กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--มายแบรนด์ เอเจนซี่
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบรางวัลการประกวดแผนธุรกิจ โครงการ กรุงไทย ยุววาณิช ปีที่ 11 ประจำปี 2555 โดยโรงเรียนที่มีผลงานโดนใจกรรมการ คว้ารางวัลชนะเลิศ นับเป็นสุดยอดยุววาณิช ที่เก่งทั้งทำการค้า มีคุณธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม คือ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี คว้าทุนการศึกษา 390,000 บาท ขณะที่ โรงเรียนแม่เจดีย์วิทยาคม จ.เชียงราย และโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา นครปฐม ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 พร้อมดูงานต่างประเทศ
โครงการกรุงไทย ยุววาณิช ที่ธนาคารกรุงไทยจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 เพื่อจุดประกายและสร้างเยาวชนที่มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมตามแนวคิดทุนทางปัญญาไม่มีวันหมด โดยเน้นให้เยาวชนในระดับมัธยมศึกษาและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ได้มีเวทีในการฝึกปฏิบัติการดำเนินธุรกิจ มีความสนใจและตื่นตัวที่จะใช้ความคิด ความรู้ที่มีอยู่ประกอบกับการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม แล้วนำมาปฏิบัติจริงให้เป็นรูปธรรม มีการจัดตั้งบริษัทจำลอง เพื่อผลิตสินค้าและบริการจริง โดยมีสาขาของธนาคารเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งในปีนี้มีทีมที่สนใจส่งโครงงานเข้าประกวดมากถึง 715 สถาบัน หรือ 258 ทีม และได้คัดเลือกให้เหลือ 10 ทีม และตัดสินรอบสุดท้าย
สำหรับผลการตัดสิน โครงการกรุงไทยยุววาณิช ประจำปี 2555 คือ
- รางวัลชนะเลิศ รับทุนการศึกษา 390,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร ได้แก่
1. บริษัท พันธ์ R...ตะวันใหม่ จาก วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "คันธารราฐโคมไฟจากหญ้าแฝก" โดยการนำเอาขยะหญ้าแฝกมาตากแห้งแล้วขึ้นรูปเป็นเศียรพระพุทธรูป และลวดลายต่างๆ เป็นโคมไฟสุดเก๋ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหญ้าแฝกที่นอกจากจะเป็นหญ้าที่มีประโยชน์ในการป้องกันหน้าดินพังทลายแล้ว ยังกลายเป็นโคมไฟได้อีกด้วย ที่สำคัญได้ต่อยอดภูมิปัญญาด้านหัตถกรรมและช่วยสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทุนการศึกษา 350,000 บาท มี 2 รางวัล ได้แก่
1.บริษัท Kalong Clothing Design โรงเรียนแม่เจดีย์วิทยาคม จ.เชียงราย ผลิตและจำหน่ายสินค้าลวดลายเวียงกาหลง อาทิเช่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายลวดลายเวียงกาหลง ที่มีเอกลักษณ์ โดยการปักด้วยมือ ปักด้วยจักร การเพ้นท์ สกรีน
2. บริษัท Gift Roses จำกัด โรงเรียนศรีวิชัยวิทยา จ.นครปฐม ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่นำขนมปังที่เหลือจากการจำหน่ายในโรงงาน มาปั้นเป็นรูปกุหลาบ มาประกอบเป็นเครื่องประดับต่างๆ เช่น กิ๊บติดผม กระเป๋า รองเท้า และหมวก
- สำหรับรางวัลชมเชย 7 รางวัล รางวัลละ 85,000 บาท ได้แก่
1. โรงเรียนสหวิทย์บริหารธุรกิจ จ.สุพรรณบุรี
2. โรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี จ.เพชรบุรี
3. วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี จ.ราชบุรี
4. วิทยาลัยการอาชีพนครนายก จ.นครนายก
5. วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อีเทค) จ.ชลบุรี
6. วิทยาลัยการอาชีพนางรอง จ.บุรีรัมย์
7. โรงเรียนทับปุดวิทยา จ.พังงา
และในปีนี้มีรางวัลพิเศษ 2 รางวัล คือ รางวัลการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และซื่อสัตย์สุจริต รางวัลละ 30,000 บาท จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ โรงเรียนแม่เจดีย์วิทยาคม จ.เชียงราย และ วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี
ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า โครงการกรุงไทยยุววาณิช เป็นโครงการที่ธนาคารกรุงไทยให้เยาวชนได้ประกอบธุรกิจจริง เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ คือ เยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในการเข้าร่วมโครงการนั้นผู้สมัครจะต้องมีการจดทะเบียนในรูปของบริษัทจำลองโดยขึ้นทะเบียนกับทาง บมจ.ธนาคารกรุงไทย รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารบริษัท เพื่อบริหารงานด้านต่างๆ โครงการนี้ไม่ได้บรรจุไว้ในหลักสูตรตำราเรียน เยาวชนต้องนำความคิด ความรู้ที่มีอยู่ประกอบกับการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม แล้วนำมาปฏิบัติจริงให้เป็นรูปธรรม เยาวชนจะต้องมีการผลิตสินค้า/บริการจริง ซึ่งเยาวชนสามารถดำเนินธุรกิจภายใต้สภาพแวดล้อมที่ให้การสนับสนุนจากโครงการฯ ระดับหนึ่ง นอกจากนี้โครงการยังให้โอกาสที่ดีในการสร้างความฝันของเยาวชนให้เป็นจริง พัฒนาจุดแข็งของตนเอง สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี เพื่อให้การดำเนินงานสามารถบรรลุเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้คือ เพื่อปลูกฝังความเข้าใจในหลักการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อช่วยเหลือสังคมในการวางรากฐานเกี่ยวกับการประกอบการที่ดีให้กับเยาวชน และเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ค้นพบอีกทางเลือกหนึ่งในการดำเนินชีวิต ที่มิใช่เพียงการศึกษาเพียงอย่างเดียว สมกับที่เป็น “กรุงไทยยุวาณิช ชีวิตที่เลือกได้ ใส่ใจต่อสังคม”
“โครงการกรุงไทยยุววาณิชมีจุดเด่นคือการสนับสนุนให้เยาวชนได้ประกอบธุรกิจจริง และภายในโครงการทุกโรงเรียนจะต้องแบ่งงบประมาณหรือผลกำไรไปทำกิจกรรมทางสังคมด้วย นอกจากนี้กิจกรรมที่นักเรียนทำยังสามารถต่อยอดได้จริง โดยธนาคารจะช่วยบ่มเพาะหลักการทำธุรกิจให้เยาวชนทุกอย่าง เด็กๆจะรู้ทุกขั้นตอนของการทำธุรกิจ รวมทั้งการทำงานเป็นทีม ที่จะต้องมีการแบ่งหน้าที่กัน ซึ่งเยาวชนสามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในอนาคตเมื่อจบการศึกษามา อยากทำธุรกิจก็สามารถทำได้เลย”
ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สิ่งที่ประทับใจและน่าชื่นชม คือนักเรียนสามารถนำความคิดทันสมัยของพวกเขามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าต่อทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งสินค้าที่เด็กๆ นักเรียนได้ทำสะท้อนให้เห็นถึงความหวงแหน และเห็นคุณค่าภูมิปัญญาของไทยมากขึ้น โดยรู้จักนำภูมิปัญญาในท้องถิ่นมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีราคาได้ นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความห่วงใยในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบชุมชนเขา โดยรู้จักเอาของเหลือใช้มาแปรรูปเป็นสินค้า
“ขอให้ทุกภาคส่วนได้ช่วยกันส่งเสริมกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้แสดงออกถึงความสามารถและศักยภาพ ทั้งนี้กิจกรรมที่ธนาคารกรุงไทยทำที่ผ่านมาตลอด 11 ปี ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่าเด็กและเยาวชนเหล่านั้นต่างมีศักยภาพ”
โครงการกรุงไทย ยุววาณิช เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้านการศึกษา ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งมุ่งเสริมสร้างทุนทางปัญญาให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสายสามัญและสายอาชีพ เพื่อเรียนรู้การทำธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส ซึ่งผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.youngenterprise.ktb.co.th หรือสอบถามโทร.0-2208-8674-6
ติดต่อ:
ธนาคารกรุงไทย 0-2208-8674-6