กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--เดอะ ทรีด้อม กรุ๊ป
ทรีด้อม กรุ๊ป เปิดร้านค้าปลีกแห่งแรกในไทย ที่นานาสแควร์ ภายใต้แบรนด์ “ดาร์ อัล อูด” (Dar al Oud) วางจำหน่ายน้ำมันกฤษณาเกรดพรีเมี่ยมบริสุทธิ์ 100% ผลิตภัณฑ์กลิ่นน้ำมันกฤษณา ทั้งบอดี้บัตเตอร์ โลชั่นทาผิว เจลอาบน้ำ ธูปหอมกฤษณา และผลิตภัณฑ์จากไม้กฤษณา ทั้งชิ้นไม้ ท่อนไม้แกะสลัก และสร้อยคอ
ดร.แอนดรูว สตีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทในเครือทรีด้อมกรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันกฤษณาชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้ารุกตลาดค้าปลีก โดยเปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่สวยหรูภายใต้แบรนด์ ‘ดาร์ อัล อูด’ ย่านนานา กับแนวคิด ‘Ultimate Oud Selection’ ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์น้ำมันกฤษณาคุณภาพระดับสากล
ดร. แอนดรูว กล่าวว่า จากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันกฤษณามากว่า 8 ปี รวมถึงแนวโน้มทางธุรกิจค้าปลีกของตลาดน้ำมันกฤษณาที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทได้วางกลยุทธ์ในการรุกตลาดค้าปลีก โดยเฉพาะน้ำมันกฤษณา และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากน้ำมันกฤษณา ด้วยการเปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำมันกฤษณาของบริษัทสาขาแรกที่ศูนย์การค้านานาสแควร์ หัวมุมสุขุมวิท ซอย 3 ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2-05 โดยที่ผ่านมาบริษัทลงทุนเพิ่มประมาณ 25 ล้านบาท ในการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการผลิตสินค้าจากน้ำมันกฤษณาและไม้กฤษณา ภายใต้แบรนด์ ดาร์ อัล อูด (Dar al Oud) ซึ่งประกอบด้วยน้ำมันกฤษณาเกรดพรีเมี่ยม รวมทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มบอดี้แคร์ อาทิเช่น บอดี้บัตเตอร์ โลชั่นทาผิว เจลอาบน้ำ ธูปหอมกฤษณา เน้นเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวอาหรับที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีมากกว่า 600,000 คนในปี 2555 ที่ผ่านมา (ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการตลาดขึ้นเป็น 12-15% จากเดิม 7% ในปีก่อน โดยมีเป้ายอดขาย 10 ล้านบาทต่อปีในสาขาแรก
นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเปิดร้านเพิ่มเติมในต่างประเทศ พร้อมร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกในตะวันออกกลาง อาทิ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต และบาห์เรน ในการกระจายสินค้าให้มากที่สุด โดยตั้งเป้าไว้ไม่น้อยกว่า 50 แห่ง โดยกลิ่นของน้ำมันกฤษณา เป็นที่นิยมอย่างมากของคนในศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง เนื่องจากถือเป็นการสะท้อนไลฟ์สไตล์ และแสดงสถานภาพทางสังคม
“ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้บุกเบิกในไทยที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันกฤษณาเกรดพรีเมี่ยม ที่ควบคุมมาตรฐานการผลิตทุกขั้นตอนตั้งแต่การเพาะกล้า การปลูก การกลั่น ซึ่งทั่วโลกมีเพียงไม่กี่บริษัทที่ทำได้ และเป็นผู้จัดจำหน่ายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมากลุ่มบริษัทมียอดขาย 223 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 68% และคาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 484 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อนหน้า 117%” ดร.แอนดรูว กล่าว