สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 13, 2013 10:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,583 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,593 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.58 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 22,150 บาท กับ 22,250 บาท และกลับมาปิดที่ 22,150 บาท กับ 22,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 932 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,871 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.09 % แบบ 10 บาท ลดลง 0.7 % GFJ13 ปิด 22,380 บาท และ GFM13 ปิด 22,480 บาท GF10J13 ปิดที่ 22,380 บาท GF10M13 ปิดที่ 22,490 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 13.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,591.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 31.8 เซนต์ มาปิดที่ระดับ 29.171 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,236.31 ตัน (ขายออก 0.42 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ระดับ 92.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์บวก 2.77 จุด ปิดที่ 14,450.06 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำช่วงเช้าแกว่งตัวเล็กน้อย โดยยังคงยืนใกล้จุดสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ เมื่อวานนี้ ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ ในตลาดเอเชีย ก่อนดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปิดตลาด จาก 1,583 เหรียญ ไปที่ 1,591 เหรียญ และจุดสูงสุดประมาณ 1,598 เหรียญ เนื่องจากความต้องการของสินทรัพย์ปลอดภัย การที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เกิดจากการแข็งค่าของเงินยูโรจากคำกล่าวของนายไวด์มานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมันที่ระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินยูโรไม่ได้เป็นส่วนที่คุกคามเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม แม้นายไวด์มานน์กล่าวเชิงลบต่อยูโรโซน ว่าวิกฤตหนี้ยังไม่สิ้นสุดลง แม้ว่าตลาดทางการเงินจะยังสงบอยู่ รวมถึงยังมีความสงสัยเกี่ยวกับการปฏิรูปในอิตาลี ไซปรัสและฝรั่งเศส ทำให้คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสกุลเงินยูโร ทั้งนี้นายไวด์แมนด์กล่าวว่าค่าเงินยูโรไม่ได้เป็นผลเสียต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอีซีบีไม่ได้ตั้งเป้าหมายของค่าเงินเอาไว้ แต่ค่าเงินยูโรที่อ่อนตัวมากจากการประเมินมุมมองของเศรษฐกิจ การเทขายของ ETF ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มมีอัตราที่ชะลอลง อย่างไรก็ตามยังคงขาดแรงซื้อในสินค้าทองคำ ที่จะทำให้ทองคำกลับตัวปรับตัวขึ้นได้ Standard Bank กล่าวว่า อัตราการเทขาย ETF ได้ชะลอลง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการเทขาย 21.9 ตัน เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า 56.7 ตัน SPDR เมื่อวานนี้ได้ขายทองคำออกมา 0.42 ตัน จาก 1,236.73 ตันสู่ระดับ 1,236.31 ตัน ความต้องการทองคำแท่งฝั่งเอเชีย ซึ่งรวมถึงจีนยังคงแข็งแกร่ง จากถ้อยแถลงของนายอิวาตะ ตัวแทนผู้ว่า BOJ ที่กล่าวว่าธนาคารกลางจะต้องเพิ่มมาตรการผ่อนคลาย ปริมาณการซื้อขายใน 3 สัญญาหลักของตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ใน 2 เดือนแรกได้เพิ่มขึ้น 24% HSBC กล่าวว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของทองเกิดจากแรงซื้อจากเฮดฟันด์และการทำ Short Covering รวมถึงความต้องการทองคำจากเอเชียตะวันออก แต่ผู้ซื้อจากอินเดียยังคงอยู่นอกตลาด แต่อาจจะเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. ในช่วงเทศการแต่งงาน แต่น่าจะยังไม่เห็นการปรับตัวขึ้นของทองคำ จนกว่าการเทขายใน ETF จะหยุดลง สัปดาห์นี้มีการประกาศตัวเลขอย่างเบาบาง แต่ตัวเลขสำคัญ คือ CPI ในวันศุกร์ ที่น่าจะทำให้ราคาเหวี่ยงได้ ตลาดกำลังจับตาที่วิกฤตด้านงบประมาณของสหรัฐ ที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของสหรัฐ รวมถึงปัญหาต่างๆในยูโรโซนเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในอิตาลี นายไรอัน ประธานด้านแผนร่างงบประมาณของรีพลับลิกันได้เผยแผนที่จะตัดลดงบประมาณปี 2014 ว่าจะตัดลด 4.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งลดการตัดลดได้ 3.4% จากที่จะต้องตัดลด 5% โดยอาจตัดประกันสุขภาพ โครงการคูปองอาหาร โครงการต่างๆ ขณะที่คงเหลืองบทางทหาร และลดอัตราภาษีของบุคคลธรรมดาและบริษัทไว้ นายโอบามากล่าวว่าพรรคเดโมแครตเปิดกว้างกับการเปลี่ยนแปลงในโครงการสวัสดิการต่างๆ เพื่อให้บรรลุข้อตกลงงบประมาณในระยะยาว แต่มีสมาชิกเดโมแครตบางส่วนไม่ต้องการให้ประกันสุขภาพและประกันสังคมถูกตัดลด นายโอบามากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ให้หนทางที่ดี โดยมีเป้าหมายการส่งออก 2 เท่าภายในปี 2014 เนื่องจากมีการข้อตกลงทางการค้าใหม่กับเอเชีย มีการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค. โดยเพิ่ม 81,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 3.69 ล้านตำแหน่ง จากเดิม 3.61 ล้านตำแหน่ง สื่อว่าตลาดแรงงานจะยังคงฟื้นตัวปีนี้ นายไมเคิล เมสเตอร์ รองผู้นำรัฐสภาของพรรคนางเมอเคลของเยอรมัน ได้ลดความกังวลในการขอความช่วยเหลือของไซปรัส และยืนกรานในเรื่องการให้ความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ ธนาคารกลางเยอรมันได้เพิ่มการเตรียมการสำหรับความเสี่ยงในปี /2012 เกือบ 2 เท่า เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายทางการเงินของอีซีบีที่ได้เพิ่มการเข้าช่วยเหลือ หลังฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีจากผลการเลือกตั้งที่ยังไม่เด็ดขาดของอิตาลี คาดว่าจะมีการปรับลดอันดับอีกในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หากอิตาลียังไม่สามารถผ่าทางตันทางการเมืองในระยะเวลาอันใกล้ จากการข่มขู่ของเกาหลีเหนือว่าอาจจะมีการโจมตีล่วงหน้าทางนิวเคลียร์ หรือที่เรียกว่า Hyperbolic ทำให้ที่ปรึกษา UN นายโดนิลอนสั่งเตรียมทหารเพื่อพร้อมกับสงคราม ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ -Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.5% - Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.5% - Import Prices m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.6% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.5% - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.8 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 2.3M - Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.9 B ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -200 B วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำมีการซื้อขายค่อนข้างนิ่งและทรงตัวอย่างมากในช่วงตลาดเอเชียเคลื่อนตัวบริเวณ 1,582 เหรียญมาโดยตลอดช่วงเช้า ราคาเริ่มมาดีดขึ้นในช้วงต้นตลาดลอนดอนประมาณเวลา 17.00 น. บ้านเรา โดยดีดขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้นไป 10 เหรียญ สามารถยืนเหนือระดับ 1,590 เหรียญขึ้นมาได้ และยังมีแรงซื้อต่อเนื่องในตลาด COMEX และผลักดันให้ราคาไปทำจุดสูงสุดโดยประมาณ 1,597 เหรียญ และกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับประมาณ 1,593 เหรียญ เมื่อวานไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ในขณะที่ SPDR ยังคงขายออกต่อเนื่องอีก 0.42 ตัน ปรับลดการถือครองมาอยู่ที่ระดับ 1,236.31 ตัน โดยที่ค่าเงินบาทเมื่อวานในช่วงเช้ามีการแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วประมาณ 13 สตางค์ จากระดับ 29.75 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 29.62 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ ซึ่งเงินบาทเมื่อวานเป็นตัวกดดันราคาทองคำในช่วงเช้าและบ่าย ราคาทองคำในรูปของเงินบาทค่อนข้างทรงตัวและนิ่ง ในขณะที่ราคาทองคำในรูปของดอลลาร์กลับวิ่งสวนทางขึ้น วันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจคาดว่าจะออกมาดีขึ้นในส่วนของทั้ง Core Retail Sales และ Retail Sales ในขณะที่ค่าเงินบาทยังทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้ระดับ 29.63 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน แต่พอจะกล่าวได้ว่าราคาทองคำน่าจะหยุดตกได้ โดยที่มีระดับ 1,550 เหรียญเป็นแนวรับสำคัญที่ผ่านมา สามารถรองรับการตกได้ ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบใหม่ระหว่าง 1,585 — 1,600 เหรียญ เป็นลักษณะของการเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways จะเห็นได้ว่าราคาในช่วงปลายตลาด COMEX มาจนถึงเช้านี้ค่อนข้างทรงตัว เคลื่อนตัวบริเวณ 1,593 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เป็นลักษณะปิดสถานะ Short ย้ำว่าให้ปิดสถานะ Short Position ซึ่งได้แจ้งมา 1 — 2 วันทำการแล้ว กลยุทธ์ยังเป็นลักษณะการเก็งกำไรอยู่ในกรอบ 1,585 — 1,600 เหรียญ ไม่เน้นในการทำ Short เน้นในการที่จะบริหารพอร์ทให้สมดุลในทิศทางSideways Upมากกว่า - นักลงทุนถือ Long Position คาดว่าจะสามารถค่อยๆ ปรับทำกำไรได้บ่างคาดว่าเงินบาทน่าจะทรงตัวได้ ในขณะที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ อย่างไรก็ดีไม่แนะนำให้ถือ Long Position มากนัก เนื่องจากเงินบาทมีโอกาสที่จะแข็งค่าได้บ้าง แนะนำให้เป็นการเก็งกำไรระยะสั้นรายวัน โดยถือ Long Position แล้วทำกำไรระยะสั้น 1 — 2 วัน -นักลงทุนที่ถือ Short Position หาจังหวะปิดสถานะ Short เพื่อเปลี่ยนทิศทางการเก็งกำไรในกรอบ Sideways Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,580 บาท Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,680 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ