กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และโครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม ร่วมจัดงาน “ลดภาษี นาทีสุดท้าย ด้วย LTF-RMF” งานเดียวที่ผู้สนใจจะได้พบกับ ข้อมูลของบลจ. ชั้นนำตลอด 3 วัน 17-19ธันวาคมศกนี้ ณ โถงนิทรรศการ ชั้น 1 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 10 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม
นางนงราม วงษ์วานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ทุกบริษัทรวม 17 แห่ง ได้สนใจออกกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund - LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Find-RMF) กว่า 78 กองทุน แบ่งเป็น LTF จำนวน 22 กองทุน และ RMF จำนวน 56 กองทุน เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
โดยผู้ที่ลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้ สามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่ลงทุนจริงไม่เกิน 15 % ของรายได้ หรือไม่เกิน 300,000 บาท ของกองทุนแต่ละประเภท นอกจากนี้ กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน (Capital gain ) ยังได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีด้วย
“เพื่อให้ผู้สนใจได้มีโอกาสหาข้อมูลของกองทุน LTF-RMF อย่างเต็มที่ ก่อนสิ้นปี บ.ศูนย์รับฝากฯ จึงร่วมกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และโครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม จัดงาน “ลดภาษี นาทีสุดท้าย ด้วย LTF-RMF” ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เลือกกองทุน LTF-RMF กว่า 60 กองทุนจากผู้เชี่ยวชาญในงานเดียว
“จุดเด่นของงานนี้ คือผู้ลงทุนจะได้มีโอกาสพบกองทุนรวมที่ออกโดยบลจ.ทุกแห่ง เพื่อสอบถาม รายละเอียดของกองทุนและปรึกษาหารือเรื่องการประหยัดภาษีได้โดยตรง และเปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละกองทุนเพื่อตัดสินใจเลือกซื้อกองทุนที่สนใจ และหากตัดสินใจได้ภายหลังจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของบลจ. แล้ว ก็สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ภายในงานนี้ พร้อมรับของที่ระลึกมากมาย” นางนงรามกล่าว
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า หากลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ผู้ลงทุนจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 600,000 บาทต่อปี โดยกองทุน RMF นั้น ผู้ลงทุนต้องซื้อทุกปี ไม่น้อยกว่า 5 ปี และไถ่ถอนได้เมื่ออายุครบ 55 ปี ส่วน LTF นั้น เป็นการออมเงินในกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเป็นหลัก และไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี ซึ่งกองทุนLTF-RMF นั้น ปัจจุบันมีกว่า 78 กองทุน
“ดังนั้น งาน “ลดภาษี นาทีสุดท้าย ด้วย LTF-RMF” จึงนับเป็นโอกาสดีที่ผู้ลงทุนจะได้เลือกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนที่สอดคล้องกับความต้องการได้โดยสะดวกภายในงานเดียว ในขณะที่ บลจ. ก็จะมีโอกาสขยายฐานลูกค้า และได้รับทราบถึงความสนใจของผู้ลงทุนโดยตรง และให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม เป็นการปูพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับกองทุนรวมให้กว้างขวางขึ้น”
ด้านนายมนตรี ฐิรโฆไท นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า การลงทุนในกองทุนรวม เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาศึกษาเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน หรือไม่เชี่ยวชาญด้านการลงทุน แต่สนใจที่จะออมเงิน โดยกองทุน RMF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นใจหลังวัยเกษียณ ในขณะที่ กองทุน LTF เป็นการออมเงินสำหรับใช้ก่อนวัยเกษียณ
“ผู้ที่มีการวางแผนทางการเงินที่ดี จึงควรจัดสรรเงินออมมาลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภท ซึ่งควรเลือกกองทุนที่มีนโยบายที่ตนสนใจ เพราะแต่ละกองทุนก็จะมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกัน ดังนั้น งาน “ลดภาษี นาทีสุดท้าย ด้วย LTF-RMF” จึงเป็นโอกาสทองที่ผู้ลงทุนจะสามารถเลือกกองทุนที่มีนโยบายตรงใจผู้ลงทุนได้ และเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่านการลงทุนในกองทุน LTF-RMF ด้วย นอกจากนี้ ยังจะได้รับความรู้จากการเสวนาหลากหลายหัวข้อ รวมทั้ง ยังได้รับของที่ระลึก อีกด้วย ซึ่งหากพลาดงานนี้ อาจต้องรออีกนาน”
กิจกรรมภายในงาน “ลดภาษี นาทีสุดท้าย ด้วย LTF-RMF” ประกอบด้วยการออกบูธของ บลจ. 12 ราย ณ บริเวณโถงนิทรรศการชั้น 1นอกจากนี้ยังมีมุม Clinic เพื่อให้บริการแก่ผู้เข้าที่ต้องการหารือกับเจ้าหน้าที่ของบลจ.เพิ่มเติม
สำหรับการเสวนาหัวข้อที่น่าสนใจ มีวันละ 2 รอบ คือ เวลา 11.00 น และ 15.30 น. ได้แก่
วันศุกร์ที่ 17 ธ.ค.
“วางแผนทางการเงินอย่างชาญฉลาดด้วย LTF และ RMF”
“เทคนิคการลงทุนอย่างคุ้มค่าใน LTF และ RMF”
วันเสาร์ที่ 18 ธ.ค.
“เลือกลงทุน LTF และ RMF อย่างไรให้ดีที่สุด”
“เคล็ด (ไม่) ลับกับการลงทุนระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์”
วันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค.
“การออมเพื่อการเกษียณ”
“ประหยัดภาษีอย่างมีเทคนิคด้วย LTF และ RMF”
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 229 — 2037 /
ณัฐพร บุญประภา โทร. 229 - 2049--จบ--