กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--กรีนพีซ
“กรีนพีซ” ปีนผาหาดไร่เลย์ รณรงค์ “หยุดถ่านหิน” หวั่นส่งผลกระทบมหาศาล ย้ำถ่านหินไม่ใช่คำตอบ แนะรัฐเดินหน้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานอย่างยั่งยืน
นางสาวจริยา เสนพงศ์ ผู้ประสานงานด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้สัมภาษณ์ว่า การทำกิจกรรมของกรีนพีซโดยการปีนหน้าผาที่หาดไร่เลย์ที่กระบี่ครั้งนี้ เพื่อเป็นการสื่อสารกับโดยตรงกับสาธารณะโดยเฉพาะรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องยุติโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะถ่านหินไม่ใช่คำตอบของการจัดวิกฤตพลังงานในปัจจุบัน ดังนั้นรัฐบาลควรจะเปลี่ยนนโยบายมาสนับสนุนพลังงานทางเลือกที่สะอาด ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานไฟฟ้าของประเทศอย่างยั่งยืนมากกว่า
"โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน 800 เมกะวัตต์ที่รัฐบาลมีแผนจะสร้างกระบี่ทำให้ประเทศไทยต้องแลกกับการสูญเสียจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับระบบนิเวศอย่างมหาศาลไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิถีชีวิตชุมชนและการท่องเที่ยวซึ่งกระบี่มีสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลกที่สร้างรายได้ให้กับประเทศปีละกว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งมลพิษจากโรงไฟฟ้าถ่านหินจะส่งผลต่อความอุดมสมบูรณ์ของผืนหญ้าทะเลอันดับ 2ของประเทศ จำนวน17,725 ไร่ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพะยูนซึ่งกำลังใกล้จะสูญพันธุ์ที่บริเวณเกาะศรีบอยา อีกทั้งเส้นทางขนส่งถ่านหินทางทะเลกว่า 79 กิโลเมตรที่เข้าสู่โรงไฟฟ้าถ่านหินก็ยังซ้อนทับกับแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของกระบี่ เช่น เกาะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เกาะพีพี หาดไร่เลย์ อีกด้วย ” นางสาวจริยา กล่าว
ผู้ประสานงานด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพฯ กล่าวต่อว่า หนทางหยุดวิกฤตพลังงานสามารถทำได้โดยรัฐบาลต้องเดินหน้าแผนอนุรักษ์พลังงาน 20ปีและแผนพลังงานหมุนเวียน 10 ปี ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยหยุดการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินได้ทั้งหมดและมีไฟฟ้าใช้เพียงพอและอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ รัฐบาลยังต้องจัดการกับการทับซ้อนผลประโยชน์ การคอรัปชั่น ของอุตสาหกรรมพลังงานสกปรกที่เอื้อให้นักการเมือง ข้าราชการประจำและผู้กำหนดนโยบายพลังงานได้รับประโยชน์ แต่ผลกระทบกลับตกอยู่กับประชาชนมาอย่างยาวนานด้วย
ทั้งนี้ในวันพุธที่ 27 มีนาคม 2556 เวลา 12.00 — 18.30 น. ประชาชนในพื้นที่และกรีนพีซเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ และหน่วยงานที่ขับเคลื่อนเรื่องวิกฤตพลังงานที่เกี่ยวข้อง จะเปิดเวทีเสวนาครั้งแรกที่กระบี่ เรื่อง “วิกฤตการจัดการพลังงานในประเทศไทย และโครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่” โดยมีผู้เข้าร่วมคือ ผู้ใหญ่สมศักดิ์ นบนอบ ตัวแทนชาวบ้านรอบโรงไฟฟ้าถ่านหิน, นายต้อเหตุ คลองยวน ตัวแทนประมงพื้นบ้าน นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา อนุกรรมการกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่อง การทุจริตและเสริมสร้างธรรมมาภิบาล วุฒิสภา นางสมพร เพ็งค่ำ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการพัฒนาระบบและกลไกการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการรณรงค์กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจารย์ประสาท มีแต้ม อนุกรรมการสิทธิชุมชน ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยนชนแห่งชาติ และ นายศุภกิจ นันทะวรการ นักวิจัยมูลนิธินโยบายสุขภาวะ และจะมีการเปิดตัวแผนที่เส้นทางถ่านหินกระบี่และแผนที่พลังงานหมุนเวียนกระบี่