กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--พม.
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิธีเปิดงาน “วันสตรีสากล” และประกาศเกียรติคุณเครือข่ายดีเด่นด้านสตรีและครอบครัว ประจำปี ๒๕๕๖ โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงาน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า การถือกำเนิดของวันสตรีสากล เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นในการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี และแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญและยอมรับบทบาทและศักยภาพของสตรีมากขึ้น นับตั้งแต่ปีที่เริ่มมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงให้ความสำคัญสนับสนุนและส่งเสริมสตรีให้ได้รับความเท่าเทียมในสังคม สำหรับประเทศไทยนั้น แม้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จะมีการพัฒนาโอกาสและบทบาทของสตรีในด้านต่างๆ มากขึ้น แต่ในสภาพความเป็นจริงของสังคม ยังคงพบเห็นความด้อยและความเหลื่อมล้ำในเชิงโอกาสของสตรีปรากฏอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีในระดับท้องถิ่น ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคในการแสวงหาโอกาสและความก้าวหน้าที่พึงได้รับ จนบางครั้งนำไปสู่การเอารัดเอาเปรียบ หรือแม้แต่การ ถูกละเมิดสิทธิสิทธิขั้นพื้นฐานของตนเอง ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญที่จะส่งเสริมโอกาส และความก้าวหน้าของสตรีไทย โดยเชื่อมั่นว่า การรวมพลังของสตรีและบุรุษจะนำไปสู่การขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศให้หมดสิ้นไป เนื่องจากสตรีและบุรุษต่างมีมุมมองของการสะท้อนปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งความแตกต่างกัน ของบุรุษและสตรีนี้จะช่วยเพิ่มมุมมองและเติมเต็มในการแก้ไขปัญหา และเอื้อต่อการพัฒนาครอบครัว ชุมชน สังคม ให้เกิดดุลยภาพอย่างยั่งยืน
นายสันติ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงฯ ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันสตรีสากลอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนในสังคม ตระหนักถึงความสำคัญของวันสตรีสากล สนับสนุน และร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันสตรีสากลให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานและองค์กรเครือข่าย มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม สนับสนุนให้สตรีและบุรุษมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกด้าน และทุกระดับในสังคม ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศ เสริมสร้างเจตคติของสังคมในการคำนึงถึงศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ ส่งเสริมศักยภาพและพิทักษ์คุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสตรี และส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย ซึ่งการจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี ๒๕๕๖ ครั้งนี้ จัดภายใต้แนวคิด “หญิงชายรวมพลังสู่ความเสมอภาคและสันติสุข” ภายในงานมีกิจกรรมที่สำคัญ คือ การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรดีเด่น จำนวน ๑๘ สาขา รวม ๓๒ รางวัล การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรเครือข่ายสตรีที่มีศักยภาพดีเด่น จำนวน ๓๙ รางวัล และการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่น ด้านสตรีและครอบครัว จำนวน ๑๓๗ รางวัล
“การขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความเสมอภาคอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ และต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนในสังคมที่จะปรับเปลี่ยนมุมมอง วิธีคิด และเจตคติของคนในสังคมให้มีการดำเนินชีวิต บนพื้นฐานของการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของหญิงและชายที่แตกต่างกัน การเสริมสร้างให้หญิงและชาย มีเจตคติด้านความเสมอภาคนับเป็นสิ่งสำคัญ และควรเริ่มปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ผ่านการอบรมเลี้ยงดู ตลอดจนการปลูกฝังผ่านการเรียนรู้ในระบบการศึกษา ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล โดยพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่เกี่ยวกับบทบาทของหญิงและชาย เพื่อให้เด็กทุกคนเรียนรู้เรื่องการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ การรู้จักหน้าที่ของตน และการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างหญิงและชาย นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ซึ่งเชื่อได้ว่าจะเป็นพลังอันเข้มแข็งที่จะร่วมสร้างสรรค์พัฒนาประเทศให้เกิด ความเสมอภาคและสันติสุขในสังคมไทย” นายสันติ กล่าว.