กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--MTS GOLD GROUP
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,579 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,575(22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.75 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 22,200 บาท กับ 22,300 บาท และกลับมาปิดที่ 22,150 บาท กับ 22,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 3,414 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,348 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.5% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.1% GFJ13 ปิด 22,390 บาท และ GFM13 ปิด 22,510 บาท GF10J13 ปิดที่ 22,390 บาท GF10M13 ปิดที่ 22,500บาท
สัญญา Comex ทรงตัว ปิดที่ระดับ 1,574.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 19.9 เซนต์ ที่ระดับ 28.80 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,244.86 ตัน (ถือครองทองคำเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 39 เซนต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 90.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์บวก 42.47 จุด ปิดที่ 14,296.24 จุด
ข่าวที่สำคัญ
เมื่อวานนี้ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ ภายหลังในช่วงตลาด COMEX หลังจากตัวเลข ADP Non-farm Employment Change ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,567 เหรียญ
MKS ระบุว่า แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังจากมีข่าวรัฐบาลประเทศซิมบับเวต้องการเพิ่มค่าลิขสิทธิ์ของอุตสาหกรรมเหมือง 50% ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
ในการรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ของเฟดเมื่อคืนนี้เป็นส่วนสนับสนุนให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากไม่มีคำแถลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการที่เฟดจะยกเลิกกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในรายงาน Beige Book ระบุว่า เขตปกครองต่างๆ เศรษฐกิจเติบโตในระดับปานกลาง และไม่ได้อยู่ในระดับที่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในปัจจุบัน
นายพลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย ออกมากล่าวว่า ดูเหมือนว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 7% ในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้เฟดจำเป็นที่จะต้องหยุดการผ่อนคลายการเงินแบบต่อเนื่อง และมีความอดทนบ้าง เนื่องจากมีความเสี่ยงจากแผนการเข้าซื้อพันธบัตร
นักลงทุนยังจับตาดูการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเวเนซูเอล่า ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ หลังจากการอสัญกรรมของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ
ในวันนี้จะมีการประชุมอีซีบี ซึ่งคาดว่าไม่มีการประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ แต่เทรดเดอร์ต่างๆ จะจับตาดูการแถลงข่าวของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีอย่างใกล้ชิด
ราคาทองคำจะพบกับอุปสรรคในการที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอีกหลายสัปดาห์ที่จะมาถึงหากตลาดหุ้นต่างๆ ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจกนักลงทุนเข้าลงทุนในตลาดที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
การประมูล พันธบัตรเยอรมนีอายุ 5 ปีเมื่อวานนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมนีปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในปีนี้ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนในยุโรปยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อวิกฤตหนี้ยุโรปจาก เหตุการณ์ล่าสุดในการเลือกตั้งอิตาลีที่ไม่มีผู้ชนะที่แน่นอน และตัวเลขยอดส่งออกของอียูลดลง 0.9% ในไตรมาส 4 ลดลงมากที่สุดในรอบ 4 ปี
ข่าวที่ว่า รัฐบาลจีนมีแผนที่จะย้ายพลเมือง 400 ล้านคนเข้ามาในเมืองต่างๆ ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะอธิบายถึงความจำเป็นด้านการจัดหาที่อยู่อาศัยในเมืองจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็จะเป็นการยืนยันว่า จีนจำเป็นต้องรวบรวมและปรับสภาพการเพาะปลูกให้เหมาะสม
แถลงการณ์จากจีนระบุว่า SGE จะทำการขยายชั่วโมงการซื้อขายทองคำและซิลเวอร์เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างตลาดนักลงทุนภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเปิดซื้อขายตั้งแต่ 9 - 11.30 น. และจาก 13.30 - 15.00 น. เวลาท้องถิ่น
ร้านสรรพสินค้าขายเหรียญทองคำโกลด์ คอยน์ จากอเมริการะบุว่า เหรียญทองกษาปณ์ที่ส่งจากสหรัฐไปยังตุรกีมียอดขายสูงสุดในปีนี้ ซึ่งเป็นการบอกเป็นนัยว่า ยังมีโอกาสในแนวโน้มขาขึ้นของทองคำอยู่
ข่าวการซื้อทองคำของเกาหลีใต้ และความหวังที่กองทุน ETFs จะหยุดขายทองคำจะเป็นแรงสนับสนุนตลาดทองคำ โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 2 วันหลังจากที่ปรับตกติดกัน 4 วัน
เมื่อวานนี้ SPDR ไม่ได้ทำอะไร หลังจากที่ขายออกมาติดต่อกัน 11 วัน ปัจจุบันคงทองที่ระดับ 1,244.86 ตัน
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนจากข่าวที่ทำเนียบขาวทำการอนุมัติร่างกฎหมายอุดช่องว่างทางงบประมาณ เพื่อจัดเงินให้รัฐบาลในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณปีนี้ (ไปจนถึง 30 ก.ย.) โดยยังคงมีการตัดลดค่าใช้จ่ายมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโรที่เรียกว่า Sequester ต่อไป ซึ่งหากสมาชิกวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายนี้เช่นกัน งบประมาณระยะสั้นของทำเนียบขาวอาจทำให้รัฐบาลเป็นอิสระ ไม่ต้องยุติการปฏิบัติงานชั่วคราว
ทำเนียบขาว ระบุว่า นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ พยายามเรียกร้องให้สมาชิกสภาของพรรครีพับลิกัน เข้าร่วมหารือกันในวันนี้ และสัปดาห์หน้า โดยในวันนี้โอบามาจะทำการรับประทานอาหารค่ำร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้ได้แก่ Trade Balance และ Unemployment Claims ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะออกมาแย่ลงทั้งสองตัว
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 215K ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 198K
- Factory Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.3% ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -2.0%
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.1M ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ3.8M
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -38.5B คาดการณ์ว่าจะปรับตัวสู่ระดับ -42.8B
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 344K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 354K
- ECB Press Conference (เวลา 20.30น.ตามเวลาประเทศไทย)
- Bank Stress Test Results
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold —ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways โดยจะมีแนวรับที่ระดับ 1,570 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1,585 เหรียญ โดยราคาทองคำหลังจากที่ได้รับข่าวการประกาศตัวเลข ADP Non-Farm Employment Change ออกมาดีขึ้น ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงไปแตะระดับต่ำสุดที่บริเวณประมาณ 1,567 เหรียญ และดีดกลับมาภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง จะเห็นได้จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า มีแรงการซื้อทองคำทั้งทองแท่งและทองรูปพรรณมาก ส่วนกองทุน SPDR ยังเมื่อวานจะยังไม่ได้ทำอะไร หลังจากขายมาอย่างต่อเนื่องกว่า 11 วันทำการ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways เพื่อรอดูตัเวลข Unemployment Claims ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยราคาทองคำจะมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,570 เหรียญ และแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,550 เหรียญ ส่วนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,585 เหรียญ และ 1,600 เหรียญ ยังแนะนำให้นักลงทุนพยายามเก็งกำไรในกรอบ โดยให้เข้าออกเร็ว เน้นให้เปิด Short Positionบริเวณเเนวต้านและกลับมาช้อนซื้อกลับทำกำไรภายในวัน
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เป็นการลงทุนอยู่ในกรอบสั้นๆ และปิด Position ให้เร็ว เพื่อรอดูความชัดเจนของตัวเลข Unemployment Claims ในคืนนี้ ซึ่งคาดว่า ถ้าตัวเลขออกมาไม่เปลี่ยนแปลงมากจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงมากอาจจะทำให้ทองคำเบรกแนวรับหรือแนวต้านได้ดังที่กล่าว ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อขายในกรอบช่วงเช้าบริเวณ 1,570 — 1,585 เหรียญ
- นักลงทุนถือ Long Position
ทยอยลด Position บริเวณแนวต้าน 1,585 ออกไป และแนะนำให้เปิด Short Position และซื้อปิดทำกำไรระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เมื่อราคาลงมาบริเวณ 1,570 เหรียญให้ปิดทำกำไร และสลับเปลี่ยนเป็น Long Position เพื่อเก็งกำไรในกรอบแคบๆ และเข้าออกให้เร็ว
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,450 บาท
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,360 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,560 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
Contact: +662-222-6222 ext. 103
MTS GOLD GROUP
40, 42, 44 Sapsin Road, Wangburapapirom, Pranakorn, Bangkok 10200