ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็น BBB+

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 11, 2013 14:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. เป็น ‘BBB+’ จาก ‘BBB’ และอันดับเครดิตสากลระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ (Short-term Foreign-Currency Issuer Default Rating) เป็น ‘F2’ จาก ‘F3’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (Long-term Local-Currency Issuer Default Rating) ที่ ‘A-’ อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ ‘AAA(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ระดับ ‘F1+(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของ ปตท. เป็นผลมาจากการปรับเพิ่มของอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของประเทศไทยในวันที่ 8 มีนาคม 2556 ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของปตท.ในธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย ความสำคัญในเชิงกลยุทธ์และการเป็นตัวจักรสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวกับการพัฒนาและความมั่นคงทาง พลังงานของประเทศ รวมถึงสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบัน ปตท.เป็นผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย โดยก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ ปตท.ยังเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจการกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีในประเทศไทยอีกด้วย อันดับเครดิตของ ปตท. ถูกลดทอนจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แผนการลงทุนที่สูง รวมถึงกระแสเงินสดจากการดำเนินงานหลังหักค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและเงินปันผลของ ปตท. ที่คาดว่าจะติดลบอย่างต่อเนื่องไปจนถึงอย่างน้อยในปี 2557 เนื่องจากแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ ปตท. (ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (net adjusted debt to fund flow from operations) จะดำรงอยู่ในระดับ 2.0 เท่า ถึง 2.2 เท่าในช่วง 3 - 5 ปีข้างหน้า ฟิทช์มีความเห็นว่าอัตราส่วนดังกล่าวซึ่งใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตของ ปตท.โดยลำพัง (Standalone Rating) ที่อยู่ที่ระดับ ‘A-’ เมื่อพิจารณาถึงกระแสเงินสดจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติของบริษัทฯที่มีปริมาณสูงอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะมีการปรับเพิ่มอันดับเดรดิตสากลดังกล่าว แต่อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของ ปตท. ยังคงถูกจำกัดโดยอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของประเทศไทย เนื่องจากการที่รัฐบาลไทยถือหุ้นร้อยละ 51 ในบริษัทฯ ภายใต้หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทใหญ่กับบริษัทย่อย (Parent and Subsidiary Rating Linkage Methodology) ฟิทช์จัดอันดับเครดิต ปตท.โดยเริ่มจากการพิจารณาเครดิต ของ ปตท. โดยลำพัง แล้วจึงพิจารณาถึงปัจจัยเสริมจากความสัมพันธ์ดังกล่าว (Bottom-up basis) โดยฟิทช์ได้ให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตของ ปตท. โดยลำพัง เพื่อสะท้อนถึงการสนับสนุนของรัฐบาลต่อ ปตท.ในทางอ้อม (Implicit Support) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศของประเทศไทยปัจจุบัน อยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิต ของ ปตท. โดยลำพัง ดังนั้นการปรับเพิ่มอันดับเครดิตขึ้นหนึ่งอันดับจากปัจจัยดังกล่าวจึงไม่มีผลในกรณีนี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก การประกาศคงอันดับเครดิตของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ‘A-’/‘BBB’ ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 และรายงานฉบับเต็มลงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 โดยข้อมูลทั้งสองหาได้ที่ www.fitchratings.com ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต ปัจจัยบวก: -การปรับเพิ่มขึ้นของอันดับเครดิตของประเทศไทย ปัจจัยลบ: -การเปลี่ยนแปลงในเรื่องกฎระเบียบ การแก้ไขสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติและการปรับค่าผ่านท่อก๊าซที่ทำให้ ปตท.เสียประโยชน์ - การลงทุน/การเข้าซื้อกิจการจำนวนมากโดยใช้เงินกู้ยืม -อัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน) (net adjusted leverage to funds flow from operations ) ที่สูงกว่า 2.25 เท่าอย่างต่อเนื่อง) -การปรับลดอันดับเครดิตของประเทศไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ