กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์
สมองมีความยิ่งใหญ่เสมือนระบบจักรวาลในร่างกายมนุษย์ มีศักยภาพมากกว่าที่เราหลายๆ คนจะคาดคิด และเป็นอวัยวะที่มีการทำงานซับซ้อนและเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย ศูนย์วิจัยด้านสมองของแบรนด์ ประเทศสิงค์โปรจึงจัดโครงการมอบทุนวิจัยทางสมองขึ้น เพื่อสนับสนุนนักวิจัยที่สนใจศึกษาด้านสมอง ต่อยอดงานวิจยให้คนไทยเข้าใจและใช้สมองได้อย่างมีศักยภาพสูงสุด รวมทั้งสามารถป้องกันความเสื่อมชราของสมองก่อนวัยอันควร
ศ.เกียรติคุณ นพ.จอมจักร จันทรสกุล ประธานคณะกรรมการพิจารณาทุนวิจัยทางสมองของศูนย์วิจัยด้านสมองของแบรนด์ เปิดเผยว่า สมองเป็นอวัยวะมหัศจรรย์ที่มีความซับซ้อนมาก เพราะเป็นอวัยวะหลักที่ทำหน้าที่เสมือนห้องบัญชาการควบคุมระบบต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการที่ก่อเกิดสิ่งต่างๆ มากมายบนโลกใบนี้ โดยปกติคนส่วนใหญ่มีการใช้สมองอย่างไม่เต็มศักยภาพในการประกอบกิจกรรมต่างๆ และดำเนินชีวิตประจำวันอยู่แล้ว หากคนไทยสามารถใช้สมองอย่างเต็มศักยภาพก็จะทำให้ประเทศของเราพัฒนาไปในมิติต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้พบว่าในปัจจุบันมีโรคทางสมองต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการดำเนินชีวิตประจำวันของคนไทย เช่น โรคอัลไซเมอร์ซึ่งเป็นโรคความจำเสื่อมชนิดหนึ่ง โรคพาร์กินสันซึ่งเป็นภาวะสมองเสื่อมชนิดหนึ่ง โรคลมชัก และโรคไมเกรน เป็นต้น ที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่สมองไม่ได้รับการฝึกฝนและดูแลอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมาจะมีงานวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันโรคทางสมองต่างๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก จึงควรส่งเสริมงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพสมองเพิ่มขึ้นด้วย โครงการทุนวิจัยสมองของศูนย์วิจัยสมองแบรนด์จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการกระตุ้นเตือนให้คนไทยหันมาใช้ศักยภาพของสมองอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนนักวิจัยไทยให้มีโอกาสทำงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยเพิ่มขึ้นอีกด้านหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงอยากจะเชิญชวนนักวิจัยส่งโครงการวิจัยเข้าร่วมคัดเลือกรับทุนเพื่อเป็นส่วนเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในการช่วยพัฒนาประเทศชาติต่อไป
นายตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความตระหนักรู้ถึงบทบาทสำคัญของสมอง ในปี 2010 เพื่อเป็นการฉลองอายุครบ 175 ปี ตราแบรนด์ บริษัทเซเรบอส แปซิฟิค จำกัด ประเทศสิงค์โปร์ ได้เปิดศูนย์วิจัยด้านสมองระดับภูมิภาคชื่อว่า “BRAND’S Brain Research centre” โดยมุ่งเน้นการศึกษาด้านสมองมนุษย์เป็นหลัก เพื่อศึกษาวิจัยการทำงานของสมองโดยเฉพาะด้านการจดจำและการควบคุมสุขภาพโดยรวมของร่างกาย ในปี 2013 นี้ ทาง “BRAND’S Brain Research centre” ประเทศสิงค์โปร์ จะมอบทุนวิจัยของศูนย์วิจัยสมองแบรนด์ ให้นักวิจัยไทยเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาทต่อปี
โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยทางสมองและสาขาที่เกี่ยวข้องให้แก่ แพทย์ เภสัชกร นักโภชนาการ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการทั่วไปโดยมี ศ.เกียรติคุณ นพ.จอมจักร จันทรสกุล เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาทุนฯ ร่วมกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ศ.กิตติคุณ ภญ.ดร.ราตรี สุดทรวง รศ.ดร.นัยพินิจ คชภักดี รศ.นพ.ก้องเกียรติ กูณฑ์กันทรากร รศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ รศ.นพ.เอก หังสสูต นพ.สุชาติ หาญไชยพิบูลย์กุล ผศ.นพ.บรรพต สิทธินามสุวรรณ และผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ เป็นเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาทุนฯ
ดังนั้นจึงขอเชิญผู้สนใจส่งผลงานขอรับทุนวิจัยทางสมองของ BRAND’S Brain Research Centre ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง วันที่ 15 กันยายน 2556 นี้ ที่ประธานกรรมการโครงการทุนวิจัยทางสมองของ BRAND’S Brain Research Centre เลขที่ 140/1 อาคารเคี่ยนหงวน 2 ชั้น 15 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ 0-2650-9777 โดยดาวน์โหลดใบสมัครและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://www.brandsworld.co.th
ดร.ฟิลลิป แชง เฟย์ ผู้อำนวยการคณะนักวิจัย ศูนย์วิจัยสมองแบรนด์ ประเทศสิงค์โปร์ เปิดเผย ถึงงานวิจัยสำรวจในกลุ่มตัวอย่างครอบคลุม 8 ประเทศในทวีปเอเชีย ที่มีอายุระหว่าง 25-49 ปี ทั้งเพศชายและหญิง จำนวน 1,800 คน ในหัวข้อเรื่อง“ความตระหนักรู้ถึงภาวะความเสื่อมชราของสมอง และการหาแนวทางการป้องกันของประชาชนทั่วไป” พบว่า 3 อวัยวะสำคัญในร่างกายที่กลุ่มตัวอย่างคิดว่าต้องได้รับการดูแลและปกป้องต่อภาวะเสื่อมถอย คือ สมอง หัวใจ และกระดูก โดยกลุ่มตัวอย่างในประเทศไทยมีความกังวลเรื่องการเสื่อมถอยของสุขภาพสูงเป็นอันดับ 3 จาก 8 ประเทศ ซึ่ง “สมอง” เป็นอวัยวะที่กลุ่มตัวอย่างกังวลมากที่สุดถึงร้อยละ 82 รองลงมาคือ หัวใจ ร้อยละ 69 และ กระดูก ร้อยละ 62 ตามลำดับ ในขณะเดียวกันพบว่าประชาชนใน กลุ่มตัวอย่างก็ยังขาดความรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการปกป้องและดูแลสมอง รวมทั้งยังต้องการคำแนะนำที่เหมาะสมในการชลอภาวะเสื่อมชราของสมอง
ที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญต่อการรักษาเมื่อโรคก่อเกิดขึ้นมาแล้ว แต่มักละเลยการป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญและสูญเสียน้อยกว่าการรักษามากมายหลายเท่า ดังนั้นเราจึงควรทำความเข้าใจว่าสมองมีความต้องการ 4 อย่างเพื่อให้การทำงานเป็นปกติ ได้แก่ 1) ออกซิเจน 2) อาหารที่มีสารอาหารสมดุล 3) ข้อมูลความรู้ใหม่ๆ การฝึกคิดอย่างสร้างสรรค์และการสร้างจินตนาการในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนอยู่อย่างต่อเนื่อง 4) ความรักและความเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ ความคิด และความรู้สึก การป้องกันโรค และภาวะความเสื่อมทางสมองต่างๆ
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คุณคนึงนิตย์ คุณพิธิมา คุณวีรุตย์ โทร.0-2718-3800 ต่อ 131