กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส
เปิดตัวคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) และจีทีซี (GTC) รุ่นเครื่องยนต์ V8 อย่างเป็นทางการที่งาน North American International Auto Show ดีทร้อยต์ (มกราคม 2012)
อัตราส่วนของพละกำลังต่ออัตราส่วนของการปล่อยมลพิษนั้นเหนือชั้น เครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตรแบบ twin-turbo V8 คงไว้ซึ่งความทรงพลังตามรูปแบบคลาสสิคของเบนท์ลี่ย์ทุกประการ
ระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงอีกด้วยเช่นกัน
เทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ ได้ถูกรวบรวมไว้ในรถคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงอย่างระบบ direct injection, ระบบจัดการลูกสูบแบบแปรผันอย่าง Variable Displacement และระบบส่งกำลังใหม่ล่าสุดแบบ 8 จังหวะ พร้อมด้วยการขับเคลื่อนสี่ล้อ
คอนติเนนทัล (Continental) แบบเครื่องยนต์ V8 คันนี้ออกมาเคียงข้างรุ่น 6.0 ลิตร เครื่องยนต์ W12 GT และ GTC
เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล (Continental) เครื่องยนต์ V8 ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ North American International Auto Show ในเมืองดีทรอยต์ วันที่ 9 มกราคม 2012 ที่ผ่านมา
ทั้งคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) คูเป้ และ จีทีซี (GTC) เปิดประทุนมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร twin turbocharged V8 และมีความสมดุลระหว่างพละกำลังเครื่องยนต์ต่อมลพิษที่เหนือชั้นในคลาสรถสปอร์ตชั้นหรูระดับพรีเมี่ยมอีกด้วย
เครื่องยนต์ V8 จากเบนท์ลี่ย์ใหม่ล่าสุดนี้มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 500 แรงม้า (507PS/373 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 660 นิวตันเมตร (487 lb ft) ที่ระหว่างรอบเครื่องยนต์ 1,700 ถึง 5,000 รอบ/นาที ถือได้ว่าเป็นรถที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและมีพละกำลังที่เหนือชั้นตามแบบฉบับของเบนท์ลี่ย์ทุกประการ เสริมด้วยระบบส่งกำลังหรือระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ทำการปรับเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วขึ้น ทำให้รถคันนี้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 5 วินาทีกว่าๆ เท่านั้น อีกทั้งยังมีความเร็วสูงสุดที่ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน คอนติเนนทัล (Continental) เครื่องยนต์ V8 คันนี้มีอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม และยังมีการปล่อยมลพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำลงอีกด้วย หากเปรียบเทียบกับรถคันอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังรถเบนท์ลี่ย์เครื่องยนต์ V8 คันนี้จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว สำหรับข้อมูลและอัตราต่างๆ จะถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการต่อไป
ด้วยเครื่องยนต์ในรูปแบบ V8 ใหม่ล่าสุดนี้เองที่ทำให้คอนติเนนทัล (Continental) คันนี้สร้างระบบขับเคลื่อนใหม่และมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังลดการปล่อยมลพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 40% เลยทีเดียว
ระบบที่ซับซ้อนแต่โดดเด่นของเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้คือ ระบบการจัดการลูกสูบแปรผัน (Variable displacement) ที่จะเปลี่ยนการทำงานจากเครื่องยนต์ 8 สูบ ไปเป็นการทำงานแบบ 4 สูบขณะที่มีการขับขี่แบบไม่ต้องการความเร็วหรือใช้กำลังของเครื่องยนต์น้อยเพื่อการประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยไอเสีย ความสามารถนี้ได้มาจากการจัดการของระบบการจัดการเครื่องยนต์ที่มีความสลับซับซ้อนและพิถีพิถันในทุกๆ รายละเอียด นอกจากนั้นการเปลี่ยนการทำงานระหว่าง 2 โหมดจะเป็นไปอย่างนุ่มนวลโดยที่ผู้ขับและผู้โดยสารจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงข้ามโหมดการทำงานนี้ได้เลย
เครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงแบบเครื่องยนต์ V8 รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงหรือ Direct Injection แบบแรงดันสูง (high pressure) อีกทั้งยังมีแบริ่งที่มีแรงเสียดทานต่ำ ระบบการจัดการอุณหภูมิ (Thermal Management) และระบบนำพลังงานมาใช้ใหม่ (Energy recuperation) ยิ่งกว่านั้นรถคันนี้ยังมีการติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมชั้นเยี่ยมเข้าไปเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
เสียงของเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มออกมาจะแสดงให้รู้ได้ทันทีว่านี่คือเบนท์ลี่ย์ เครื่องยนต์ 4.0 ลิตร V8 ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย
เครื่องยนต์แบบ V8 ใหม่ล่าสุดได้รับการติดตั้งในรถยนต์ 2 รุ่นคือ คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) และคอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) เพื่อเน้นให้เห็นถึงพละกำลังเครื่องยนต์และรูปทรงที่แข็งแกร่ง รถทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบตาข่ายสีดำวาวที่มีกรอบและแถบกลางแนวตั้งสีโครเมี่ยม อีกทั้งยังมีโลโก้เบนท์ลี่ย์แบบตัวอักษร “B” สีแดงประทับอยู่เพื่อเพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยเช่นกัน
ทางด้านหลังมีความโดดเด่นด้วยท่อไอเสียที่มีปลายท่อแบบ ‘figure eight’ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับด้านท้ายและส่วนล่างของรถอีกด้วย อีกทั้งยังมีโลโก้ ‘B’ สีแดงประทับอยู่บนฝากระโปรงเพื่อเน้นให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ตที่ร่วมสมัยและเป็นเอกลักษณ์ให้กับเครื่องยนต์ V8s ใหม่ล่าสุดคันนี้
ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือสามารถเลือกติดตั้งล้อขนาด 21 นิ้ว 6 ก้านแบบ Diamond Black (สำหรับรุ่น Continental V8) หรือ Diamond Silver ได้
ภายในห้องโดยสารมีความโดดเด่นด้วยวัสดุต่างๆ ระดับพรีเมี่ยมตามแบบฉบับของเบนท์ลี่ย์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ลายไม้ที่ร่วมสมัยที่สุดอย่างเนื้อไม้ Dark Fiddleback Eucalyptus หรือสามารถเลือกติดตั้งเบาะหนังแท้แบบ 2 สีหรือ 2 โทนสีที่ตัดกันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีคอนโซลกลางที่โดดเด่นตามรูปแบบสปอร์ตอีกด้วย
ลูกค้ายังสามารถเลือกคอนติเนนทัล (Continental) แบบเครื่องยนต์ 6 ลิตร 12 สูบที่ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ Flagship จากเบนท์ลี่ย์ได้ และเครื่องยนต์ชนิดนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ twin-turbocharged W12 ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 631 แรงม้าเลยทีเดียว
ทั้ง 2 รุ่นต่างมีเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นระบบส่งกำลังและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มาพร้อมกับเฟืองท้ายของ Torsen และมีอัตราการกระจายแรงบิดหน้า-หลังที่ 40:60 ส่งผลให้รถมีความคล่องตัวสูงแบบรถสปอร์ตและเกาะถนนในทุกๆ สภาวะการขับขี่อีกด้วย
เบนท์ลี่ย์ได้รับความสำเร็จอย่างถล่มทลายด้วยยอดขายที่พุ่งกระฉูดตั้งแต่เปิดตัวรุ่นจีทีไปในปี 2003 ด้วยเครื่องยนต์แบบ W12 ที่โกยยอดขายไปได้ทั่วโลกกว่า 50,000 คัน และด้วยยอดขายที่ร้อนแรงนี้เองที่ทำให้เบนท์ลี่ย์ได้กลายเป็นค่ายรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการผลิตเครื่องยนต์แบบ 12 สูบอีกด้วย และเป็นที่แน่นอนว่าเครื่องยนต์แบบ W12 นี้ก็กลายเป็นจุดเด่นของวิศวกรรมยานยนต์ของเบนท์ลี่ย์ด้วยเช่นกัน
Wolfgang D?rheimer ประธานกรรมการ กล่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวคอนติเนนทัลเครื่องยนต์ V8 นี้ไว้ว่า:
“เราได้เพิ่มเสน่ห์ให้กับคอนติเนนทัล (Continental) รุ่นล่าสุดด้วยการผลิตเครื่องยนต์แบบ V8 4.0 ลิตรรุ่นใหม่นี้ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้สามารถให้ได้ทั้งสมรรถนะและความสุนทรีย์ในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมตามที่คุณต้องการและคาดหวังไว้กับรถเครื่องยนต์ V8 ทุกประการ สิ่งเหล่านี้ได้ถูกเติมเต็มมากขึ้นด้วยนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนที่ช่วยประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”
คอนติเนนทัล (Continental) ในรูปแบบเครื่องยนต์ V8
รูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ตที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
? กระจังหน้าแบบตาข่ายสีดำวาวมาพร้อมกับกรอบและแถบกลางแนวตั้งที่โดดเด่น
? กันชนด้านล่างแบบ 3 ส่วนมาพร้อมกับช่องดักอากาศสีดำและลายสีสันที่ตัดกันเพิ่มความโดดเด่น
? ท่อไอเสียที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยปลายท่อคู่แบบ ‘figure eight’
? โลโก้ ‘B’ จาก Bentley สีแดงได้รับการประดับอยู่บนตะแกรงทางด้านหน้าและฝากระโปรงทางด้านหลัง รวมถึงดุมล้ออีกด้วย
? สีภายนอกมีให้เลือกถึง 7 สี
สปอร์ต และห้องโดยสารภายในที่ร่วมสมัย
? ลายไม้คุณภาพสูงใหม่ล่าสุด Dark Fiddleback Eucalyptus ออกมาเฉพาะสำหรับรุ่น V8 นี้เท่านั้น
? ผ้าบุหลังคาแบบ Eliade ที่ละเมียดละไม
? คอนโซลกลางที่กระทัดรัดมากขึ้น
? สี hide colours แบบมาตรฐานมีให้เลือกถึง 4 สี
? หนังภายในแบบทูโทนหรือ 2 สีที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
? สีหลังคามีให้เลือกถึง 3 สี (สำหรับรุ่นคอนติเนนทัล จีทีซี)
เครื่องยนต์ที่คล่องตัวและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ขนาด 4 ลิตร V8
? อัตราส่วนของพละกำลังเครื่องยนต์ต่อการปล่อยมลพิษที่ลงตัวและแสดงให้เห็นถึงเครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้น
? ระบบการจัดการลูกสูบแปรผันหรือ Variable displacement (เทคโนโลยีชั้นนำที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรุ่นมูซาน) และการลดเครื่องยนต์ลง 4 สูบ
? เครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นนำเพื่อประสิทธิภาพและศักยภาพของเครื่องยนต์ที่เหนือชั้น
? ระบบส่งกำลังหรือระบบเกียร์ 8 จังหวะใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับอัตราการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วขึ้นอีกถึง 6%
? ตัว Turbochargers ติดตั้งอยู่ภายในเครื่องยนต์ ‘V’ เพื่อประสิทธิภาพและการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่รวดเร็วมากขึ้น
? สามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 ไมล์ (800 กิโลเมตร) เมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง
? เครื่องยนต์แบบ V8
? ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และมีการกระจายแรงบิดที่ 40:60 เน้นทางด้านหลัง
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถยนต์เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล V8 (Continental V8) ใหม่ล่าสุดนี้ได้ในรูปแบบวีดีโอที่ www.youtube.com/bentleymotors
สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที V8 ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯ เท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทางเอเอเอสฯ ได้ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ โทร. 02-261-1050-51 เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่
แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ โทร. 02 522 6655 ต่อ 448
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย