กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
มุ่งสร้างสรรค์โซลูชั่นแบบเปิด มีความหลากหลาย และเปี่ยมประสิทธิภาพ
เอชพีประกาศเปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำ เพื่อเสริมพอร์ทโฟลิโอระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เอชพีได้เปิดตัวในการประชุมประจำปีสุดยอดพันธมิตรระดับโลก Global Partner Conference ที่จัดขึ้น ณ เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อเร็วๆ นี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP BladeSystem ใหม่ ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบผนวก HP Converged Storage โซลูชั่นระบบเครือข่าย HP Networking พร้อมด้วยบริการของเอชพี (HP Services) โดยผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านี้จะเร่งสร้างผลตอบแทนในการลงทุนด้านไอทีให้เร็วขึ้น ทั้งยังช่วยลูกค้ามุ่งให้ความสำคัญกับการนำทรัพยากรต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาการปฏิบัติงานและสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นในวงการไอที ทั้งทางด้านเทคโนโลยีคลาวด์ ระบบบิ๊กดาต้า สื่อสังคมออนไลน์ (social media) และโซลูชั่นโมบิลิตี้ (mobility) นับเป็นความท้าทายใหม่ๆ สำหรับประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านไอทีหรือซีอีโอ ในการตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้า พันธมิตรคู่ค้า และพนักงาน รวมทั้งการดำเนินการปรับเป้าหมายในการพัฒนาระบบไอทีให้สอดคล้องตรงตามเป้าหมายทางธุรกิจภายใต้งบประมาณที่จำกัด
พอร์ทโฟลิโอระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพีสามารถตอบสนอง ความท้าทายที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว ทั้งยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไอทีในการใช้และบริหารจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ ที่ผ่านมา เอชพีได้พัฒนาพอร์ทการเชื่อมต่อแบบเสมือนหรือเวอร์ช่วลจำนวนมากกว่า 8 ล้านชิ้น ออกใบอนุญาตการใช้โซลูชั่น HP Insight Management มากกว่า 7 ล้านครั้ง จำหน่ายผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบเบลดมากกว่า 40 เปตาไบต์ พร้อมด้วยสวิตช์พอร์ทจำนวน 50 ล้านชิ้น และมีลูกค้าที่ใช้ระบบ HP CloudSystem จำนวนเกือบ 900 ราย(1) นอกจากนี้ เอชพียังเป็นผู้นำในตลาดไอทีทางด้านการมีรายได้และยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบลดเซิร์ฟเวอร์สูงสุดติดต่อกันถึง 24 ไตรมาส(2)
ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) มอบคุณประโยชน์อันโดดเด่นให้แก่ลูกค้า ได้แก่
- ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพีเป็นระบบเปิด มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานชั้นนำต่างๆ ของวงการไอที ทั้งยังผนวกรวมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย และซอฟท์แวร์ การจัดการเข้าไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
- ได้รับการยอมรับว่ามีความโดดเด่นในการบริหารโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ทั้งยังเป็นโซลูชั่นที่เกิดจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของสมาชิกและพันธมิตรคู่ค้าภายใต้โครงการ HP AllianceOne รวมกว่า 4,500 รายที่ได้พัฒนาโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบและพัฒนาต่อยอดจากระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี
- มีบริการสนับสนุนและให้คำปรึกษาอย่างครบวงจรจากเอชพีและพันธมิตรคู่ค้าที่เปี่ยมคุณภาพ เพื่อให้การบริหารระบบไอทีมี ความสะดวกและง่ายดาย สนับสนุนการลงทุนด้านไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้น และสร้างประสบการณ์อันโดดเด่นให้แก่ลูกค้า
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย กล่าวว่า “เอชพี เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวก และนำแนวคิดดังกล่าวออก สู่ตลาดเป็นรายแรก อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ยอมหยุดอยู่แค่เพียงความสำเร็จที่เกิดขึ้นดังกล่าว เราจะยังคงเดินหน้ามุ่งพัฒนาและขยายนวัตกรรมพอร์ทโฟลิโอระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพีให้ล้ำสมัย เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดที่ตรงตามความคาดหวังของลูกค้าทั้งจากภาครัฐและภาคธุรกิจต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”
ผลิตภัณฑ์ HP BladeSystem ใหม่สร้างสรรค์ระบบดาต้าเซ็นเตอร์ที่ล้ำสมัย
การทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นก่อให้เกิดประโยชน์มากมายให้แก่องค์กรต่างๆ ทั้งนี้ ผลการสำรวจล่าสุดของการ์ทเนอร์ เผยว่า ในปี 2559 จะมีปริมาณงานที่เกิดขึ้นบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 82(3) ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารจัดการมีความซับซ้อนมากขึ้น และตามมาด้วยการมีต้นทุนในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ HP BladeSystem c7000 Platinum enclosure เป็นผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่โดดเด่นในพอร์ทโฟลิโอ HP Proliant ชั้นนำ โดยมาพร้อมกับสมรรถนะและความพร้อมในการนำทรัพยากรมาใช้งานในสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลและคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้องค์กรต่างๆ สามารถประหยัดต้นทุนในการบริหารระบบศูนย์ข้อมูลได้ถึงร้อยละ 68(4) นอกจากนี้ ระบบศูนย์ข้อมูลขั้นพื้นฐานดังกล่าวยังสามารถทำงานด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่สร้างความคุ้มค่าในการลงทุนในระยะยาว ทั้งยังสามารถปรับขยายเพื่อรองรับการเติบโตที่จะมีขึ้นได้อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP BladeSystem c7000 Platinum enclosure มาพร้อมกับอุปกรณ์สวิตช์ SX1018 HP Ethernet switch ที่มีค่าความหน่วงเวลาในการส่งข้อมูลของอุปกรณ์เบลดสวิตช์จากพอร์ทหนึ่งไปยังอีกพอร์ทหนึ่งอยู่ในระดับต่ำสุด จึงสามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าอุปกรณ์สวิตช์แบบเก่าถึง 4 เท่า(5,6) นอกจากนี้ เอชพียังเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมไอทีที่พัฒนาให้เครื่องเบลดเซิร์ฟเวอร์มีสมรรถนะในการดาวน์ลิงค์ในสภาวะการทำงานแบบกึ่งเรียลไทม์ได้สูงสุดถึง 40 กิ๊กะไบต์ จึงสนับสนุนให้เกิดการทำงานของระบบเครือข่ายแบบอินเตอร์เฟซที่ดีเยี่ยมสำหรับคลัสเตอร์สมรรถนะสูงหรือแอพพลิเคชั่นบริการทางการเงิน
นอกจากนี้ เอชพียังเปิดตัวผลิตภัณฑ์เบลดเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant WS460c Generation 8 (Gen8) ใหม่ ซึ่งเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานเบลดชนิดเดียวที่สนับสนุนโซลูชั่นลูกข่ายแบบเวอร์ช่วล โดยมาพร้อมด้วยระบบภาพกราฟฟิกแบบ 3-D และหน่วยประมวลผลกราฟฟิกหรือ GPU 8 ตัวในเบลดเซิร์ฟเวอร์แต่ละเครื่อง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เบลดเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant WS460c สามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานได้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า จึงประหยัดค่าใช้จ่ายต่อผู้ใช้งาน 1 คนได้ถึงร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์เบลดเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่า ส่งผลให้มีการกระจายการทำงานได้ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กรได้เป็นอย่างดี(7,8)
นวัตกรรมสุดล้ำของเอชพี ขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนสู่สถาปัตยกรรมจัดเก็บข้อมูลอันล้ำสมัยได้อย่างรวดเร็ว
จากการเติบโตของข้อมูลที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้และความต้องการสมรรถนะ การทำงานของระบบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่กดดันให้ลูกค้าต้องยกระดับสถาปัตยกรรมจัดเก็บข้อมูลแบบเก่าให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ดังนั้น การปรับเปลี่ยนจากสถาปัตยกรรมจัดเก็บข้อมูลแบบเก่าสู่ระบบใหม่ที่สามารถปรับขยายได้และมีความทันสมัยมากขึ้นจึงเป็นการสร้างช่องทางทางธุรกิจใหม่ๆ ที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐให้แก่พันธมิตรคู่ค้า
ผลิตภัณฑ์ HP StoreVirtual Storage คือ โซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลที่ทำงานด้วยซอฟท์แวร์ (software defined storage หรือ SDS) ใหม่ โดยทำหน้าที่เป็นทั้งซอฟท์แวร์ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเวอร์ช่วลหรือเสมือน (virtual storage appliance (VSA) หรือระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก (converged storage appliance) บนระบบฮาร์ดแวร์ HP ProLiant โดยเอชพีได้จำหน่ายซอฟท์แวร์ VSA มากกว่า 150,000 ชุดทั่วโลกมาเป็นระยะเวลานานกว่า 7 ปี
เพื่อส่งเสริมการใช้โซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลแบบ SDS ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างรวดเร็ว เอชพีจึงส่งโซลูชั่น HP StoreVirtual Storage ที่สนับสนุนเทคโนโลยี HP ProLiant Gen8 ใหม่ 2 ประเภทออกสู่ตลาด โซลูชั่น HP StoreVirtual Storage ใหม่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นจากระบบเดิมถึง 2 เท่า จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้แก่ธุรกิจต่างๆ ที่ใช้ระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น
นอกจากนี้ เอชพียังส่งผลิตภัณฑ์ HP StoreSystem ใหม่ซึ่งเป็นโซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลระดับมิดเรนจ์ โดยได้ผนวกรวมเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูล HP 3PAR StoreServ Storage และระบบสำรองข้อมูล HP StoreOnce Backup เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อการนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ HP StoreSystem ใหม่รองรับ การจัดเก็บข้อมูลทั้งแบบไฟล์และบล็อก และมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผนวกรวมอยู่ในระบบเดียว โดยใช้แพลทฟอร์ม HP 3PAR และชุดซอฟท์แวร์ วีเอ็มแวร์ (VMWare) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการทำงานของลูกค้า
บริการ HP Technology Services ทำให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกทำงานได้ง่ายขึ้น สมบูรณ์แบบ และอัตโนมัติ
บริการ HP Technology Services ทำให้ลูกค้าสามารถทำงานบนระบบไอทีของตนได้ง่ายดาย สมบูรณ์แบบ และอัตโนมัติ เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว และย่นเวลาในการสร้างรายได้ให้เร็วขึ้น
บริการ HP Technology Services มาพร้อมกับโปรแกรม HP Proactive Insight experience โดยสนับสนุนลูกค้าให้ใช้มาตรการเชิงรุกบริหารภาระงานต่างๆ โดยอัตโนมัติ ทั้งยังสามารถป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆ และสร้างผลผลิตเฉลี่ย 32,000 เหรียญสหรัฐต่อผู้ใช้งาน 100 คน(9)
โปรแกรม HP Proactive Insight experience ประกอบด้วยบริการ HP Proactive Care ที่ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆ ทั้งยังสนับสนุนการเข้าถึงความรู้ทางด้านเทคนิคสุดล้ำได้โดยตรง บริการ HP Proactive Care สนับสนุนเทคโนโลยี การจัดการและสนับสนุนสุดล้ำ ได้แก่ ระบบ HP Insight Online ซึ่งเป็นพอร์ทัล การจัดการบนระบบคลาวด์ที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในวงการไอที และระบบ HP Insight Remote Support ที่สามารถติดตามการทำงานของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล และระบบเครือข่ายได้จากระยะไกล นอกจากนี้ โปรแกรม HP Proactive Insight experience ยังช่วยลูกค้าให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้านบริการภายในระยะเวลา 30 วันหรือน้อยกว่านั้น(9)
เอชพีเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมโซลูชั่นเครือข่ายที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในวงการไอที รองรับปรากฏการณ์ BYOD
มีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2559 จำนวนคนทำงาน 2 ใน 3 คน จะ มีสมาร์ทโฟนเป็นของตนเอง และร้อยละ 40 ของคนทำงานจะมีการติดต่อสื่อสารแบบเคลื่อนที่(10) ดังนั้น ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบเก่าที่ใช้ในปัจจุบันต้องใช้ระบบเครือข่ายแยกจากกัน 2 เครือข่าย เพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบใช้สายและไร้สาย จึงทำให้เกิดความซับซ้อนในการดำเนินงาน และสร้างความท้าทายทางด้าน ความปลอดภัยของระบบ
เอชพีเปิดตัวโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบและครบวงจรมากที่สุดในตลาดไอที เพื่อรองรับการนำอุปกรณ์ส่วนตัวของพนักงานมาใช้งาน (หรือ BYOD : Bring Your Own Device) โดยประกอบด้วยแพลทฟอร์มการบริหารแบบใช้สายและไร้สายและ แพลทฟอร์มการทำสวิตชิ่งที่ผนวกรวมเข้าด้วยกันเป็นระบบเครือข่ายเดียวเพื่อสนับสนุนการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและไร้สาย
นวัตกรรมระบบเครือข่ายของเอชพีรองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่พกพาติดตัวและฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ โดยใช้แอพพลิเคชั่นการจัดการแบบเดี่ยว ทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ โดยใช้เทคโนโลยีระบบเครือข่ายที่ทำงานด้วยซอฟท์แวร์ (software-defined networks : SDN) และบริการเชื่อมต่อแบบเคลื่อนที่ที่ทำงานบนสถาปัตยกรรม HP FlexNetwork เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากขึ้น
เอชพีนำเสนออุปกรณ์สวิตช์ซีรี่ส์ HP2920 ใหม่ที่ทำงานบนระบบ OpenFlow สนับสนุนการถ่ายโอนข้อมูลให้เร็วขึ้นร้อยละ 45 และเพิ่มสมรรถนะการทำงาน มากขึ้นถึงร้อยละ 100(11) ส่งผลให้ระบบเครือข่ายมีขีดความสามารถในการปรับขยายมากกว่าระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมถึง 2 เท่า นอกจากนี้ เอชพียังนำเสนออุปกรณ์สวิตช์ HP 830 Unified/WLAN ใหม่ ทำให้ความต้องการในซื้ออุปกรณ์เข้าใช้เครือข่ายแบบเดิม อาทิ อุปกรณ์สวิตช์และระบบคอนโทรลเลอร์ที่แยกกัน ลดลงถึงร้อยละ 50 และรองรับอุปกรณ์ไร้สายได้มากถึง 1,000 เครื่อง(12)
เพื่อช่วยลูกค้าสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบมีสายและไร้สายที่สามารถปรับขยายได้และทำงานได้อย่างเต็มที่ เอชพีจึงจัดทำบริการ HP FlexNetwork Design and Validation และบริการ HP Wireless LAN Lifecycle Services ที่พัฒนาบนสถาปัตยกรรมอ้างอิง HP FlexNetwork เพื่อให้บริการออกแบบในระดับสูงที่สามารถทำงานร่วมกันได้ และมีการตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งยังสามารถตั้งค่าระบบของอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วย
เอชพีมีกำหนดจัดงาน HP Discover สำหรับลูกค้าในภูมิภาคอเมริกา ระหว่างวันที่ 11 — 13 มิถุนายน 2556 ณ เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เป็นจริง ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค ธุรกิจ ภาครัฐ และสังคมได้เป็นอย่างมาก เอชพีเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ บริการต่างๆ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอที เพื่อขจัดปัญหาของลูกค้าได้อย่างตรงจุด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอชพี (NYSE: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com
(1) HP internal calculations.
(2) IDC, “Worldwide Quarterly Server Tracker, Q3 CY2012,” November 2012.
(3) Gartner “Forecast Analysis: x86 Server Virtualization, Worldwide, 3Q12 Update,” November 2012.
(4) HP-sponsored white paper from IDC, “Business Value of Blade Infrastructures,” No. 227508R2, December 2012.
(5) Based on HP internal calculations as of January 2013. Comparing HP 6120XG with 240 Gb of available up/down bandwidth vs. SX1018HP with 1,360 Gb available, HP offers up/down bandwidth that is 5.6 times greater.
(6) Based on HP internal calculation as of January 2013 that show HP SX1018 switch achieving a 250 nanosecond response time, compared to 1 millisecond from previous models.
(7) Based on HP internal calculations as of January 2012. Four times more NVIDIA Quadro 3000M graphics in the same enclosure space vs. previous-generation HP WS460c.
(8) Based on HP internal calculations as of January 2012. Versus previous-generation HP WS460c.
(9) IDC White paper, sponsored by HP and Intel, “The Business Value of the HP Proactive Insight Experience,” No. 239199, January 2013.
(10) Gartner, “The Nexus of Forces Changes Everything: Gartner Symposium/ITxpo 2012 Keynote,” ID:G00246019, Jan. 10, 2013.
(11) Tolly Research, “HP 2920 Switch Series: Competitive Performance, Power Consumption and TCO Evaluation versus Cisco Catalyst 2960-S and Cisco 3750-X Series,” February 2013.
(12) Based on HP internal testing.