของธนาคารที่เป็นผู้นำด้านที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย และเป็นธนาคารแรกที่นำเสนอเนื้อหาทางการเงินในรูปแบบ “เอ็ดดูเทนเม้นต์เรียลลิตี้” โดยร่วมมือกับ เจ เอส แอล ที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงด้านการทำรายการโทรทัศน์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้เนื้อหาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบรายการบันเทิง ทำให้เรื่องการเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ซึ่งรายการ “The Expert ปรากฏการณ์ปลุกฝัน” จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นทำตามความฝัน ที่หลายคนยังขาดประสบการณ์ในการวางแผนและบริหารจัดการด้านการออม โดยมีที่ปรึกษาทางด้านการเงิน และผู้มีประสบการณ์จริงมาให้คำแนะนำและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อทำให้ทุกความฝันเป็นจริง
นายปกรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการจัดทำรายการ The Expert ปรากฏการณ์ปลุกฝัน แล้ว กสิกรไทยยังมีโครงการจะเพิ่มเจ้าหน้าที่ K-Expert เพื่อให้คำปรึกษาด้านการเงินและการออมแก่ผู้สนใจจาก 1,200 คน เป็น 2,500 คน โดยสามารถติดต่อกับ K-Expert ได้ที่สาขาทั่วประเทศ ผ่านทางออนไลน์ www.askkbank.com/k-expert ผ่าน Need Based Guidebook และล่าสุดคือรายการ The Expert ปรากฏการณ์ปลุกฝัน ซึ่งเป็นรูปธรรมที่กสิกรไทยทำให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างของบริการที่ปรึกษาด้านการเงินและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
ทั้งนี้เป้าหมายของ K-Expert คือเมื่อลูกค้าต้องการได้รับคำแนะนำทางการเงินแล้ว ต้องนึกถึงทีม K-Expert ของกสิกรไทยเป็นอันดับแรก (Top of Mind) ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารที่เจาะลึกความต้องการของลูกค้า และด้วยการใช้สื่อทีวีที่สามารถสอดแทรกเนื้อหาการให้บริการของ K-Expert จึงเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างให้กสิกรไทยเป็นธนาคารที่ลูกค้าบุคคลทุกกลุ่มใช้บริการเป็นธนาคารหลัก ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
นายวัชระ แวววุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด กล่าวว่า การทำงานระหว่างกสิกรไทย และ เจ เอส แอล เน้นการทำงานร่วมกันตั้งแต่การกำหนดรูปแบบรายการ การคัดเลือกคนต้นฝันซึ่งเป็นส่วนสำคัญของรายการ โดยเป็นตัวแทนความฝันที่คนส่วนใหญ่มีเพื่อจะให้เป็นแรงบันดาลใจกับทุกคน และที่สำคัญคือการให้คำแนะนำในการวางแผนทางการเงินของทีม K-Expert ที่จะช่วยสานต่อความฝันของพวกเขา พร้อมกับข้อคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ในแวดวงต่างๆ
“เราต้องการให้รายการ The Expert ปรากฏการณ์ปลุกฝัน สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนลุกขึ้นมาทำให้ฝันตนเองเป็นจริง สิ่งที่คนต้นฝันในรายการมีอยู่ล้วนเป็นความฝัน ซึ่งคนส่วนใหญ่อยากจะทำ เช่น อยากมีเรือนหอสำหรับชีวิตคู่ อยากมีรถสำหรับทำธุรกิจ อยากเที่ยวตามฝัน เนื้อหารายการเน้นนำเสนออุปสรรคที่คนต้นฝันต้องพบเมื่อพวกเขาเริ่มลงมือทำความฝัน ทุกอย่างอาจไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด จุดสำคัญคือพวกเขาจะประคับประคองความฝันนั้น ทำให้เป็นจริง และเติบโตต่อไปได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องการคนที่จะคอยชี้แนะแนวทาง เหมือนกับอีกหลายๆ คน ทั้งจากผู้ที่มีประสบการณ์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จะเป็นรายการที่เข้มข้น ครบรส ทั้งด้านสาระประโยชน์ และความสนุกสนานชวนติดตามสำหรับผู้ชม”
รายการ The Expert ปรากฎการณ์ปลุกฝัน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.40 — 23.45 น. รวม 14 ตอน ดำเนินรายการโดย วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล โดยจะนำ 12 ความฝันของกลุ่มคนที่หลากหลาย มาสร้างปรากฏการณ์ปลุกฝันและสนับสนุนให้ทุกความฝันประสบความสำเร็จ โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินคือ ทวี ธีระสุนทรวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และทีมงาน K-Expert เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษาด้านการเงิน พร้อมด้วยศิลปินดาราและบุคคลที่มีประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สำหรับในวันที่ 10 มี.ค.นี้ บัวขาว บัญชาเมฆ ฮีโร่นักชกบนสังเวียนไทยไฟต์ จะเป็นคนต้นฝันคนแรก
นายปกรณ์ กล่าวว่า ธนาคารฯ หวังว่าจะให้เป็นจุดเริ่มต้นให้คนไทยหันมาสนใจในเรื่องการออมมากขึ้นเพื่อช่วยลดปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ภาครัฐกำลังเป็นห่วงเนื่องจากปัจจุบันหนี้ครัวเรือนมีมากถึง 2.9 ล้านล้านบาท และมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือน จนอาจจะกลายเป็นหนี้สินที่มีปัญหาของระบบสถาบันการเงินและประเทศชาติในระยะยาว ซึ่งหากประชาชนหันมาออมเงินเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ ก็จะช่วยลดปัญหาการสร้างหนี้สินซ้ำซ้อนและพอกพูนได้