กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--เดอะมอลล์ กรุ๊ป
เดอะมอลล์ ทุ่มงบประมาณ 800 ล้านบาท เผยนิวลุคส์ (New Look) สาขาบางกะปิ ยกระดับห้างสรรพสินค้า เพิ่มจำนวนกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ถึง A เน้นสร้างบรรยากาศแฟชั่นกระตุ้นอารมณ์นักช้อป สร้างคอนเซ็ปต์สินค้าตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ถึงลูกค้าช่วงเทศกาลปีใหม่
คุณอัจฉรา อัมพุช ผู้ช่วยรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ ว่า "การปรับภาพลักษณ์ใหม่ของสาขาบางกะปิ ในครั้งนี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของสาขาบางกะปิในรอบ 10 ปี หลังเปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2537 ทั้งนี้เนื่องจากการแข่งขันการตลาดค้าปลีกในปัจจุบันมีความเข้มข้นมากขึ้น ส่งผลให้เดอะมอลล์ต้องปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้พฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น ลูกค้าในกลุ่มวัยรุ่นกลายเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง สินค้าและบริการต้องปรับเปลี่ยนให้มีลักษณะเฉพาะเป็นเทรนด์ดี้ (Trendy) มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา เดอะมอลล์ได้สร้าง Be Trend ขึ้น เพื่อพัฒนาให้กลุ่มสินค้าเทรนด์ดี้ กิ๊ฟ มีความเป็นแฟชั่นที่สอดคล้องกับพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่น ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับสินค้าใน Category อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Sports Mall, Beauty Hall, Home Fresh Mart ฯลฯ
หลังจากการปรับเปลี่ยนในส่วนของกลุ่มสินค้าแต่ละกลุ่มให้มีศักยภาพเพียงพอแล้ว ภาพรวมของห้างสรรพสินค้าเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาขึ้นตามลำดับ เนื่องจากบรรยากาศมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นกำลังซื้อเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่สำคัญ มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง จึงเป็นสาขาแรกที่ต้องสร้างให้เป็นต้นแบบของภาพลักษณ์ใหม่ ซึ่งการปรับครั้งใหญ่นี้ใช้คอนเซ็ปต์ Totally New Sense โฉมใหม่ จรดปลายเท้า ที่มีความครบถ้วนด้านสินค้าและบริการ รวมถึงมีบรรยากาศความสวยงามสร้างความสุขให้กับลูกค้า ในการช้อปปิ้งมากที่สุด
บรรยากาศการตกแต่งภายในห้างฯ จะเน้นดีไซน์การตกแต่ง ทันสมัย หรูหรา ในสไตล์ Modern Look โดยนำการตกแต่งห้างสรรพสินค้าในประเทศฝรั่งเศส มาปรับใช้ในการตกแต่งแผนกต่างๆ ของเดอะมอลล์ เน้นโทนสีที่สว่างสดใส และใช้วัสดุตกแต่งที่หรูหราและมีราคา โดยในการปรับภาพลักษณ์ในครั้งนี้จะเป็นการปรับพื้นที่ครั้งใหญ่ของทุกๆ Category ได้แก่
- NEW FACE ON "G" อาณาจักรแห่งความงามที่ชั้น G กับ Beauty Hall, แผนกสินค้าสตรีและแผนกสินค้าพิเศษ ที่เน้นความสวยงามและความหลากหลายของแบรนด์สินค้าที่เพิ่มมากขึ้น
- NEW LOOK ON "1st" สัมผัสสีสันแห่งโลกแฟชั่น บนชั้น 1 กับ แผนกแต่งกายชาย, บูติกสตรี, ชุดชั้นใน, เครื่องหนังสตรีและความแปลกใหม่ล่าสุดกับมุม Cosmetic เพื่อคุณสุภาพบุรุษ
- NEW MODE ON "2nd" ถูกคอทุกวัย ได้ใจทุกแนว บนชั้น 2 กับแผนกเด็ก, Be trend, Read & Write และ Sports Mall
- NEW SENSE ON "3rd" พบไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใคร บนพื้นที่ชั้น 3 กับแผนกประดับบ้าน และเครื่องครัว พร้อมสัมผัสวิถีแห่งความไฮเทค กับ Power Mall
การตกแต่งและการจัดวางสินค้าของ Category ที่ปรับเปลี่ยนไปจะมีลักษณะความเป้น Boutique Shop มากขึ้น ทำให้สินค้าดูโดดเด่น มีการจัดแบ่งสินค้าเป็นโซนและหมวดหมู่ชัดเจน และจัดวางสินค้าด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัย ซึ่งเหล่านี้นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าค่อนข้างมาก นอกเหนือจากปัจจัยด้านอื่นๆ
สำหรับสินค้าและบริการ ที่เปลี่ยนแปลงครั้งนี้ในแต่ละ Category มีการปรับในเรื่องของแบรนด์สินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน มีการเพิ่มสินค้าที่เป็น Inter Brand และ สินค้า Exclusive มากขึ้นในแต่ละแผนก เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในกลุ่ม B+ และ กลุ่ม A โดยการปรับภาพลักษณ์ เดอะมอลล์ บางกะปิ ในครั้งนี้เดอะมอลล์ใช้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาท เพื่อสร้างความแตกต่างและความชัดเจนในภาพลักษณ์ของเดอะมอลล์
ในส่วนของรายละเอียดการปรับปรุง Category ต่างๆ นั้น คุณมาลินี ทรัพย์บริบูรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่สายบริหารสินค้าสตรี บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการปรับปรุงครั้งนี้ว่า ในส่วนของแผนกบริหารสินค้าสตรี มีการเปลี่ยนแปลงใน 5 แผนก ได้แก่ แผนก Beauty Hall, บูติคสตรี, เครื่องหนังสตรี, เครื่องประดับสตรี และกลุ่มสินค้า Living ประกอบด้วยสินค้าตกแต่งบ้าน, เครื่องแก้ว-เครื่องครัว, สินค้า Hobby และ Handicraft
แผนก Beauty Hall หนึ่งในแผนกที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ อยู่ในส่วนพื้นที่ชั้น "G" มีพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 60% ประมาณ 2,500 ตารางเมตร และมีแบรนด์ใหม่อีกกว่า 30 แบรนด์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ได้แก่
- กลุ่มสกินแคร์ ได้แก่ SK II, CPB, Guerlain, IPSA, Natura Bisse' ฯลฯ
- กลุ่มเมคอัพ ได้แก่ Bobbi Brown, Shu Uemura, Stila, Make Up Forever,
Ettusais, Bloom
- กลุ่มสปาร์ ได้แก่ L'Occitaine, Linden Leaves, Talika,
Korres (แห่งแรกในเมืองไทย) และ เอิบ
ทั้งนี้ Beauty Hall ในภาพลักษณ์จะมีการจัด Zoning ของสินค้าและมี Identity ที่เด่นชัด บรรยากาศโปร่งสบาย ตลอดจนการจัดให้บริการ "บิวตี้รูม" (Beauty Room) 30 ห้องสำหรับการบริการนวดหน้าและตัว แก่ลูกค้าในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว
และที่นับว่าพิเศษมากสำหรับแผนก Beauty Hall คือการใช้พื้นที่ 100 ตารางเมตร สำหรับทำเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในกลุ่มผู้ชายโดยเฉพาะ เนื่องจากแนวโน้มของตลาดมีโอกาสขยายตัวสูง จึงแยกเป็นแผนก Men Cosmetic เน้นสินค้าในกลุ่มสกินแคร์และน้ำหอม จากแบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Clinique, Lancome, Biotherm, Clarins, Shiseido, Aramis ฯลฯ จัดในรูปแบบเคาน์เตอร์สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ Clinique ถือเป็น Global Counter แรกของโลก ทั้งนี้ หลังการปรับพื้นที่แผนก Beauty Hall ในสาขาบางกะปิจะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 60% โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในปี 2548 เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบในการให้บริการ
แผนกบูติคสตรี มีพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 15% อยู่บริเวณชั้น G และชั้น 1 โดยบริเวณชั้น G จะต่อเนื่องจากสินค้าในแผนก Beauty Hall โดยเพิ่มสินค้าในกลุ่ม International Brand ได้แก่ Guess, Roxy, Paul Frank, Sinequanone, Color18, Jessica, Play Boy รวมถึงการเพิ่มสินค้าในกลุ่ม Designer Brands และ Urban Smart ได้แก่ Karita O'Sel, Simple Me, Brown, Boulevard, Classic Model สำหรับบริเวณชั้น 1 เน้นสินค้าในกลุ่ม Femenine Elegance, Career และกลุ่ม Street Chic
แผนกเครื่องหนังสตรี มีพื้นที่ 1,100 ตารางเมตร บริเวณชั้น 1 มีการใช้เฟอร์นิเจอร์ในการจัดวางสินค้าที่มีความทันสมัยมากขึ้น เพิ่มสินค้าในกลุ่มแฟชั่นเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ตลอดจนสินค้าที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ต่างๆ วางเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 20% โดยสินค้าในแผนกแบ่งเป็น
- กลุ่มรองเท้า มีรองเท้าทำงาน, รองเท้าเพื่อสุขภาพ และรองเท้าแฟชั่นในแบรนด์ที่มีจำหน่าย เฉพาะเดอะมอลล์เท่านั้น ได้แก่ Doll House, Heat Wave, DP.com, Bonita และ Mary Montana
- กลุ่มกระเป๋า มีการเพิ่มแบรนด์ในกลุ่มสินค้า Casual Fashion ได้แก่ Le Sport Sac, Esprit, Samsanite, Benetton, Morgan ฯลฯ
แผนกของแต่งบ้าน (Living) มีการเปลี่ยนแปลงจากบริเวณชั้น 2 ขึ้นไปบริเวณชั้น 3 โดยขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 15% และมีการเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ๆ ที่ยังไม่มีการวางจำหน่ายในรูปแบบทันสมัย (Modern), รูปแบบตะวันออก (Oriental Look) และแบบไทยร่วมสมัย (Contemporary) โดยคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 20%
ในส่วนแผนกของแต่งกายชาย, สินค้าพิเศษและสปอร์ตมอลล์ คุณสฤษดิพงษ์ รัตนาพต ผู้อำนวยการใหญ่สายบริหาร ที่ดูแลสินค้าในกลุ่มดังกล่าวเปิดเผยว่า ในส่วนของแผนกแต่งกายชาย จะอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ต่อเนื่องกับแผนกบูติกสตรี เครื่องหนังสตรี และชุดชั้นใน เนื่องจากต้องการนำเสนอให้เป็น "Fashion Street" ที่รวบรวมแฟชั่นทั้งชายและหญิงไว้บนพื้นที่เดียวกัน สำหรับกาปรับปรุงครั้งนี้แผนกแต่งกายชายได้เพิ่มแบรนด์สินค้าที่เป็น International Brand เข้ามา อาทิ Guess, Ecco, Play Boy, Esprit, G2000, Giordano ฯลฯ
แผนกเด็กและของเล่น เพิ่มแบรนด์เสื้อผ้าเด็กชั้นนำต่างๆ อาทิ Esprit, Roxy Girls, Nike kids, Barbie, All 2 Baby ฯลฯ เน้นเรื่องความปลอดภัยและแฟชั่น เพิ่มเติมสินค้า Education Toys เพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้ รวมถึงการ์ตูน Character ต่างๆ ที่เป็นที่นิยมของเด็กๆ และนักสะสมในเมืองไทย อาทิ สไปรท์เดอร์แมน, เอ็กซ์แมน, อุลตร้าแมน, มาร์ค ไรเดอร์, เซนต์เซย่า ฯลฯ ซึ่งกลุ่มสินค้าดังกล่าวคาดว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายสินค้า
แผนก Sports Mall มีภาพลักษณ์ใหม่ที่ชัดเจนขึ้น ย้ายพื้นที่จากชั้น 3 มาอยู่บริเวณชั้น 2 ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใส กว้างขวาง มีการจัดหมวดหมู่สินค้าในลักษณะของ Boutique Shop สินค้าแต่ละแบรนด์มีการตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์และความสมบูรณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะ Shop ของ ADIDAS ที่ยกรูปแบบของการตกแต่งมาจากต่างประเทศ เป็น Shop ADIDAS ที่สวยงามและใหญ่ที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มพื้นที่ในส่วน New Arrival Stage เป็นเวทีในการจัดแสดงนวัตกรรมกีฬาใหม่ๆ ล่าสุดจากแบรนด์สินค้ากีฬาชั้นนำมาให้ลูกค้าให้สัมผัสก่อนใครในเมืองไทย
นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่สายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเฉลิมฉลองการเปิดตัวภาพลักษณ์เดอะมอลล์ บางกะปิ จะจัดขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2547 ณ โปรโมชั่นแสควส์ 1 ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางกะปิ โดยทางเดอะมอลล์ทุ่มงบประมาณโฆษณาประชาสัมพันธ์กว่า 10 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรม New Look New Face เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ใหม่แก่กลุ่มลูกค้า จัดขึ้นภายใต้รูปแบบแฟชั่นโชว์จาก Super Model ของประเทศไทยกว่า 30 คน อาทิ ยศวดี หัสดีวิจิตร, รุจิรา ช่วยเกื้อ, รินลณี ศรีเพ็ญ, ลักษมี ทองสิริไพรศรี, แสงทอง เกตุอู่ทอง ฯลฯ และไฮไลท์สำคัญของงาน New Fashion News ครั้งแรกกับการแปลงโฉมผู้ประกาศข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ได้แก่ อรปรียา หุ่นศาตร์, เอกราช เก่งทุกทาง, กิตติ สิงหาปัด, กนก รัตน์วงศ์สกุล, ชมะนันท์ วรรณวิญเวศน์, สัตตกมล วรกุล, ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร, รุ่งนภา กมลนรนาถ และ วราภรณ์ สมพงษ์ ที่สลัดมาดจากผู้ประกาศเป็นหนุ่ม-สาวในมาดใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกิจกรรมบันเทิงอีกมากมายเป็นการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่
คุณอัจฉรา อัมพุช กล่าวปิดท้ายว่า หลังจากการปรับภาพลักษณ์ของเดอะมอลล์ บางกะปิ ในครั้งนี้ เดอะมอลล์ บางกะปิจะพัฒนาสู่ความเป็นห่างสรรพสินค้าแฟชั่นในรูปลักษณ์ใหม่ ที่มีความโดดเด่นนำสมัย ครองใจกลุ่มเป้าหมายที่เดอะมอลล์ต้องการสร้างฐานเพิ่มขึ้น ในย่านลาดพร้าวและบางกะปิตลอดจนย่านใกล้เคียง ซึ่งพื้นที่ ที่มีการปรับปรุงใหม่รวมกว่า 40,000 ตารางเมตร ด้วยทีมดีไซน์เนอร์จากฝรั่งเศส และการคัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพและความหลากหลายของแบรนด์สินค้า จะส่งผลให้จำนวนลูกค้าของสาขาบางกะปิเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 และจะช่วยให้ยอดขายของสาขาบางกะปิขยับตัวสูงขึ้นประมาณ 10-15%
สำหรับการปรับปรุงดังกล่าวใช้เวลากว่า 1 ปี ภายใต้งบประมาณรวมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งหลังการปรับภาพลักษณ์ของสาขาบางกะปิ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและลูกค้าใหม่ โดยสาขาบางกะปิจะเป็นต้นแบบในการปรับภาพลักษณ์ของเดอะมอลล์สาขาอื่นๆ ต่อไป และโครงการต่อไปหลังจากปรับปรุงสาขาบางกะปิ คือการปรับปรุงห้างสรรพสินค้าภายในศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์การตลาด
บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด
โทร. 0-2369-3307 / 0-2310-1409--จบ--