กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิพากษ์แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553 — 2557 เพื่อเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยยึดแนวพระราชดำริ หลัก 2P 2R การมีส่วนร่วม และยุทธวิธีสร้างสายสัมพันธ์เป็นแนวคิดหลักในการจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 — 2562 ให้ครอบคลุมทุกประเภทภัย ทุกมิติของการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งจะเชื่อมโยงการบูรณาการและนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพและเอกภาพ
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ ซึ่งได้ยึดกรอบการดำเนินงานตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553 — 2557 ภายใต้หลัก 2P 2R
เป็นแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการสาธารณภัย ดังนั้น เพื่อให้แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 - 2562 มีความสมบูรณ์ สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัย และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะหน่วยงานกลางดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ
จึงได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิพากษ์แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553-2557 เพื่อเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วน ได้ร่วมวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการนำแผนดังกล่าวมาใช้ในการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ ซึ่งจะนำไปเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 — 2562 ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนฯ ได้ยึด 4 ประเด็นหลักเป็นกรอบแนวคิด ได้แก่
1) นำแนวพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มาใช้ในการบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืน
2) บริหารจัดการสาธารณภัยภายใต้ระบบ 2P 2R ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและมาตรฐานการบริหารจัดการสาธารณภัยในระดับสากล
3) ส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ และ
4) ใช้ยุทธวิธีสร้างสายสัมพันธ์ 3Cs ได้แก่ Cooperation (การให้ความร่วมมือและช่วยเหลือ) Coordination (การประสานงาน) และ Collaboration (การประสานความร่วมมือและร่วมใจ) ซึ่งหลักการดังกล่าวถือเป็นกลไกสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยมีแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติที่ได้มาตรฐาน มีกรอบแนวทางและยุทธศาสตร์ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยของประเทศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารจัดการสาธารณภัยแก่ทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า การสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ มีการบรรยายเรื่อง “แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2553 — 2557 บทว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย” เรื่อง “Single Command และระบบ ICS กับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ” การอภิปรายหัวข้อ “ผ่าวิกฤตสาธารณภัยสู่การใช้แผนปภ.ชาติ” รวมถึงการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกำหนดกรอบแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 — 2562 ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะได้นำแนวคิด ข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นที่ได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ไปเป็นแนวทางในการจัดทำร่างแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 — 2562 ให้ครอบคลุมทุกประเภทภัยทุกมิติของการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งจะเชื่อมโยงการบูรณาการและนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพและเอกภาพ