กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--19 มีเดีย
กลุ่มทุนอยุธยาพาร์คทุ่มทุนกว่า 1,000 ลบ. ปรับโฉมศูนย์การค้าครั้งยิ่งใหญ่รีแบรนด์เป็น “อยุธยาซิตี้พาร์ค” มุ่งเป้าเป็นศูนย์รวมของไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของภาคกลางตอนบน พร้อมตั้งเป้าโต 20 %
กลุ่มทุนใหญ่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าของ “ศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค” ฉวยจังหวะกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเขตนิคมฯ และการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ผนวกกับการเติบโตขึ้นมากของเมือง กลับมาสร้างความคึกคักให้ตลาดห้างค้าปลีกอีกครั้ง ทุ่มทุนกว่า 1,000 ล้านบาท รีแบรนด์ และปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ เพิ่มพื้นที่ขายเพื่อรองรับความต้องการของร้านค้าเพิ่มขึ้น และตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า ตั้งเป้าเป็นศูนย์รวมของไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของภาคกลางตอนบน หวังเติบโตขึ้นอีก 20%
นางปราณี ด่านชัยวิโรจน์ กรรมการอำนวยการ ผู้บริหารศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดดำเนินการมากว่า 15 ปี มีพื้นที่ให้บริการทั้งสิ้น 105,000 ตารางเมตร เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือเป็นจังหวัดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการพัฒนาสูง เมื่อมองจากผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Product : GPP) พระนครศรีอยุธยามีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเขตจังหวัดนี้ รวมถึงจังหวัดโดยรอบ เป็นกลุ่มประชากรที่มีรายได้ที่สูงกว่าที่อื่นโดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติ นิคมอุตสาหกรรมต่างๆซึ่งมีอยู่ถึง 5 นิคม คือ บางปะอิน ไฮเทค โรจนะ สหรัตนนคร แฟคตอรี่แลนด์แต่ละนิคมมีการขยายตัวตลอดเวลา การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นอาคารชุดโดยเฉพาะที่เพิ่งเปิดโครงการใหม่และมีชาวญี่ปุ่นจับจองแล้วกว่า 500 ยูนิต อาคารพาณิชย์ หมู่บ้านจัดสรร อาคารสำนักงานต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา รวมทั้งการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมในอนาคต ทางด่วนมอเตอร์เวย์ 3 สาย; อยุธยา-นครราชสีมา, อยุธยา-นครสวรรค์และอยุธยา — วงแหวนรอบ 3. รวมทั้งส่วนต่อโทล์เวย์ ช่วงรังสิต-อยุธยา การเป็นสถานีจอดรถไฟความเร็งสูง และการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจัยดังกล่าวส่งให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีศักยภาพในการพร้อมที่จะขยายการลงทุน รวมทั้งการได้ศึกษาวิจัยความต้องการของคนอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียงถึงความต้องการในเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น
จากศักยภาพ การเจริญเติบโตและปัจจัยบวกต่าง ๆ เหล่านี้ ส่งผลให้เกิดกำลังซื้อของผู้บริโภคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มมากขึ้นอีกมหาศาล และโดยเฉพาะสถานที่ตั้งของเราอยู่ติดกับศูนย์ราชการยิ่งทำให้ผู้มาใช้บริการมากขึ้นโดยอัตโนมัติ พื้นที่ให้บริการปัจจุบันของเรา เริ่มไม่เพียงพอต่อการให้บริการลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันมีร้าน Brand Name อีกจำนวนมากที่ต้องการจะมาเปิดบริการในศูนย์การค้าของเรา แต่เราไม่มีพื้นที่ว่างที่จะจัดสรรให้ได้ จึงได้มีแผนงานขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยใช้งบประมาณอีกกว่า 1,000 ล้านบาท ในการขยายพื้นที่ และปรับโฉมหน้าใหม่ให้ดูทันสมัยเพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่า ปฏิวัติใหม่หมดทั้งห้างฯ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นอยุธยาซิตี้พาร์ค
นายวีระพงษ์ ปดิฐพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอนทัวร์ จำกัด ในฐานะของบริษัทสถาปนิกผู้ออกแบบปรับโฉมอยุธยาพาร์คเป็นอยุธยาซิตี้พาร์ค กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการปรับโฉมศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์คในครั้งนี้ว่า โครงการนี้เริ่มทำงานตั้งแต่มีนาคม 2555 ด้วยการศึกษาและวิเคราะห์ร่วมกันระหว่าง คอนทัวร์ กับทีมงานอยุธยาพาร์ค ก่อนการออกแบบมีการดูศักยภาพของทำเล ศึกษาไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า และสรุปได้ว่าศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์คจะเป็นศูนย์รวมของไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของภาคกลางตอนบน เราสร้างมิติใหม่ให้กับเมืองด้วยโครงการนี้จะทำให้ชีวิตของคนอยุธยา จังหวัดใกล้เคียงมีชีวิตที่ดีขึ้น เมืองน่าอยู่ขึ้น คนอยุธยามีสถานที่รวมตัวกัน มีพื้นที่สีเขียว และมีความภูมิใจในอยุธยา จากจุดนี้เองทำให้คอนทัวร์นำเสนอการเปลี่ยนโฉมของเมือง โดยออกแบบให้อยุธยาซิตี้พาร์คเป็นมากกว่า “ประตูสู่ภาคเหนือ” และยกระดับศักยภาพสู่การเป็น “ศูนย์รวมของไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของภาคกลางตอนบน” อย่างแท้จริง
โดยแนวคิดในการออกแบบ (Conceptual Design) เป็นวรูปแบบของ Semi-Open Mall การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่าง Close mall และ Open mall ซึ่งเป็นรูปแบบศูนย์การค้าขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มี key สำคัญคือการเปลี่ยนประตูบ้านให้เป็นห้องรับแขก ต่อจากนี้คนจะมาใช้บริการได้ทั้งวัน ตั้งแต่เช้า-ดึก รวมทั้งเป็นสถานที่รับแขก นั่งเล่น พักผ่อน ให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางตอนบนทั้งหมดด้วยการเป็นศูนย์รวมของไลฟ์สไตล์และการพักผ่อน (Center of Life style & Leisure) องค์ประกอบด้านโครงการสามารถรองรับการใช้งานของคนทั้งจังหวัดได้ เช่นการจัดงาน Count down อันยิ่งใหญ่ของจังหวัด งานมอเตอร์โชว์ เป็นที่พบปะสังสรรค์กันในหมู่เพื่อนฝูง สังสรรค์เฮฮา รวมกลุ่มกันเล่นกีฬาอย่างสนุกสนาน เป็นสถานที่ของเมืองจริงๆ Refresh เมืองอยุธยาให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยการเติม function ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานในทุกพื้นที่ของโครงการ เช่นการขยายพื้นที่ความสุขของการ shopping, การ Extend อารมณ์ของความเป็น ENTERTAINMENT จากภายในสู่ภายนอก, Offer lifestyle dining ให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลาย ตอบทุกความต้องการทั้ง Family dining & Casual dining และ Bar & Brew รวมไปถึงลานกิจกรรมทั้ง สนามฟุตซอล ลาน Event ที่เป็นภาพจำใหม่ของเมืองอยุธยาที่ใช้งานได้กับทุก function เพื่อขับตอบสนอง lifestyle ของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง นอกจากนี้เรายังมีส่วนพื้นที่ที่เติมเต็มความเป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจ หรือCBD ของอยุธยาให้สมบูรณ์ด้วย Commercial shop house ที่เป็นรูปแบบของ Show room office เพื่อตอบสนองการขยายตัวของภาคธุรกิจต่างๆได้อย่างเต็มที่ ตอบโจทย์ครบทุกภาคส่วนทั้งผู้บริโภค ผู้ค้า และศูนย์การค้าฯ
นายสมพล รัชตพิมลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า อยุธยาพาร์คได้เปิดดำเนินการมากว่า 15 ปีแล้ว ทำให้เราเข้าใจในความต้องการของคนที่นี่เป็นอย่างดี มีพันธมิตรที่เป็นคู่ค้ากับเรามากมาย เช่น Tesco Lotus , Robinson Department Store โรงภาพยนตร์ที่ทันสมัย 4 โรง, IT Park ศูนย์รวมโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์, International Fast Food ชั้นนำ; Mc Donald KFC, MK, Oishi, Shabushi ฯลฯ รวมทั้งร้านค้ากว่า 400 ร้านค้า ทั้งนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การจัดคอนเสิร์ตระดับประเทศ การชกมวยชิงแชมป์ การจัดงาน OTOP การเปิดตัวสินค้าและบริการ ผู้ใช้บริการต่อวันมากที่ถึง 80,000 คน
หลังจากที่ทางคอนทัวร์ได้ออกแบบตัวโครงการอยุธยาซิตี้พาร์คแล้ว ทางอยุธยาพาร์คได้ลองนำไปทดสอบตลาดส่วนใหญ่ให้ความสนใจและผลตอบรับที่ดี ต้องการจะขยายธุรกิจเพิ่มสาขามายังอยุธยาซิตี้พาร์ค รวมทั้งผู้เช่ารายเดิมที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ในการให้บริการไม่ว่าจะเป็น International Food, Fashion, Beauty, Education และ IT ทั้งในส่วนที่เป็นClosed และOpen Mall เปิดเช้าปิดดึก ท่ามกลางความร่มรื่นและการออกแบบที่โดดเด่น ทั้งยังมี Commercial Shop House อาคารพาณิชย์ที่มีเอกลักษณ์ทันสมัย พร้อมทำ Show Room สำนักงานและอยู่อาศัย จัดสรรประโยชน์ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าเต็มที่ รวมทั้งสนามฟุตซอลมาตรฐาน 3 สนาม เพื่อเติมเต็มความเป็นศูนย์รวมของไลฟ์สไตล์และการพักผ่อน แหล่งนัดพบแห่งใหม่ของชาวอยุธยาและใกล้เคียง นอกจากนี้ มีConvention Hall พื้นที่ กว่า 2,000 ตารางเมตร พื้นที่ให้บริการทั้งโครงการเพิ่มเป็น 145,000 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถได้มากกว่า 2,500 คัน กำหนดการเปิดดำเนินการ เดือน มีนาคม 2557 ร้านค้าต่างๆที่สนใจ ก็ต้องรีบเข้ามาจับจองพื้นที่ ตั้งแต่วันนี้ เพราะพื้นที่มีจำนวนจำกัด” ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวในที่สุด