กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--IR PLUS
L&E เผยแนวโน้มผลงาน Q1/56 ใกล้เคียงปีก่อน จากถูกเลื่อนรับรู้รายได้งานมูลค่าประมาณ 50 ลบ. ซึ่งเป็นงานก่อสร้างอาคารภาครัฐ และงานจอ LED ของลูกค้าภาคเอกชนที่แล้วเสร็จล่าช้า ไปรับรู้รายได้ในช่วง Q2/56 และ Q3/56 แทน ส่งผลให้รายได้ Q2 ดีกว่า Q1 แม่ทัพใหญ่ “ปกรณ์ บริมาสพร” มองแนวโน้มเทคโนโลยี LED ปีนี้มาแรง หลังผู้บริโภคใส่ใจการประหยัดพลังงาน และรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงปรับเพิ่มสัดส่วนรายได้ LED ของบริษัทฯ เป็นกว่า 20% จากปีก่อนมีสัดส่วนรายได้ LED อยู่ที่ 14% และยังเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันเป้าหมายรายได้จากการขายปีนี้ให้เติบโตอีก 15-20% ได้สำเร็จ
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน กล่าวถึง แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 1/2556 ของบริษัทฯ จะมีรายได้จากการขายใกล้เคียงกับปีก่อนหรืออาจลดลงเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทฯ ถูกเลื่อนรับรู้รายได้งานโครงการมูลค่า 50 ล้านบาทไปรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/2556 และไตรมาส 3/2556 โดยมีสาเหตุมาจากงานก่อสร้างซึ่งเป็นอาคารของภาครัฐบาลส่วนหนึ่ง และงานเกี่ยวกับจอ LED ที่ใช้ในงานมีเดียของลูกค้าแล้วเสร็จล่าช้า ทั้งนี้คาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/56 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/56 จากการรับรู้รายได้จากงานที่ล่าช้าและจะรับรู้ในไตรมาส 2/56 บางส่วน
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจบริษัทฯ ในปี2556 จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เพราะแนวโน้มเทคโนโลยีหลอดไฟ LED ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ทางด้านแสงสว่างที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้นและในอนาคตแนวโน้มราคาหลอด LED จะปรับลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ LED ทั้งในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียนให้มีการเติบโต และมียอดขายเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยมองว่าการเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้จะมาจากเทคโนโลยี LED เป็นพิเศษ โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ LED ปีนี้จะเพิ่มเป็นกว่า 20% จากปีก่อนมีสัดส่วนรายได้ของ LED อยู่ที่ 14% สนับสนุนให้เป้าหมายรายได้จากการขายของบริษัทฯ ปีนี้เติบโต 15 — 20% จากปีก่อนมีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 2,260 ล้านบาท ได้สำเร็จ
“บริษัทฯ มีงานบางส่วนที่ถูกเลื่อนรับรู้รายได้จาก Q1/56 ไปรับรู้รายได้ในช่วง Q2/56 และ Q3/56 แทนนั้น ส่งผลให้แนวโน้มผลงาน Q1/56 ของบริษัทฯ อาจใกล้เคียงปีก่อนหรือลดลงเล็กน้อยไม่มีนัยสำคัญอะไร แต่ Q2/56 ผลประกอบการจะดีกว่า Q1/56 เพราะเริ่มรับรู้รายได้จากงานที่ล่าช้า รวมทั้งบริษัทฯ ยังได้รับงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เทรนด์เทคโนโลยีหลอดไฟ LED เป็นวัตกรรมใหม่ทางด้านแสงสว่างที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกำลังมาแรง โดยเห็นการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค รวมไปถึงองค์กรขนาดใหญ่หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เข้ามาให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะโครงการเปลี่ยนหลอดไฟแบบเดิมๆ มาใช้หลอด LED ที่ประหยัดพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ LED ทั้งในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียนให้มีการเติบโต และมียอดขายเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากบริษัทฯ มีโรงงานผลิตหลอด LED ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2553 มีทั้งเทคโนโลยี และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่พัฒนาสินค้า LED ของบริษัทฯ ลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับได้ทุกความต้องการของลูกค้า จึงมองว่าการเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้ จะมาจากเทคโนโลยีหลอด LED เป็นพิเศษ” นายปกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการขยายตลาดค้าส่ง ค้าปลีก และลูกค้าองค์กรอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีโชว์รูมร้านค้าปลีกอยู่ทั้งสิ้น 3 สาขา ได้แก่ โชว์รูมบนถนนย่านรัชดาภิเษก, บุญถาวรเกษตร- นวมินทร์ และบุญถาวร พระราม 2 โดยในปีนี้อยู่ระหว่างหาสถานที่เหมาะสม เพื่อเปิดโชว์รูมเพิ่มอีกราว 1-2 สาขา เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้า และเพิ่มยอดขายค้าปลีกให้มากยิ่งขึ้น
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ IR PLUS
คุณสารภี สายะเวส (จูน)
โทรศัพท์ : 02 — 541 — 4011 ต่อ 610 อีเมล์ : sarapee@irplus.in.th
คุณพรทิวา พูนคำ (ข้าว)
โทรศัพท์ : 02-541-4011 ต่อ 615 อีเมล์ : Porntiwa@irplus.in.th