กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--จี-ยู ครีเอทีฟ
กระแสไหนที่ว่าแรง.. ก็คงต้องหนาวๆ ร้อนๆ ไปกับกระแสเจแปนที่กำลังจะกลับมาฟีเวอร์อีกครั้ง!! ล่าสุดกับการปลุกกระแส เจ ซีรีส์ ให้กลับมาครองใจผู้ชมในงานแถลงข่าว “เจ ซีรีส์ เฟสติวัล” (J Series Festival) เมื่อวันที่17 มีนาคมที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียร์เตอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งร่วมมือกันจัดขึ้นโดย International Drama Festival Executive Committee เพื่อให้ชาวต่างชาติหันมาดูซีรีส์ดีๆ ของญี่ปุ่นให้มากขึ้น โดยประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นประเทศแรกในการจัดงานครั้งนี้ และยังเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์ของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเตรียมนำซีรีส์ญี่ปุ่นสุดฮิตมากมายจากสถานีโทรทัศน์ยอดนิยมแดนซากุระ อย่าง NHK, NTV, TBS, Fuji TV, TV Asahi และ TV Tokyo มาลงจอจ่อคิวออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ชั้นนำของประเทศไทยทั้งฟรีทีวีและทีวีดาวเทียม ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารประเทศญี่ปุ่น
วัดง่ายๆ จากแค่วันงานแถลงข่าวเปิดตัว “เจ ซีรีส์ เฟสติวัล” (J Series Festival) ก็มีกระแสตอบรับจากพลพรรคคนรักเจซีรีส์ และสาวกเจป็อบ ร้อนแรงชนิดที่ว่ามาร่วมงานแถลงข่าวจนล้นทะลัก จนต้องจัดให้มีการถ่ายทอดสดบรรยากาศในออกมายังด้านนอกให้แฟนๆ หลายร้อยชีวิตด้านนอกสยามภาวลัยได้ติดตามกันแบบเรียลไทม์ เพราะงานนี้นอกจากจะเปิดตัวซีรีส์ที่เข้าร่วมในโครงการแล้ว ยังมีบิ๊กเซอร์ไพร้ส์ เป็นนักแสดง และศิลปินเจ ป็อบที่เดินทางมาร่วมในงานครั้งประวัติศาสตร์นี้ โดยเปิดงานอย่างสุดเก๋และไฮเทคด้วย คารุ โวคาลอยด์ (KARU VOCALOID หรือ CUL VOCALOID) อนิเม่สาวสุดน่ารัก นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่นที่นอกจากจะกล่าวต้อนรับทุกคนเข้าสู่งานอย่างเป็นทางการด้วยเพลงดอกไม้ของน้ำใจทั้งในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและไทยแทนคำขอบคุณ และยังแนะนำให้รู้จักกับดอกซากุระซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับเชิญชวนให้แฟนๆ และแขกผู้มีเกียรติใช้พัดซึ่งเป็นของที่ระลึกโบกสะบัดให้กลีบซากุระบนจอในโรงภาพยนตร์ขนาดยักษ์ปลิวลงมาเสมือนจริงสวยงามและน่าประทับใจสุดๆ
จากนั้นก็เริ่มเรียกน้ำย่อยคอซีรีส์ ด้วยพรีวิวตัวอย่างซีรีส์ 11 ฮิตหลากรสหลายอารมณ์ และล้วนแต่เป็นละครฟอร์มยักษ์ ที่เตรียมพร้อมจะออนแอร์ให้ได้ชมกันเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็น SEIGI NO MIKATA, Nobuta (หรือ Nobuta Wo Produce) Solitary Gourmet, Love Strikes! — The Series, Teppei 1990, Legal High!, RINJO : The Voice of Death, Antarctica, Cloud Above The Slope, Taira no Kiyomori, Ooku (โอโอขุ / The Inner Palace) ซึ่งแค่เห็นนักแสดงนำแต่ละเรื่องก็ส่งเสียงกรี๊ดด้วยความตื่นเต้นจนอดใจรอชมแทบไม่ไหว ที่สำคัญไม่ได้มาเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น เพราะยังมีไฮไลท์เด็ดสุดพิเศษของงานที่พาสองนักแสดงระดับซุป’ตาร์จากแดนปลาดิบตัวจริงเสียงจริงอย่างไอดอลหนุ่มเปี่ยมเสน่ห์เจ้าของรอยยิ้มที่พร้อมละลายหัวใจสาวๆ ทุกวินาทีอย่าง “จุนโนะสุเกะ ทางุจิ” (Junnosuke Taguchi) หรือ จุนโนะ หนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ระดับเทพแห่งวงการเจ ป็อปอย่างวง คัตตุน (KAT-TUN) และนักแสดงสาวสวยตลอดกาล “มิโฮ คันโนะ” (Miho Kanno) นักแสดงเปี่ยมความสามารถ ซึ่งกวาดรางวัลการแสดงมาแล้วมากมาย บินตรงมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งได้รับเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือต้อนรับอย่างท่วมท้น
งานนี้สองนักแสดงได้และมาร่วมพูดคุยบทเวทีอย่างเป็นกันเอง ทั้งในส่วนของแรงบันดาลใจและบรรยากาศในการถ่ายทำซีรีส์ของทั้งคู่ ซึ่งรวมอยู่ในโปรเจ็กต์ “เจ ซีรี่ส์ เฟสติวัล” ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น “Legal High!” ซีรีส์แนวคอมเมดี้แฝงข้อคิดทางกฎหมาย ผสมผสานความรักสุดอลวนในแวดวงทนาย โดย จุนโนะ ได้พูดถึงคาแร็คเตอร์ของตัวเองว่า ในเรื่องต้องรับบทสายลับหนุ่มลึกลับที่เข้าไปพัวพันในคดีสำคัญๆ เลยได้แต่งคอสเพลย์เพื่อเปลี่ยนลุคส์มากมาย ซึ่งหนุ่มยิ้มเสน่ห์ยังได้เล่าถึงบรรยากาศการถ่ายทำให้ฟังว่าว่า ก็จะสบายๆ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นละครแนวคอมเมดี้ ดังนั้นว่างๆ จากการถ่ายทำก็จะคุยกับเพื่อนๆ นักแสดง นอกจากนี้ จุนโนะ ยังได้บอกว่า เสน่ห์ซีรีส์ญี่ปุ่นสำหรับตัวเขานั้น เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่เกิด ได้สัมผัสมาตลอดจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย และการที่นำซีรีส์ญี่ปุ่นมาฉายที่เมืองไทยก็หวังว่าคนไทยจะได้รู้จักวัฒนธรรมของญี่ปุ่นผ่านทางละครด้วย
ด้านนักแสดงสาว มิโฮ คันโนะ ซึ่งมีละครถึงสองเรื่องรวมอยู่ในโปรเจ็กต์นี้นั่นคือ Cloud Above The Slope และ Ooku (โอโอขุ / The Inner Palace) เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของนักแสดงสาวหน้าหวานคนนี้ ที่พาผู้ชมย้อนไปสัมผัสประวัติศาสตร์ในยุคโชกุน โทะกุงะวะ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความโกรธแค้น ริษยา น้ำตา และการกลั่นแกล้งในสังคมนางสนมชั้นสูง เนื้อหาเข้มข้นบีบหัวใจคนดู และต่างก็เป็นละครแนวพีเรียดด้วยกันทั้งสองเรื่อง โดยเธอบอกว่าบรรยากาศการถ่ายทำนั้นก็สบายๆ เหมือนกับหนุ่มจุนโนะ แม้จะได้แสดงกับรุ่นพี่เยอะหลายต่อหลายคนแต่ทุกคนก็ใจดีเลยทำการทำงานราบรื่น แต่คำถามที่เด็ดที่สุดก็คือหากมีโอกาสถูกทาบทามให้มาแสดงละครที่เมืองไทยบ้าง ทั้งสองจะเซย์เยสหรือเซย์โน? ซึ่งหนุ่ม จุนโนะ รีบออกปากบอกว่ายินดี และดีใจมากที่จะได้เล่นละครในดินแดนที่มีผักชี ส่วนผสมของอาหารที่เจ้าตัวโปรดปราน ถึงขั้นตั้งชื่อในวงการละครไทยไว้ล่วงหน้าว่า “ผักชี จุนโนะสุเกะ” กันเลยทีเดียว ส่วนนักแสดงสาวรุ่นพี่อย่าง มิโฮ ก็ไม่ยอมน้อยหน้าบอกว่า ถ้างั้นก็ขอเปลี่ยนชื่อเป็น “ผัดไท มิโฮะ” บ้าง ได้ใจแฟนๆ เป็นกระบุงโกย นั่นคงเพราะทั้งสองซุป’ตาร์เคยมาเมืองไทยกันแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะสาวมิโฮมาเที่ยวเมืองไทยกับครอบครัวไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
แต่สิ่งที่ทำให้แฟนๆ ภายในงานส่งเสียงกรี๊ดกันถล่มทลายก็ตอนที่หนุ่ม จุนโนะ ฝากผลงานนั่นก็คือซีรีส์ Legal High Special ซึ่งจะฉายในวันที่ 13 เมษายนนี้ และผลงานเพลง EXPOSE ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของตัวเองกับเพื่อนๆ วง คัตตุน แถมยังออกปากว่าเห็นแฟนๆ ไปต้อนรับที่สนามบินอย่างอบอุ่นแล้วก็อยากจะมาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทยเป็นการตอบแทน แล้วแถมยังออกปากให้แฟนๆ ดีใจล่วงหนละถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย ก่อนจะตอกย้ำความรักที่มีให้แฟนๆ ภายในงานเป็นภาษาไทยอีกครั้งว่า “ผมรักทุกคนครับ”
ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตที่ก็อลังการและโดนใจสาวกเจป็อบสุดๆ กับโชว์ของศิลปินระดับคุณภาพจากทั้งสองประเทศที่จะมาครอสคัลเจอร์กันบนเวทีเดียว เริ่มจากนักร้องหนุ่มที่มีเอกลักษณ์การร้องสองเสียง ผู้สร้างสีสันให้เสียงเพลงในโลกแอนนิเมะนั่นก็คือ “ปิโกะ” (PIKO) ที่มาพร้อมกับวงดนตรีเล่นกันให้ฟังสดๆ ถึงสองเพลงอย่าง “ยูเมะฮานะ” และ “โคโตะโนะฮะ” ซึ่งเจ้าตัวยังได้นำตุ๊กตามาสคอตประจำตัวมามอบให้แฟนๆ อีกด้วย สลับด้วยการแสดงของศิลปินฝั่งไทยอย่าง เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ หรือ เก่ง The Voice ที่แม้จะเป็นนักร้องน้องใหม่หมาดๆ แต่ก็โชว์ลีลาและพลังเสียงได้อย่างกินขาดถึง 3 เพลงรวด อาทิ What my name, Ain’t no sunshine ของ Rihanna และเพลงแรกในชีวิต “ทศกัณฑ์มานะ” ที่ผสานเสียงร้องกับเสียงดนตรีไทยประยุกต์ได้อย่างลงตัว และทิ้งท้ายด้วยโชว์ของ 5 สาวเกิร์ลกรุ๊ป J-Pop ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้อย่าง “โตเกียว เกิร์ลส สไตล์” (Tokyo Girls' Style) กับการแสดงที่น่ารักสดใสแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง สมกับคอนเซ็ปต์แดนซ์โวคอลกรุ๊ปกับสองเพลงฮิต “ฟุตาริคิริ” และ “โอนาจิคิโมจิ”
ก่อนจะรูดม่านงานสุดยิ่งใหญ่ด้วยบิ๊กเซอร์ไพร้ส์หาผู้โชคดี 18 คน ซึ่งใต้เก้าอี้จะมีการ์ดติดอยู่ โดย 12 คนจะได้รับลายเซ็นต์จากศิลปิน และอีก 6 คนจะได้ขึ้นไปถ่ายรูปร่วมกันกับศิลปินทุกคน ทำเอาผู้โชคดีถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ได้กระทบไหล่นักแสดงและศิลปินในดวงใจอย่างใกล้ชิด เรียกว่าเซอร์ไพรส์และยิ่งใหญ่ตั้งแต่ต้นจนจบ โดนใจคอซีรีส์และสาวกเพลงญี่ปุ่นที่เฝ้ารอกันมานาน และก็มาลุ้นกันต่อว่าต่อจากระลอกนี้ไป “J Series Festival” จะขนละครสุดฮอตของญี่ปุ่นเรื่องไหนมาให้แฟนๆ ชาวไทยได้ติดตามอีกบ้าง งานนี้ขอฟันธงเลย คุ้มค่าสมการรอคอยจริงๆ และพูดได้เต็มปากว่าเต็มอิ่มทุกรส! ทุกอารมณ์!! หลังงานเปิดตัวครั้งนี้แฟนๆ ยังสามารถติดตามตอนต่อไปของ “เจ ซีรีส์ เฟสติวัล” (J Series Festival) ได้ทางแฟนเพจ J LOVERS Thailand http://www.facebook.com/JLovers.thailand