กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--WeeM Communications
สสว. เล็งเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ผ่านการจัดเทศกาลประกวดเรื่องเล่าและหนังสั้น 2013 หรือ Cultural Festival Touchdown Thailand 2013 พร้อมระดมยอดฝีมือจากวงการภาพยนตร์ วิทยุ นักเขียน เป็นคณะกรรมการตัดสิน หวังใช้เป็นการสร้างช่องทางใหม่ทางการตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์
นายปิยะชนก ลิมปะพันธ์ กรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)กล่าวว่า แนวทางสำคัญหนึ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งเน้นเพื่อพัฒนาและยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้ก้าวไปสู่สากล และให้ทันกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ก็คือ การส่งเสริมให้มีการใช้ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ ผ่านสื่อสร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น การจัดเทศการการประกวดเรื่องเล่าและหนังสั้น 2013 ของ สสว. ในครั้งนี้ นอกจากจะมีส่วนสำคัญในด้านการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP รวมถึงผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีมูลค่าเพิ่มแล้ว การส่งผ่านเรื่องราวการผลิตสินค้าและบริการที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านเรื่องเล่าและหนังสั้น ยังเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ไทย ไปสู่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ
“ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในประเทศ และจากต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไม่น้อยกว่าปีละ 2,000 ล้านบาท อีกทั้งยังก่อให้เกิดการจ้างงาน และกระจายรายได้ไปสู่ธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย” นายประเสริฐ กล่าว
นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. ได้จัดเทศกาลการประกวดเรื่องเล่าและหนังสั้น 2013 หรือ Cultural Festival Touchdown Thailand 2013 ขึ้นมา ภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ของไทย สร้างโอกาสทางการตลาดผ่านสื่อเรื่องเล่าและหนังสั้น พัฒนาทักษะและความรู้ของบุคลากรในธุรกิจภาพยนตร์ แอนนิเมชั่น ให้มีประสิทธิภาพและมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน รวมถึงใช้เป็นสื่อในการสนับสนุนการแปลงมรดกทางวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดผ่านสื่อที่เป็นเรื่องเล่าและหนังสั้น
“ปัจจุบันการรับรู้ของผู้บริโภคผ่านสื่อต่างๆ นับว่ามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมาก ดังนั้นหากมีการเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตสื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการ OTOP ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงผู้ประกอบการ SMEs ที่เกี่ยวข้องหรือสนใจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และแอนนิเมชั่น ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ที่จะสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับสินค้าของตนเองผ่านสื่อทางโทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งการออกร้านแสดงสินค้าต่างๆ ก็สามารถนำสื่อหนังสั้นไปฉายเพื่อเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับสินค้าของตน หรือเรื่องเล่าที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ ที่มีช่องทางให้เผยแพร่มากมาย” นายชาวันย์ กล่าว
สำหรับการประกวดเรื่องเล่าและหนังสั้น 2013 จะแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท คือประเภทเรื่องเล่า และประเภทหนังสั้น โดยได้รับเกียรติจากผู้มีชี่อเสียงในวงการภาพยนตร์และวงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ บัณฑิต ทองดี ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ดำรัส โรจนพิเชฐ ชลิดา เอื้อบำรุงจิต ฯลฯ ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน โดยรางวัลจะแบ่งออกเป็นประเภทเรื่องเล่า จำนวน 10 รางวัล และหนังสั้น จำนวน 10 รางวัล รวมทั้งสิ้น 20 รางวัล โดยผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศทั้ง 2 ประเภท จะได้รับโล่รางวัลพร้อมประกาศนียบัตร และโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศเกาหลีใต้
“ผลงานที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายทั้ง 20 ผลงาน จะได้รับการจัดทำผลงานเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชน รวมถึงจัดทำเป็น Story Bank เพื่อรวบรวมเรื่องเล่าและหนังสั้น ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในรูปแบบของเว็บไซต์ ซึ่ง สสว. เชื่อว่า กิจกรรมการประกวดเรื่องเล่าและหนังสั้น จะมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะและความรู้ของบุคลากรในธุรกิจภาพยนตร์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ขณะเดียวกันจะเป็นช่องทางในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP จะสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้มากขึ้นผ่านเรื่องเล่าและหนังสั้น ซึ่งถือเป็นการขยายโอกาสทางการตลาดได้อีกวิธีการหนึ่ง” นายชาวันย์ กล่าว
ทั้งนี้ เทศกาลการประกวดเรื่องเล่าและหนังสั้น 2013 ถือเป็น 1 ใน 3 กิจกรรม ที่ดำเนินการภายใต้ชื่อ Cultural Festival Touchdown Thailand 2013 ซึ่งประกอบด้วย 1.กิจกรรมการจัดประกวดเรื่องเล่าและหนังสั้น 2.กิจกรรมการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ได้รับการพัฒนา รวมทั้งการส่งเสริมการตลาดโดยผ่านเรื่องเล่าและหนังสั้น ให้แพร่หลายในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ครอบคลุมพื้นที่ 5 ภูมิภาคของประเทศ และ 3.กิจกรรมการจัดงานประกาศผลการประกวดเรื่องเล่าและหนังสั้นที่ได้รับรางวัล