กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--สนพ.
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเอทานอลแห่งชาติ ว่า ที่ประชุมเตรียมยื่นเรื่องถึงกระทรวงพลังงานให้เร่งกำหนดสูตรราคาเอทาอนล เพื่อรับซื้อและกำหนดปริมาณความต้องการเอทานอล ที่นำไปผสมกับน้ำมันเบนซิน 95 เป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ให้มีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการที่ผลิตเอทานอล มีความกังวลถึงตลาดรองรับผลผลิตที่ได้ โดยทางกระทรวงอุตสาหกรรมมั่นใจว่า ภายในปี 2549 โรงงานผลิตเอทานอลจำนวน 23 โรงที่ได้อนุมัติไปแล้วนั้น จะมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นประมาณ 4 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่ความต้องการใช้เอทานอลที่นำไปผสมเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในปี 2550 จะมีเพียง 3 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น ซึ่งปริมาณการผลิตส่วนเกินนั้นอาจมีความเป็นไปได้ว่าจะต้องมีการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ
สำหรับแนวทางการกำหนดราคารับซื้อเอทานอลนั้น คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่าน่าจะมีการกำหนดราคาที่แน่นอน โดยให้อยู่ที่ราคาลิตรละ 12.75 บาท หรืออาจจะให้มีการปล่อยลอยตัวราคาขึ้นลงตามกลไกตลาดโลก แล้วมีกองทุนเข้ามาดูแล เหมือนกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยืนยันว่าหากรัฐบาลกำหนดราคาเอทานอลที่ 12.75 ก็สามารถรับได้
อย่างไรก็ตามทางกระทรวงอุตสาหกรรมเชื่อมั่นว่า วัตถุดิบ อาทิ อ้อย มันสำปะหลัง กากน้ำตาล ที่จะนำมาผลิตเอทานอล เพื่อนำไปทำแก๊สโซฮอล์นั้นมีเพียงพอต่อความต้องการ และจะสามารถผลิตได้ตามนโยบายของรัฐบาล แต่คณะกรรมการฯ ยังมีความกังวลถึงเรื่องความต้องการ โดยทางกระทรวงพลังงานต้องกำหนดราคา
เพื่อให้โรงกลั่นนำไปผสมให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยทางกระทรวงพลังงานต้องให้ความชัดเจน
“ ปัญหาในขณะนี้อยู่ที่ฝ่ายผู้ใช้ คือการที่โรงกลั่นจะรับซื้อเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงพลังงานที่จะรับซื้อเอทานอล ซึ่งจะต้องมีความชัดเจน โดยราคารับซื้อเอทานอลที่ลิตรละ 12.75 นั้น เป็นราคาที่คิดกำหนดจากราคามันสำปะหลังที่ 1.20 บาทต่อกิโลกรัม ราคาอ้อยอยู่ที่ 600 บาทต่อตัน โดยเชื่อว่าบริษัทน้ำมันรับได้ในราคานี้ แต่ถ้าหากราคามันสำประหลังขึ้นมาอยู่ที่ 1.40 บาทต่อกิโลกรัมนั้น อาจให้ราคาเอทานอลเพิ่มสูงขึ้นกว่า 12.75 บาท ซึ่งอาจอยู่ที่ 13 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้ยังมีความกังวลถึงเรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ว่าราคารับซื้อจะลดลงตามหรือไม่ โดยได้กำหนดแนวทางให้กำหนดราคาเอทานอลตายตัวที่ 12.75 บาทต่อลิตร โดยไม่ต้องมีการปรับขึ้นลงตามราคาน้ำมัน หรือปล่อยให้มีการลอยตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานก็จะต้องติดตามราคาน้ำมัน และพลังงานต่อไป “ นายจักรมณฑ์ กล่าว
นายจักรมณฑ์ กล่าวว่า สูตรกำหนดราคาเอทานอลนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ เพราะบริษัทผลิตเอทานอล และบริษัทน้ำมันต้องการความชัดเจนในเรื่องราคาและปริมาณ โดยราคาที่ออกมานั้น จะต้องไม่ต่ำจนเกินไป โดยผู้ผลิตจะต้องสามารถผลิตต่อไปได้ และผู้ใช้ก็สามารถใช้ได้ในราคาที่ไม่สูง เพื่อเป็นการจูงใจอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งอาจจะมีการลดภาษีแก๊สโซฮอล์
ด้านนายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ( สนพ.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ผลิตเอทานอล ว่า ได้เตรียมสร้างระบบราคาเอทานอลให้เป็นมาตรฐาน เนื่องจากในปี 2548 เอทานอลจะมีกำลังการผลิตที่เต็มระบบ แต่ในขณะที่ราคาวัตถุดิบที่เป็นมันสำปะหลังแกว่งตัวไม่คงที่ แต่กระทรวงพลังงานจะไม่เข้าไปกำหนดราคาเอทานอลเอง เพราะเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่จะกำหนดที่พึงพอใจมาที่กระทรวงพลังงาน ซึ่งกระทรวงพลังงานจะเป็นผู้พิจารณาว่าราคามีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไรก็ตามการที่ผู้ผลิตเอทานอลเองต้องป้อนการผลิตให้สอดคล้องความต้องการซื้อของบริษัทน้ำ
ทั้งนี้เชื่อว่าจะเร่งการกำหนดราคาเอทานอลที่เป็นมาตรฐานให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบการผลิตเอทานอลในปัจจุปันและแผนการผลิตในปีหน้า--จบ--