ปภ.จัดสัมมนาวิพากษ์แผน ปภ.ชาติ พ.ศ.2553-2557 เตรียมจัดทำร่างแผนฯ ฉบับปี 2558-2562 ให้ครอบคลุม บูรณาการและมีเอกภาพ

ข่าวทั่วไป Thursday March 7, 2013 10:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิพากษ์แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553 — 2557 เพื่อเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยยึดแนวพระราชดำริ หลัก 2P 2R การมีส่วนร่วม และยุทธวิธีสร้างสายสัมพันธ์เป็นแนวคิดหลักในการจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 — 2562 ให้ครอบคลุมทุกประเภทภัย ทุกมิติของการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งจะเชื่อมโยงการบูรณาการและนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพและเอกภาพ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ ซึ่งได้ยึดกรอบการดำเนินงานตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553 — 2557 ภายใต้หลัก 2P 2Rเป็นแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการสาธารณภัย ดังนั้น เพื่อให้แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 - 2562 มีความสมบูรณ์ สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัย และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะหน่วยงานกลางดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศจึงได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิพากษ์แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553-2557 เพื่อเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วน ได้ร่วมวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการนำแผนดังกล่าวมาใช้ในการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ ซึ่งจะนำไปเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 — 2562 ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนฯได้ยึด 4 ประเด็นหลักเป็นกรอบแนวคิด ได้แก่ 1) นำแนวพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มาใช้ในการบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืน 2) บริหารจัดการสาธารณภัยภายใต้ระบบ 2P 2R ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและมาตรฐานการบริหารจัดการสาธารณภัยในระดับสากล 3) ส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ และ 4) ใช้ยุทธวิธีสร้างสายสัมพันธ์ 3Cs ได้แก่ Cooperation (การให้ความร่วมมือและช่วยเหลือ) Coordination (การประสานงาน) และ Collaboration (การประสานความร่วมมือและร่วมใจ) ซึ่งหลักการดังกล่าวถือเป็นกลไกสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยมีแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติที่ได้มาตรฐานมีกรอบแนวทางและยุทธศาสตร์ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยของประเทศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารจัดการสาธารณภัยแก่ทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า การสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ มีการบรรยายเรื่อง “แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553 — 2557 บทว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย” เรื่อง “Single Command และระบบ ICS กับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ” การอภิปรายหัวข้อ “ผ่าวิกฤตสาธารณภัยสู่การใช้แผนปภ.ชาติ” รวมถึงการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกำหนดกรอบแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 — 2562 ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะได้นำแนวคิด ข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นที่ได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ไปเป็นแนวทางในการจัดทำร่างแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 — 2562 ให้ครอบคลุมทุกประเภทภัยทุกมิติของการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งจะเชื่อมโยงการบูรณาการและนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพและเอกภาพ 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ