กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยผลสำเร็จการจัดงาน “The SET & CIMB Thailand Corporate Day” ร่วมกับ บล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ที่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียเมื่อ 12-14 มีนาคมที่ผ่านมาโดยมีกองทุนต่างชาติกว่า 120 ราย สนใจร่วมฟังข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีศักยภาพโดยมีการประชุมกว่า 117 ครั้ง
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน "The SET & CIMB Thailand Corporate Day" ณ ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย เมื่อ 12-14 มีนาคมที่ผ่านมา โดยนำบริษัทจดทะเบียนไทยรวม 13 บริษัทจาก 6 กลุ่มอุตสาหกรรม เข้าร่วมให้ข้อมูลแก่ผู้จัดการกองทุนจำนวนกว่า 162 คน จาก 120 กองทุน ซึ่งตลอดการโรดโชว์ 3 วัน มีการนำเสนอข้อมูลและการประชุมกลุ่มย่อยกว่า 117 ครั้ง “สำหรับการจัดโรดโชว์ในครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เชิญกลุ่มบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและเล็กที่มีศักยภาพเข้าร่วมงานด้วย โดยบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดเล็กที่สุดในครั้งนี้มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดตั้งแต่ 7,000 ล้านบาทขึ้นไปจนถึงบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 130,000 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดโดยรวมทั้งหมดประมาณ 530,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนให้บริษัทเหล่านี้ได้พบผู้ลงทุนต่างชาติโดยตรง ทั้งยังเป็น การนำเสนอให้ผู้ลงทุนเห็นว่าตลาดทุนไทยมีความหลากหลายของบริษัทที่มีความพร้อมในการเติบโตและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนต่างชาติได้ ไม่จำกัดเพียงหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ที่กองทุนต่างประเทศมีการลงทุนอยู่แล้วในปัจจุบัน และการที่ทำให้บริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดกลางและเล็กเริ่มเข้าไปอยู่ในสายตาการลงทุนของผู้ลงทุนต่างชาตินั้นจะช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมตลาดทุนไทยมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น " นายชนิตรกล่าว นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เสริมว่าบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมการจัดงานในครั้งนี้ ทางบริษัทคำนึงถึงกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มี business model ที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการเติบโต โดยรวมไปถึงกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดกลางและเล็ก ในกลุ่มพาณิชย์ กลุ่มโรงแรม กลุ่มการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มบริการในหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ ซึ่งตรงกับธีมจัดงานในครั้งนี้คือ “Hidden Gems”
ด้านนางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า ผู้ลงทุนชาวต่างชาติให้การตอบรับบริษัทอย่างดี โดยได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการเติบโตของบริษัท แนวทางการขยายธุรกิจ และนโยบายของบริษัทที่จะเติบโตไปพร้อมๆ กับการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย ในฐานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลกได้ ซึ่งการมานำเสนอข้อมูลของบริษัท เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลและมีความมั่นใจในการลงทุน ถือเป็นกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบริษัทที่ร่วมให้ข้อมูลในครั้งนี้รวม 13 บริษัท ได้แก่ บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) บมจ. อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) บมจ. ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) บมจ. ช.การช่าง (CK) บมจ. ไทยคม (THCOM) บมจ. สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC ) บมจ. คาร์มาร์ท (KAMART) บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) บมจ. อสมท (MCOT) และ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมกัน 529,863 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 13 มี.ค. 2556)