กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
ดีเอชแอลย้ำแชมป์ที่ 1 ในประเทศไทย พร้อมเพิ่มเงินลงทุนมหาศาล สร้างความแข็งแกร่งการให้บริการ
ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติดส์ระดับโลก ปลื้มผลงานธุรกิจขนส่งด่วนในประเทศไทยรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา คาดสิ้นปีครองแชมป์ส่วนแบ่งสูงสุดธุรกิจขนส่งด่วนทางอากาศ โดยมีปริมาณการขนส่งด่วนเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก สูงกว่าปีที่แล้วซึ่งมีปริมาณขนส่งด่วน 3 ล้านชิปเม้นท์คาดธุรกิจในปีหน้ายังโตต่อเนื่อง ย้ำประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญที่ดีเอชแอล มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ยังถูกนำมาเป็นแก่นสำคัญแห่งแคมเปญโฆษณาล่าสุด "ไม่มีใครรู้จักเอเชีย แปซิฟิก ดีเท่าเรา" ทั่วตลาดเอเชีย แปซิฟิกอีกด้วย
นายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวย้ำว่า "ปริมาณการขนส่งด่วนและส่วนแบ่งการตลาดของดีเอชแอล เอ็กช์เพรส ในประเทศไทยยังมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากความสามารถในการให้บริการแบบครบวงจรจากผู้ให้บริการรายเดียว และมีสายผลิตภัณฑ์และบริการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ที่สมบูรณ์แบบ สามารถตอบสนองความต้องการที่สลับซับซ้อนมากขึ้นของลูกค้า"
"ดีเอชแอลได้ลงทุนทั้งสิ้นมากกว่า 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 44,000 ล้านบาท ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยการลงทุนในบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเหล่านี้ทำให้วันนี้ดีเอชแอลยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด และสามารถช่วงชิงโอกาสความได้เปรียบในตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้"
สำหรับการลงทุนครั้งสำคัญของดีเอชแอล ประเทศไทย ในปีนี้ได้แก่ การเปิดสำนักงานใหญ่ การแนะนำสุดยอดอุปกรณ์พกพาไร้สายอัจฉริยะคู่กายคูเรียร์หรือ Global Courier Real-Time Handheld Device ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ ตลอดจนการขยายศักยภาพเครือข่ายขนส่งด่วย เอเชีย แอร์ เน็ตเวิร์ก (Asian Air Network: AAN) เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการลูกค้ากว่า 30,000 ราย โดยเพิ่มเครื่องบินขนส่งของดีเอชแอลรุ่นโบอิ้ง 737-200 จำนวน 1 ลำ รองรับเส้นทางขนส่งในมาเลเซีย กรุงเทพฯ โฮจิมินห์ และล่าสุดได้นำเครื่องบินแอร์บัส A300-600F อีก 1 ลำมาเพิ่มบริการเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ และปีนัง โดยปัจจุบันเครือข่ายเอเชีย แอร์ เน็ตเวิร์ก ของดีเอชแอล ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ให้บริการครอบคลุม 25 จุดหมายปลายทางใน 16 ประเทศ ผ่านเครื่องบินดีเอชแอลโดยเฉพาะให้บริการทั้งสิ้น 40 ลำและเที่ยวบินพาณิชย์กว่า 800 เที่ยวบินต่อวัน
-ทิศทางธุรกิจดีเอชแอลปี 2548
นายเฮอร์เบิต กล่าวต่อว่า ดีเอชแอลยังคงมุ่งเจาะตลาดในภาคอุตสาหกรรมเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นเซมิคอนดัคเตอร์ ไอที และยานยนตร์ ตลอดจนการขยายฐานตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง ในการผลักดันการเติบโตของธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นที่ 1 ในธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ของดีเอชแอล ประเทศไทย ในปีหน้าดีเอชแอลจะมุ่งเน้นการแสดงความสามารถการแข่งขัน โดยนำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีและเครื่องมือบริหารซัพพลายเชนใหม่ๆ เข้ามาจัดการและสั่งการด้านการขนส่งด่วนและแบบธรรมดาที่มีปริมาณมากสามารถใช้เน็ตเวิร์กร่วมกันเพื่อการขนส่งทั้งแบบขนส่งร่วมหรือแยกส่ง
"นอกจากนี้ ดีเอชแอลจะเน้นการจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยลดต้นทุนการปฏิบัติงาน เพิ่มคุณภาพและความรวดเร็วของบริการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ ตลอดจนขยายศักยภาพเครือข่ายและเพิ่มปริมาณฝูงบินอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญที่สุด คือ ยกระดับการให้บริการส่วนหน้าที่มีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง" นายเฮอร์เบิตกล่าว
โดยในปี 2548 ดีเอชแอลจะลงทุนเพิ่มในด้านต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เช่นการอัพเกรดศูนย์บริการ 2 แห่งที่บริเวณถนนเพชรบุรีและสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งกำลังจะเปิดในปีหน้า นอกจากนี้ดีเอชแอลมีแผนเปิดศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีไอ) ที่บางพลี และเปิดศูนย์บริการใหม่อีก 2 แห่งที่แหลมฉบังและธนบุรี รวมถึงการสร้างศูนย์ควบคุมการปฏิบัติงาน (Quality Control Center) แห่งที่ 2 ที่สำนักงานใหญ่ของดีเอชแอล ซึ่งมอบการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้ดีเอชแอลสามารถบริหารงานเชิงรุก และควบคุมทุกขั้นตอนกระบวนการขนส่งชิปเม้นท์ นอกจากนี้ ดีเอชแอลจะสานต่อการพัฒนาอุปกรณ์พกพาไร้สายอัจฉริยะในช่วงเฟสที่ 2 หรือการรองรับลายเซ็นดิจิตอล ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีหน้าเช่นกัน
"กลยุทธ์ทางการตลาดของดีเอชแอลในปีหน้า จะมุ่งเน้นการเพิ่มความจงรักภักด๊ของฐานลูกค้าเดิมด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจของลูกค้าสูงสุด นั้นหมายความว่า ทีมงานของเราต้องเข้าใจธุรกิจและรู้ใจลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเราจะจัดกิจกรรมทางตลาดในรูปแบบต่างๆ สำหรับลูกค้าในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ดีเอชแอล จะมุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งครองใจลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ ด้วยการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ และการจัดกิจกรรม below-the-line ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรดโชว์ อีเว้นท์ การตลาด กิจกรรม Tie-in Activity และให้การสนับสนุนสปอนเซอร์ต่างๆ" นายเฮอร์เบิต กล่าว
แนวโน้มอุตสาหกรรมขนส่งด่วนในประเทศไทย
นายเฮอร์เบิต กล่าวต่อว่า ตลาดการขนส่งด่วนในเอเชีย แปซิฟิก ปัจจุบัน ไม่ได้เป็นแค่การขนส่งเอกสารด่วนอีกต่อไป แต่ยังครอบคลุมถึงบริการที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้นในการขนส่งด่วนเอกสาร พัสดุภัณฑ์ การขนส่งทางอากาศแบบธรรมดา และบริการด้านการบริหารซัพพลายเชนแบบครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การทำงานขนส่งด่วนแบบ Just-In-Time (JIT) หรือทำทันที เข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้น ธุรกิจขนส่งด่วนเป็นกลไกสำคัญของตลาดลอจิสติกส์ โดยเฉพาะตลาดลอจิสติกส์ชิ้นส่วนอะไหล่ที่ความเร่งด่วนของเวลาถือเป็นสิ่งสำคัญ
จะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน ตลาดขนส่งด่วนของเอเชียมีมูลค่าสูงถึง 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 72,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ดีเอชแอลนับเป็นผู้ให้บริการรายแรก ที่ปรับตัวเข้าสู่ยุคธุรกิจใหม่นี้ ด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งและพลังที่พร้อมเติบโตสูงสุด โดยรูปแบบการให้บริการขนส่งด่วนของดีเอชแอลที่ตอบสนองตลาดลอจิสติกส์จะครอบคลุมใน 3 บริการสำคัญดังนี้ ขนส่งด่วนโดยตรงจากสินค้าคลัง (Direct Express Inventory) ส่งคืนสินค้านำซ่อมในรายการสินค้าคงคลัง (Repair and Return Inventory) และยุทธศาสตร์การบริหารรายการสินค้าคงคลัง (Strategic Inventory Management)
"ด้วยปณิธานและเจตนารมณ์ของดีเอชแอล เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มมูลค่าแก่ซัพพลายเชนของลูกค้า โดยดีเอชแอลจะทำงานเป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่เข้าถึงและรู้ใจลูกค้า ตลอดจนซัพพลายเออร์ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ในฐานะผู้ให้บริการลอจิสติกส์ระดับโลกที่มีรากฐานอันแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ดีเอชแอล พร้อมที่มอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าสูงซึ่งออกแบบโดยเฉพาะสำหรับทุกสัญญาที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ และโซลูชั่นสำหรับภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้บริการคำปรึกษา การออกแบบซัพพลายเชน ไปจนถึงกระบวนการจัดเก็บงาน ลอจิสติกส์สำหรับการขาย การผลิต และการจัดการคำสั่งซื้อต่างๆ" นายเฮอร์เบิตกล่าวสรุป
ข้อมูลเพิ่มเติมดีเอชแอล
ดีเอชแอล ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษในการมอบนวัตกรรมและโซลูชั่นซึ่งได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ เพื่อสนองตอบความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าจากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งด่วน การขนส่งทางอากาศ ทางเรือ และทางบกตลอดจนโซลูชั่นด้านลอจิสติสก์ต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการทั่วทุกมุมโลก และมีความเข้าใจถึงความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศได้อย่างลึกซึ้ง โดยในปี พ.ศ.2546 ดีเอชแอลมียอดรายได้ทั้งสิ้น 22 พันล้านเหรียญยูโร หรือเกือบ 1.1 ล้านล้านบาท ปัจจุบัน ดีเอชแอลมีเครือข่ายเชื่อมโยงครอบคลุมมากกว่า 220 ประเทศ และอาณาเขตต่างๆ ทั่วโลก โดยมีบุคคลากรกว่า 160,000 คนทั่วโลก ที่พร้อมมอบบริการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ครบวงจรที่รวดเร็ว วางใจได้ และเกินความคาดหวังของลูกค้าโดยมีดอยช์ โพสท์ เวิลด์ เน็ต เป็นผู้ถือหุ้นของดีเอชแอล 100%
ดีเอชแอล ประเทศไทย ให้บริการขนส่งและลอจิสติกส์อย่างครบวงจร ด้วยศักยภาพของสามหน่วยงาน ได้แก่ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส, ดีเอชแอล ดานซาส แอร์ แอนด์ โอเชี่ยน และดีเอชแอล โซลูชั่น ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่จากการติดต่อผู้ให้บริการเพียงรายเดียว (one-stop-shop) ซึ่งรองรับการขนส่งทุกรูปแบบ ตั้งแต่เอกสารไปจนถึงตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีพนักงาน 1,100 คนให้บริการอย่างมืออาชีพ ผ่านเครือข่ายและจุดบริการ 25 แห่งที่ให้บริการครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศไทย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.dhl.co.th
ขอขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณบงกช แพบรรยง วันเพ็ญ โล่ห์เลิศพิภพ
บริษัท ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)จำกัด บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด
โทรศัพท์ 0-2345-5608 โทรศัพท์ 0-2651-8989 ต่อ 332
โทรสาร 0-2285-5531 โทรสาร 0-2651-9649-50
อีเมล์ Bongkod.Paebunyong@dhl.com อีเมล์ wanpen@prassociates.net--จบ--