หลักทรัพย์ธนชาติ คว้ารางวัล “บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศที่ดีที่สุดที่มีคะแนนสะสมสูงสุดในรอบ 14 ปี” จากนิตยสารเอเชียมันนี่

ข่าวทั่วไป Monday December 20, 2004 14:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--บมจ.หลักทรัพย์ ธนชาติ
บมจ.หลักทรัพย์ ธนชาติ ได้รับการคัดเลือกจากนิตยสารเอเชียมันนี่นิตยสารการเงินชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ให้เป็น “บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศที่ดีที่สุดที่มีคะแนนสะสมสูงสุดในรอบ 14 ปี (Best Local Brokerage in Thailand Over the Last 14 Years)” โดยเอเชียมันนี่ได้นับคะแนนสะสมของบริษัทหลักทรัพย์ที่เคยได้รับรางวัล Best Local Brokerage ตั้งแต่ปี 2533 - 2546 ซึ่งพบว่าหลักทรัพย์ธนชาติ ได้คะแนนสะสมสูงสุดจึงได้รับรางวัลดังกล่าว
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นิตยสารเอเชียมันนี่นิตยสารการเงินชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคซึ่งเป็นที่ยอมรับในแวดวงตลาดทุนในระดับภูมิภาค ได้ทำการคัดเลือกให้บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ ได้รับรางวัล “บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศที่ดีที่สุดที่มีคะแนนสะสมสูงสุดในรอบ 14 ปี (Best Local Brokerage in Thailand Over the Last 14 Years)” ซึ่งรางวัลดังกล่าวได้รับการประกาศในงาน The Annual Asia Money Brokers Poll Awards ที่ฮ่องกง โดยการจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปี ของนิตยสารเอเชียมันนี่ ซึ่งทางนิตยสารได้ทำการสำรวจคะแนนสะสม Brokers Poll of Polls จากบริษัทหลักทรัพย์ที่เคยได้รับรางวัล Best Local Brokerage ในแต่ละปี ตั้งแต่ปี 2533 — 2546 และพบว่าหลักทรัพย์ธนชาติ ได้คะแนนสะสมสูงสุดจึงได้รับรางวัลดังกล่าว
ทั้งนี้นิตยสารเอเชียมันนี่ ได้จัดทำโพลเพื่อสำรวจบริษัทหลักทรัพย์ และบทวิเคราะห์หลักทรัพย์โดยได้ใช้วิธีการสำรวจจากนักลงทุนสถาบันต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค เป็นประจำทุกปี ซึ่งในปี 2545 บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ เคยได้รับรางวัล Best Local Brokerage in Thailand
บมจ.บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ ปัจจุบันมีสำนักงานสาขาทั้งสิ้น 18 สาขา และมีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นให้ครบ 30 สาขาในปี 2548 พร้อมทั้งมีแผนที่จะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาส 1 ของปี 2548 เช่นกัน
นอกจากนี้ในปี 2548 บริษัทฯ ยังมี Deal ที่ได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในส่วนของรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนชั้นนำอีกหลายบริษัท โดยคาดว่าภายในปี 2548 จะมีหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มากกว่า 10 บริษัท --จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ