กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
อีกครั้งกับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ครั้งสำคัญ ที่ อาวียองซ์ (aviance) แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยม จากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ยูนิลีเวอร์ นำโดย สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร — อาวียองซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด จัดงาน “GRE@T DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” งานที่มอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่และเป็นโอกาสสำคัญ ที่คุณจะได้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ ที่ครั้งนี้เปลี่ยนบรรยากาศสถานที่จัดงานเพื่อรองรับผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่าเดิม ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ พร้อมทั้งยังได้พบกับ 8 บุคคลต้นแบบที่ประสพความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ นำทีมโดย ธีรยุทธ เพียงพอพิศาล Group Executive Business Associate วิศวกรผู้มีความฝันอยากมีโรงงานขนาดใหญ่เป็นของตัวเอง แต่กลับพบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ พร้อมเปิดใจศึกษาและลงมือทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ และ ชินวัตร กิจส่งแสง Area Executive Business Associate ลูกเถ้าแก่เจ้าของกิจการร้านอาหารและจำหน่ายสุราต่างประเทศ ที่ฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง จนเมื่อพบกับธุรกิจที่ใช่ และสร้างรายได้ที่คุ้มค่า มั่นคง มาร่วมบอกเล่าประสบการณ์การตัดสินใจครั้งสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับยูนิลีเวอร์อย่างเปิดใจ
ภายในงาน “GRE@T DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” อาวียองซ์ยังได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ อาวียองซ์ เดอร์มาซุติคอล อีเอ็กซ์ เอสเซนเชียล ไนท์ แอดวานซ์ ออยล์ เซรั่ม (aviance Dermaceutical EX Essential Night Advanced Oil Serum) ผลิตภัณฑ์ที่จะชุบชีวิตผิวแห้งโรย สู่ผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์ ด้วยรหัสลับ 5.1 พลิกฟื้นผิวแห้งกร้านให้กลับแลดู นุ่มชุ่มชื่นขึ้นทันที พร้อมสีผิวแลดูกระจ่างใส จุดด่างดำแลดูจางลง รู้สึกได้ถึงผิวแลดูกระชับ เรียบเนียน ริ้วรอยต่างๆ แลดูจางลง ด้วยเนื้อออยล์บริสุทธิ์จากธรรมชาติ 100% 5 ชนิด เพียงหยดเดียว สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ก่อนที่ประตูของงานจะเปิดต้อนรับให้ผู้ที่มาร่วมงานหลายร้อยชีวิตได้ซึมซาบไปกับความสำเร็จ ของเหล่าบุคคลต้นแบบทั้ง 8 ท่าน ที่ประสพความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ เหมือนเช่น ธีรยุทธ เพียงพอพิศาล Group Executive Business Associate และยังเป็นผู้บริหารสโมสร 5 ล้านบาท เผยว่า “ผมเกิดมาในครอบครัวค้าขายครับ โดยที่บ้านเป็นร้านขายของชำ ภาพที่เห็นอยู่เสมอคือรถขนส่งขนาดใหญ่จะมาจอดลงสินค้าที่บ้าน บางครั้งเงินจากการค้าขายตลอดทั้งวัน พ่อแม่ผมจะต้องนำมาจ่ายให้กับรถส่งสินค้าเหล่านี้ทั้งหมด ทำให้ผมมีความคิดว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของโรงงานผลิตสินค้าแล้วขายเป็นล็อตใหญ่ๆ ก็คงจะดี ทำให้ฝันของผมตั้งแต่วัยเด็กคือการเป็นเจ้าของโรงงานให้ได้ กระทั่งผมสอบเอนทรานซ์ติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคาดว่าจะสานฝันการอยากเป็นเจ้าของโรงงานได้อย่างแน่นอน จนเมื่อเรียนจบและยุคนั้นญี่ปุ่นเข้ามาเปิดบริษัทเปิดโรงงานมากมายในประเทศเรา ทำให้ผมได้เข้าไปทำงานและได้ทำทุกอย่างในหลายแผนก ตั้งแต่สโตร์ จัดซื้อ ผลิต ซ่อมบำรุง จนผมสามารถทำยอดขายให้กับบริษัทได้ 3-4 ปีต่อเนื่อง จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต ทำได้ 10 ปี จนภรรยาผมได้มาเตือนสติถึงความฝันที่อยากมีโรงงานเป็นของตัวเองก่อนอายุ 40 ปี ซึ่งในความคิดของผมอยากมีโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ แต่ด้วยเงินทุนที่ต้องไปกู้ยืมธนาคารจำนวนหลายล้าน รวมถึงตลาดที่ต้องการจะขายก็ไม่มี ภรรยาผมจึงไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายผมก็ซื้อแฟรนไชน์อุตสาหกรรมเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ จากเงินเก็บที่เรามี พร้อมกับลาออกจากงานประจำมาเป็นเถ้าแก่เต็มตัว ซึ่งในเวลานั้นก็ได้มีคนมาชักชวนให้ได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์อาวียองซ์ ผมยอมรับครับว่าผมปฏิเสธธุรกิจนี้มาเป็นปี
จนวันหนี่งพี่สาวภรรยามาทักว่าภรรยาผมดูแก่ ด้วยความรักภรรยาครับ ผมขับรถพาภรรยามาตรวจสภาพผิวหน้าที่อาวียองซ์ช็อป พร้อมกับซื้อผลิตภัณฑ์อาวียองซ์มาใช้ ก่อนกลับเจ้าหน้าที่บอกว่าอย่าลืมไปศึกษาแผนธุรกิจนะค่ะ เมื่อผมอ่านผมถึงได้รู้ว่าอาวียองซ์เป็นแบรนด์หนึ่งภายใต้การดูแลของบริษัทยูนิลีเวอร์ บริษัทที่เคยมาจอดรถส่งของให้บ้านเราที่เป็นร้านขายของชำ ทำให้ผมเริ่มสนใจในธุรกิจเครือข่ยอาวียองซ์ขึ้นมา จนเมื่อแม่ผมมาเยี่ยมครับพร้อมกับทักว่าผมหน้าตาดูหมองคล้ำ ไม่มีสง่าราศีของความเป็นเถ้าแก่เจ้าของกิจการ ทำให้ผมใช้ผลิตภัณฑ์อาวียองซ์ตามภรรยาทันที ทั้งที่ในตอนนั้นภรรยาผมใช้อาวียองซ์มา 3 ปีแล้วครับ และเริ่มเปิดใจศึกษากับธุรกิจนี้ ผมลงทุนอีกครั้งแต่เป็นการลงทุนที่ใช้เงินทุนน้อยมากถ้าเทียบกับธุรกิจอื่นๆ เพียง 600 บาท แต่มีข้อปฏิบัติหากอยากพบกับความสำเร็จต้องเข้ามาศึกษาอบรมธุรกิจอย่างจริงจัง ผมก็ทำเช่นนั้นทั้งที่บ้านผมอยู่กาญจนบุรี 300 กม. ที่ผมขับรถเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาอบรม ทำให้ผมได้พบว่าธุรกิจนี้นอกจากเงินลงทุนน้อยแล้ว ยังเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องสต็อกของเก็บไว้ และยังมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องทุกวันที่ 15 ของเดือน หลังจากที่ผมตัดสินใจทำธุรกิจเครือข่าย อาวียองซ์ ปัจจุบันผมมีรายได้ 6 หลัก และผมยังได้พัฒนาบุคลิกภาพที่ดูดีขึ้น พร้อมทั้งยังได้รับความสุขจากทริปท่องเที่ยวต่างประเทศแบบที่ไม่ต้องควักเงินของตัวเองมาจ่าย ซึ่งผมเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผมจะต้องมีรายได้ 7 หลักอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่ผมและครอบครัวที่มีความสุข แต่ผมยังได้ส่งต่อความสุขผ่านโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นหุ้นส่วนกับยูนิลีเวอร์ให้กับคนอื่นๆ และอาวียองซ์ยังทำให้คนไทยอย่างเราๆ ได้เป็นต้นสายของคนทั่วโลก ด้วยการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ เช่น มาเลเซีย และกัมพูชา ดังนั้นเมื่อผมยังทำได้ คุณก็ต้องทำได้เช่นกัน”
อีก 1 หนึ่งของความสำเร็จในการตัดสินใจเป็นหุ้นส่วนกับยูนิลีเวอร์ ชินวัตร กิจส่งแสง Area Executive Business Associate และยังเป็นผู้บริหารสโมสร 30 ล้านบาท เผยว่า “ผมมองว่าโอกาสเป็นเหมือนไอศกรีม ถ้าไม่กินมันก็ละลาย เพราะคุณเจอร์รี่ หลุยได้มอบไอศกรีมนี้ให้แก่ผม ผมเข้าสู่ธุรกิจนี้เหมือนเช่นทุกคนครับ ด้วยการสมัครเข้ามาเพียง 600 บาท แล้วก็ซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้ แต่ความพิเศษอยู่ที่ได้เงินคืนนี่ล่ะครับ ที่ทำให้ผมเริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ แม้ว่าบ้านผมจะทำธุรกิจร้านอาหาร และจำหน่ายสุราต่างประเทศ พ่อผมมักจะสอนเสมอมาตามประสาคนจีนว่า กตัญญู ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน แต่แล้วทำไมก็ยังไม่ร่ำรวยสักที ซึ่งผมได้มาค้นพบ 2 คำหลังนี้ที่อาวียองซ์ครับ ทั้งที่ในตอนแรกพ่อแม่ผมคัดค้านไม่เห็นด้วยที่ผมจะทำธุรกิจเครือข่าย แต่เมื่อได้ศึกษาได้ลองทำไปเรื่อยๆ อย่างอดทน ผมจึงได้ค้นพบอีกอย่างว่าอาวียองซ์สอนให้เรานั้นขยันอย่างมีระบบ ประกอบกับเราขยันได้ถูกที่และถูกเวลา ผม Show the Plan Share the Product แนะนำ ชวนคน ผมทุ่มเทแรงกายด้วยความขยัน ทำให้ผมได้พบกับความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งคำสอนๆ หนึ่งของพ่อแม่ผมที่ผมได้รับรู้แล้วในเวลานี้ ท่านบอกว่า ความสามารถ ประสบการณ์ ถ้าไม่รีบหา ไม่พัฒนา เวลาจะหายไปเรื่อยๆ อย่าสนเรื่องเงินมากไป เพราะถ้าเก่งเมื่อไร เงินทองจะไหลมาเอง คำสอนนี้ที่ทำให้ผมพบว่า ถ้าวันนั้นผมเห็นเรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่ ที่ในเดือนแรกของการทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ผมได้รับเงินรายได้เพียง 306 บาท คนอื่นอาจมองว่าน้อย แต่สำหรับผมมันคือกำลังใจ ผมจึงทุ่มเท ศึกษาธุรกิจ เข้าอบรมทุกครั้งที่มีโอกาส และตั้งใจทุ่มเททำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง เวลาผ่านไป 10 ปีครับ จนล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้วผมรับรายได้ที่ 5 แสนกว่าบาทครับ และจากความขยันต่างๆ นี่เอง ทำให้ผมได้มีโอกาสเข้าสู่ทำเนียบผู้บริหารสโมสร 30 ล้านบาท และอีกไม่นานนี้ผมกำลังจะก้าวเข้าสู่ผู้บริหารสโมสร 50 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับคุณครับว่าจะปล่อยให้โอกาสนี้มันผ่านไปเหมือนไอศครีมที่ละลาย หรือเลือกที่จะมีความสุขกับมันเหมือนที่ผมเลือกที่จะมีความสุขกับไอศกรีมแบรนด์อาวียองซ์ผมถึงทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกัน”
เต็มอิ่มกับประสบการณ์ความสำเร็จจากผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ ในงาน “GRE@T DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” ที่มาร่วมแชร์แบ่งปันเส้นทางสู่ความสำเร็จ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้พบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต เพราะอาวียองซ์เชื่อว่า “เราทำได้ คุณทำได้”
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร.0-2619-0429 ถึง 30 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์