กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เตรียมให้บริการการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์แบบทีละรายการ (Gross Settlement) เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว และประสิทธิภาพบริการงานหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ สำหรับรายการซื้อขายประเภทรายใหญ่ หรือ Big Lot และเพื่อรองรับงานของศูนย์รับฝากฯ ในฐานะศูนย์กลางของระบบงานหลังการซื้อขายของตราสารทุกประเภท เริ่มใช้ 15 ก.ค. นี้
นางนงราม วงษ์วานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาระบบงานชำระและส่งมอบหลักทรัพย์ แบบทีละรายการ (Gross Settlement) โดยการชำระราคาจะทำผ่านระบบบาทเนต (Bahtnet) ของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธนาคารพาณิชย์ ส่วนการส่งมอบตราสารจะกระทำผ่านระบบรับฝากของบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2548 นี้”
การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์แบบทีละรายการ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของสมาชิก (โบรกเกอร์ ) รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ของอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ให้เป็นมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมการเพื่อรองรับการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรับฝาก และชำระราคาและส่งมอบของหลักทรัพย์ ทุกประเภท ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้วย
ปัจจุบัน ระบบการชำระราคาและส่งมอบซึ่งจะทำในวันที่ 3 หรือ T+3 หลังจากการซื้อขายสำหรับตราสารทุน และในวันที่ 2 หรือ T+2 หลังจากการซื้อขายสำหรับตราสารหนี้ ใช้ระบบยอดสุทธิ (Netting) โดยรวมยอดรายการของตราสารทุนและตราสารหนี้เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะตราสารหนี้ซึ่งมักจะมีมูลค่าการซื้อขายต่อรายการที่ค่อนข้างสูง เมื่อนำมาคำนวณรวมกับตราสารทุนแล้ว อาจทำให้สมาชิกของสำนักหักบัญชี (โบรกเกอร์ ) มีภาระในการวางหลักประกันในจำนวนที่สูง
ดังนั้น เพื่อลดภาระในการวางหลักประกันของสมาชิก และการบริหารจัดการความเสี่ยงของการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการแยกรายการซื้อขายที่มีมูลค่าสูงออกมาเพื่อทำการชำระราคาและส่งมอบต่างหากทีละรายการ จะช่วยแก้ปัญหาการหาเงินมาวางหลักประกันในมูลค่าที่สูงได้
การชำระราคาแบบทีละรายการ สมาชิกหรือโบรกเกอร์จะต้องส่งคำสั่งซื้อขายแบบตกลงรายการซื้อขายกันล่วงหน้าก่อนที่จะป้อนรายการซื้อขายเข้าระบบ หรือที่เรียกว่า Put-through เท่านั้น โดยกำหนดมูลค่าขั้นต่ำของหุ้นที่ 1 ล้านหุ้น หรือ 3 ล้านบาท ส่วนตราสารหนี้กำหนดที่ 10,000 หน่วย หรือ 10 ล้านบาท
Gross Settlement เพิ่มทางเลือกให้สมาชิกสามารถกำหนดวันชำระราคาและส่งมอบได้เร็วขึ้น (T+3 สำหรับหุ้น และ T+2 สำหรับตราสารหนี้)
ทั้งนี้ สมาชิกสำนักหักบัญชีที่ประสงค์จะทำการการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์แบบ Gross Settlement จะทำการตกลงซื้อขายกันเอง โดยบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ จะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในการโอนและรับโอนเงินและตราสารให้แก่สมาชิกคู่กรณีเท่านั้น โดยจะไม่เข้าเป็นคู่สัญญาและรับประกันด้วย ยกเว้น รายการตราสารหนี้ภาครัฐที่ซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ BEX ที่เป็นลักษณะจับคู่อัตโนมัติ (AOM) ซึ่งสมาชิกจะไม่ทราบคู่กรณี ทางบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ จะยังคงเป็นคู่สัญญาและรับประกันให้อยู่
ทั้งนี้ ขั้นตอนการชำระราคา จะทำผ่านระบบบาทเนต หรือ Bahtnet ของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธนาคารพาณิชย์ ส่วนขั้นตอนการส่งมอบตราสารจะทำผ่านระบบรับฝากของบริษัทศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ฯ
อย่างไรก็ตาม การชำระราคาแบบทีละรายการนี้เป็นเพียงการเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านสมาชิก ซึ่งทางสำนักหักบัญชีจะดำเนินการให้เฉพาะรายการที่ท่านสมาชิกมีความประสงค์เท่านั้น มิได้เป็นเกณฑ์บังคับ ยกเว้นกรณีการซื้อขายตราสารหนี้ภาครัฐเท่านั้น
การให้บริการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์แบบทีละรายการ Gross Settlement จะให้บริการสำหรับธุรกรรมการซื้อขายของประเภทตราสารต่างๆ ได้แก่ การซื้อขายที่เกิดขึ้นในตลาดตราสารหนี้ (BEX) รวมถึงระบบการซื้อขายตราสารหนี้อิเล็คทรอนิกส์ (Electronic Trading Platform: ETP) ที่จะมีในอนาคตด้วย
ผู้ลงทุนหรือผู้สนใจที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.tsd.co.th หรือสอบถามได้ที่ TSD Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 0 22229 2888 หรืออีเมล์ contact.tsd@set.or.th
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049--จบ--