กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นประธานพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ “นเรศวร” และทอดพระเนตรการถ่ายทำฉากขบวนเสด็จของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง “นเรศวร” ประชาชนนับหมื่นเฝ้ารับเสด็จ ณ กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมทอดพระเนตรการถ่ายทำฉากเปิดกล้องขบวนเสด็จของสมเด็จ พระนเรศวรมหาราช เพื่อเฝ้าสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดา ที่เมืองอโยธยา ยิ่งใหญ่สมจริง มีนักแสดงกว่า 1,000 คน ร่วมเข้าฉาก ละลานตากับฉากเมืองเก่าที่สร้างขึ้นใหม่อย่างอลังการบนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ด้วยทุนสร้างราว 500 ล้านบาท เผยภายหลังพานักแสดงเข้าเฝ้าตามกระแสรับสั่ง ทรงตรัสชื่นชมว่าสามารถสร้างภาพยนตร์ออกมาได้ดี
ที่กองพล ทหารราบที่ 9 (ค่ายสุรสีห์) ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2547 เวลา 16.15 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง “นเรศวร” โดยมี นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี, นายเทิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และภริยา พร้อมด้วยผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรี แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 นอกจากนี้ยังมีเหล่าทีมงานรอรับเสด็จฯ นำโดย “ท่านมุ้ย” ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล และหม่อมกมลา ยุคล พร้อมเหล่านักแสดงนำ ทราย เจริญปุระ, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, สรพงษ์ ชาตรี , ฉี เส้าเฉียน —นักแสดงฮ่องกงและพระเอกกระบี่ไร้เทียมทาน , ร.อ. วันชนะ สวัสดี ผู้รับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช , พ.ต.วินธัย สุวารี ผู้รับบทเป็นพระเอกาทศรถ และดาราสมทบ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ มณฑลพิธีบวงสรวง ซึ่งระหว่างการประกอบพิธีบวงสรวงเหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
หลังเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตรนิทรรศการ และประทับรถรางไปยังบริเวณสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “นเรศวร” เพื่อ ทอดพระเนตรการถ่ายทำฉากเปิดกล้อง โดยมี ร.อ.วันชนะ สวัสดี รับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, พ.ต. วินธัย สุวารี รับบทเป็นสมเด็จพระเอกาทศรถ, นพชัย ชัยงาม รับบทเป็นออกพระราชมนู และดาราสมทบอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเข้าฉาก ซึ่งเป็นฉากขบวนเสด็จของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากพิษณุโลก เพื่อเฝ้าสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดา ที่เมืองอโยธยา หลังจบการแสดง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีกระแสรับสั่งให้ทีมงานนักแสดงเข้าเฝ้าฯ เพื่อสอบถามว่าใครรับบทใดบ้าง และทรงชื่นชมว่าสามารถสร้างภาพยนตร์ออกมาได้ดีมาก
จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่อง “นเรศวร” คือสถานที่ถ่ายทำที่ท่านมุ้ยได้ทุ่มเทเต็มที่กับงานสร้างฉากอย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยเนรมิตพื้นที่ป่ากว่า 1,500 ไร่ ที่กาญจนบุรี ให้เป็นเมืองอยุธยา และหงสาวดี พร้อมทั้งสถานที่สำคัญของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งท่านมุ้ยให้รายละเอียดเกี่ยวกับการก่อสร้างฉากว่า ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน ใช้งบประมาณในการนี้ราว 200-300 ล้านบาท เพื่อให้มีความยิ่งใหญ่ สมจริง การสร้างฉากและอุปกรณ์ประกอบฉากอย่างพิถีพิถัน ทั้งงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของ ฝ่ายไทยและฝ่ายพม่า โดยได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อการออกแบบจัดทำและสร้างอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด งานที่เกี่ยวกับพม่าบางส่วนได้จัดหามาจากพม่าโดยตรง และการสร้างฉากแบบกึ่งถาวรนี้สามารถจัดให้เป็นพื้นที่เช่าเพื่อใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์หรือละคร ทั้งจากผู้สร้างภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทย และสามารถพัฒนาให้เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวได้ในอนาคต
“เหตุที่เลือกกาญจนบุรีเป็นสถานที่ถ่ายทำเพราะสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ที่เป็นเมือง หน้าด่านที่สำคัญในการสกัดกั้นทัพพม่าก่อนที่จะเข้าถึงอยุธยาได้ เป็นเส้นทางเดินทัพทั้งทางบกและทางน้ำ มีเหตุการณ์สำคัญหลายเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ในยุคสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชประกอบกับทำเลที่ตั้งเหมาะสมมาก และที่สำคัญคือเราได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบกเป็นอย่างดี ด้วยความพร้อมและ ศักยภาพทุกด้าน ทั้งพื้นที่ กำลังพล ตลอดจนอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยให้การก่อสร้างดำเนินไปด้วยดี” ท่านมุ้ยกล่าว ภาพยนตร์เรื่อง “นเรศวร” สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่องยิ่งใหญ่ที่แสดงถึงความโดดเด่นในด้านความกล้าหาญ ความอดทน ความเสียสละ ตลอดจนพระปรีชาสามารถในยุทธศาสตร์การรบที่ทำให้ประเทศไทยดำรงเอกราชตราบจนทุกวันนี้ อันเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ชาวไทย ทุกคนควรตระหนักด้วยจิตสำนึกในความรักชาติ และมีความกตัญญูรู้คุณ พร้อมที่จะตอบแทนคุณของแผ่นดินไทย
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ “นเรศวร”
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทรศัพท์ 0 2274 4961-2, 0 2691 6302-4 โทรสาร 0 2691 6305
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--